JJNY : โพลชี้ ปชช.อยากได้นายก│นิด้าโพล 3 จชต.ชู“ตู่”│"ชูวิทย์"ซัด "กัญชาโมเดล"ของ"อนุทิน"│ชาวยูเครนที่ภูเก็ตรวมตัวชุมนุม

โพลชี้ ปชช.อยากได้นายก เข้าถึงช่วยเหลือ-คิดทันสมัย นโยบายโดนใจ ค่าแรง600
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7531010
 
 
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ เลือกตั้ง 66 ประชาชนอยากได้นายกฯ เข้าถึงช่วยเหลือ-ความคิดทันสมัย นโยบายโดนใจ ค่าแรง 600-เงินเดือน ป.ตรี 25,000
 
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2566 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนกรณี “ประชาชนคิดอย่างไรกับศึกเลือกตั้ง 2566” โดยสำรวจเฉพาะผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 1,031 คน ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ. พบว่า คุณสมบัติของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนอยากได้ อันดับ 1 คือ เป็นคนที่เข้าถึงประชาชน ช่วยเหลือประชาชน 8.18 คะแนน รองลงมาคือ ความคิดทันสมัย วิสัยทัศน์กว้างไกล 8.14 คะแนน
  
ด้านนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่โดนใจประชาชน อันดับ 1 คือ เน้นเศรษฐกิจ ค่าแรง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วประเทศ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ยาเสพติดหมดไป 7.73 คะแนน รองลงมา คือ รื้อ ลด ปลด สร้าง 7.67 คะแนน
 
โดยผลงาน/โครงการของพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก ส.ส. ครั้งนี้ คือ สิทธิสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ร้อยละ 49.24 รองลงมาคือ การขึ้นค่าแรง ร้อยละ 36.30 และการปรับโครงสร้างหนี้ ลดหนี้ ร้อยละ 26.72
 
การเลือกตั้งปี 2566 ประชากรกลุ่มอายุ 18-42 ปี มีจำนวนกว่า 22 ล้านเสียง กลุ่มตัวอย่างกลุ่มนี้ชอบแคนดิเดตที่เป็นผู้นำที่เด็ดขาด เชื่อมั่นในตัวเอง ความคิดทันสมัย วิสัยทัศน์ดี ส่วนนโยบายที่โดนใจ คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแก้กฎหมาย ปิดสวิตช์ 3 ป.
 
ส่วนกลุ่มอายุ 43 ปีขึ้นไปรวมกว่า 29 ล้านเสียง กลุ่มตัวอย่างชอบแคนดิเดตที่เข้าถึงประชาชน ชอบนโยบายลดหนี้ และสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อต่อกัน การเลือกตั้งหนนี้ทุกพรรคเร่งทำพื้นที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แม้จะยังไม่ยุบสภาแต่ทุกเสาทุกพื้นที่เริ่มเต็มไปด้วยป้ายหาเสียง จากลักษณะแคนดิเดตและนโยบายที่ชอบก็พอจะสะท้อนลักษณะพรรคการเมืองที่สนใจได้ หน้าตาของรัฐบาลใหม่อาจผสมผสานสุดขั้วแบบที่ไม่เคยเห็นหรืออาจจะเป็นหน้าเดิมที่เห็นมาตลอดก็เป็นได้



นิด้าโพล 3 จชต.ชู “ลุงตู่” นายกฯ ขณะ “วันนอร์” ที่ 2
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_507576/

นิด้าโพล 3 จชต.ชู “ลุงตู่” นายกฯ ขณะ “วันนอร์” ที่ 2- ประชาชาติแรงแซงปชป.-รทสช.
 
“นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชำชน เรื่อง“คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่10-20กุมภาพันธ์ 2566 จากประชำชนที่มีอำยุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,100 หน่วยตัวอย่าง
 
จากการสำรวจเมื่อถำมถึงบุคคลที่คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 19.82 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ ขณะที่บางส่วนระบุว่าจะได้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา อันดับ 2 ร้อยละ 17.55 ระบุว่าเป็น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงาน เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง
 
อันดับ 3ร้อยละ 16.73ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคที่ผ่านมาสามารถทำได้จริง และชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตรอันดับ 4 ร้อยละ 10.45 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ ได้อันดับ 5 ร้อยละ 9.82 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ กล้าคิด กล้าทำ ชื่นชอบแนวคิดและวิธีการทำงาน และชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล
 
อันดับ 6 ร้อยละ 5.91 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา และชื่นชอบวิธีการทำงาน อันดับ 7 ร้อยละ 4.18ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริงทำจริง มีความซื่อสัตย์สุจริต ชื่นชอบรูปแบบการทำงาน และชื่นชอบนโยบายของพรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 3.64 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ชื่นชอบนโยบายของพรรคไทยสร้ำงไทย และต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ
 
อันดับ 9 ร้อยละ 2.91 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะชื่นชอบนโยบายของพรรคภูมิใจไทย และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา อันดับ 10 ร้อยละ 2.27 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ เป็นคนมีความรู้ ความสามรถ มีประสบการณ์ในการบริ หารประเทศ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และชื่นชอบนโยบายของพรรคชำติพัฒนากล้า
 
สำหรับพรรคการเมืองที่คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มจะเลือกให้เป็ น ส.ส. แบบแบ่งเขต ในวันนี้พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 22.64ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติอันดับ 2 ร้อยละ 19.64ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทยอันดับ 3 ร้อยละ 15.27 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์อันดับ 4 ร้อยละ 12.91 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติอันดับ 5 ร้อยละ 10.73 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 6 ร้อยละ 4.91 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ
 
อันดับ 7 ร้อยละ 3.82 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทยอันดับ 8 ร้อยละ 3.18 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจอันดับ 9 ร้อยละ 2.36ระบุว่าเป็นพรรคเสรีรวมไทยอันดับ 10 ร้อยละ 1.45 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนากล้าและพรรคไทยสร้างไทยในสัดส่วนที่เท่ากัน
 
ด้ำนพรรคการเมืองที่คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันนี้พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 20.64 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทยอันดับ 2 ร้อยละ 19.91 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติอันดับ 3 ร้อยละ 14.73 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ร้อยละ 13.55ระบุว่าเป็ น พรรครวมไทยสร้างชาติอันดับ 5 ร้อยละ 10.73 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
 

  
"ชูวิทย์"ลั่นสัปดาห์หน้าบุกสาธารณสุข ซัด "กัญชาโมเดล"ของ "อนุทิน"ทำไทยเป็นศูนย์กลางยาเสพติด
https://siamrath.co.th/n/426321

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจกลางคืน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”  หัวข้อ “กัญชา พี้เพื่อชาติ!” มีเนื้อหาดังนี้...

กัญชา พี้เพื่อชาติ!
 
อนุทินทำเป็นห่วงเด็กเยาวชนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า แต่ทีกัญชาพี้กันทั้งบ้านทั้งเมืองไม่ห่วงหรือไง? แล้วบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชาอะไรมันน่ากลัวมากกว่ากันไม่ทราบ? ประเทศไทยจะกลายเป็น “ศูนย์กลางยาเสพติด” โดยมีสารตั้งต้นจาก “กัญชาโมเดล” ของพรรคภูมิใจไทย
 
จะมีใครปลูกในบ้าน 6 ต้นแล้วเอาไว้ใช้ในการรักษาโรคบ้าง เพราะการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์มีวิธีการปลูกที่แตกต่างกันมาก ส่วนใหญ่ปลูกไว้พี้เอง หรือเอาไปขายให้เด็กทำไมไม่ใช้สมองซีกขวาคิด?
 
และที่ นายอนุทิน พรรคภูมิใจไทย กระทำการได้ถึงขนาดนี้ เพราะ “นายกประยุทธ์” เกรงใจ ไม่กล้าแตะถึงกำเริบเสิบสาน ต้องพึ่งให้สนับสนุนการอยู่ต่อในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เท่านั้นเอง
 
เดี๋ยวนี้ หาซื้อกัญชาง่ายเสียกว่าซื้อบุหรี่ ทุกที่มีขายกันหมดทุกหัวถนน ถามจริงๆ ว่า คนซื้อจะมีถึงสัก 10% ไหมที่ใช้รักษาทางการแพทย์ เพราะอีก 90% ใช้พี้กันทั้งนั้น หากรักษาโรคทางการแพทย์จริง ทำไมไม่ไปขายในโรงพยาบาล และให้หมอออกใบสั่งยามาให้เลยล่ะครับ? แต่นี่กลับตั้งรถขายกัญชาทุกหัวมุมถนน ตั้งร้านขายกันทั่วบ้านทั่วเมือง
 
นี่เป็น “นโยบาย” ที่ทำร้ายชาติมากสุดตั้งแต่มีการตั้งพรรคการเมืองมา เพราะออกมาแค่ “กฎกระทรวง” เพื่อไปปลดกัญชาออกจากบัญชี “ยาเสพติด” ใน พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 อีกทั้งยังคิดจะเอาเข้าสภา ให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด
การรณรงค์ทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ จึงขอล็อกเป้า “พรรคภูมิใจไทย” ว่า ต้องไม่ให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก คงคิดว่า “นโยบายกัญชา จะทำให้เพิ่มคะแนน ทำจริง ทำได้ ทำจนเด็กเยาวชนติดกัญชา”
 
แล้วยังมาทำพูดดีว่า “ห่วงเด็กเยาวชน” ให้เหม็นขี้ฟัน บอกว่ามีกฎไม่ให้ซื้อ แต่การเข้าถึงง่ายกว่าซื้อบุหรี่ไฟฟ้า รออาทิตย์หน้าถึงคิวกระทรวงสาธารณสุข ได้เจอกันแน่ไอ้หนู
 
โถ ทำเป็นธรรมะธรรมโม รู้จักเอ่ยคำพระ “สัพเพ สัพตา” แต่ไม่ทราบว่า ลูกใครดูดกัญชาทั้งวันจนสมองเพี้ยนหมด “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” จริงๆ สาธุ

https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/762412598583556
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่