แชร์ trick การขอวิซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ (UK Visa) ที่อเมริกาด้วยตัวเองง่ายๆ ได้ตอบรับใน 3 สัปดาห์_2023

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปครับ เกิดเป็นคนไทยเราก็ดีหลายอย่าง จะไม่ดีก็แต่เวลาจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทีไร ก็ต้องมาวุ่นวาย เสียแรงกายและแรงใจ (ในการภาวนา) ขอวิซ่าทุกที วันนี้ผมก็เลยจะมาเล่า + รีวิวการขอวิซ่าท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักรของคนที่ตัวอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกาให้เพื่อนๆฟังกันนะครับ โดยจะขอเล่าเป็นข้อๆ เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ เชิญฟังกันเลยคร้าบ 

1. ขั้นตอนการสมัคร
- กรอกใบสมัคร ขั้นตอนแรกเราก็เข้าไปที่หน้าเว็บของสถานทูตอังกฤษครับ จากการก็ทำการสมัครบัญชี กรอกข้อมูลให้ครบ ซึ่งข้อมูลจะมีเยอะมาก เช่น ที่อยู่ในอดีต งานที่เคยทำ ประเทศที่เคยไป และข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองและการก่อการร้าย แต่ก็ดีตรงที่เราไม่ต้องกรอกรวดเดียว สามารถกรอกทีละส่วน กดเซฟแล้วมากรอกต่อได้ โดยสามารถสมัครล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หรือจะกระชั้นชิดกว่านั้นก็ได้ (ผมสมัครก่อนบินเดือนกว่าๆ 5555 แต่อย่าหาทำ เหนื่อยลุ้น) -->สมัครได้ที่ลิ้งค์นี้เลยย https://www.gov.uk/government/publications/usa-apply-for-a-uk-visa/apply-for-a-uk-visa-in-the-usa
- จ่ายเงิน ต่อมาพอกรอกข้อมูลเสร็จ เราก็จ่ายตังค์ โดยจะอยู่ที่ 100 gbp ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนตอนผมสมัครคือ 127 usd แพงมาก ถ้าเราไม่ต้องเสียเงินขอวิซ่าก็คงจะดี ว่าแต่มันจะมีวันนั้นไหม? ซึ่งราคาจะขึ้นกับระยะเวลาที่เราจะอยู่ในประเทศ โดยปกติจะอยู่ที่ 6 เดือน ถ้าอยู่ 1 ปี 2 ปี (เข้าออกได้หลายครั้ง) ก็จ่ายแพงขึ้นไปอีก 
- นัดวันให้ข้อมูล biometric โดยสถานทูตอังกฤษจะทำหน้าที่พิจารณาอนุมัติวิซ่าเท่านั้น ส่วนขั้นตอนยิบย่อยจะให้ตัวแทน นั่นคือ VFS เป็นคนจัดการ เราก็ต้องนัดวันที่จะเข้าไปถ่ายรูปและสแกนนิ้วกับศูนย์ VFS ซึ่งถ้าใครอยู่หัวเมืองหลักก็คงไม่มีปัญหา แต่ใครที่อยู่เมืองรองก็ไม่ต้องห่วงครับ เราสามารถเข้าไปให้ข้อมูลได้ที่ศูนย์วิซ่า ซึ่งรัฐบาลอเมริกาดำเนินการได้ครับ มีอยู่ทั่วทุกรัฐ -->เข้าไปดูได้ที่นี่เลยย https://www.gov.uk/find-a-visa-application-centre 

2. เอกสารที่ต้องใช้ 
เอกสารก็จะมีหลายอย่างที่เราต้องเตรียมครับ สามารถอ้างอิงตามหน้าเว็บได้เลย ซึ่งมีเยอะมาก แต่ๆ ไม่ต้องปวดหัวครับ ผมมีทริกจะมานำเสนอที่ด้านล่าง 

4. การส่งเอกสาร 
เราสามารถอัพโหลดเอกสารต่างๆออนไลน์ได้ที่หน้าเว็บ VFS ได้เลยครับ แต่มันก็ต้องมีการส่งพาสปอร์ตไปเพื่อติดวิซ่า ถ้าเราไม่ได้อัพโหลดเอกสาร ก็สามารถส่งไปพร้อมกับพาสปอร์ตได้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อ package ที่ศูนย์วิซ่า แล้วให้เขาส่งให้เลย หรือจะออกมาส่งเองข้างนอกได้ 

5. Trick!
- เอกสารไม่ต้องเตรียมเยอะ ไม่ต้องประโคมทุกสิ่งอย่าง เพราะการที่เราได้วิซ่าอเมริกาหมายความว่าเครดิตเราดีมากแล้ว ยิ่งเอกสารเยอะวลาพิจารณายิ่งนาน เอกสารที่ต้องเตรียมมีแค่หลักฐานการมีสิทธิอยู่ในอเมริกา เช่น วิซ่าอเมริกา ถ้ามาเรียนที่อเมริกาอย่างผมก็หลักฐานการเป็นนักเรียน ถ้ามาทำงานก็หลักฐานการทำงาน แล้วที่สำคัญคือหลักฐานการเงิน เรามีเงินมากพอเที่ยวไหม อาจเรียกได้ว่าโชว์ statement อย่างเดียว จบ 
ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถใดๆยังไม่จำเป็นต้องจอง แผนการท่องเที่ยวยังไม่ต้องทำ เพียงแค่กรอกในระบบสมัครว่าจะไปเมืองไหนบ้าง จะพักที่เมืองไหนบ้าง คร่าวๆ พอให้เจ้าหน้าที่รู้ว่าเรามีแผน อันนี้สถานทูตบอกเองเลย เพราะบางทีมันจะใช้เวลาพิจารณานาน เราอาจเสียหายได้ 
- การส่งเอกสารไปนิวยอร์ก แนะนำให้ซื้อแพคเกจแล้วส่งที่ศูนย์วิซ่าเลย ไม่ต้องออกมาส่งเอง ราคาแพงกว่านิดหน่อย แต่สะดวกกว่ามาก และเอกสารที่เราอัพโหลดในระบบแล้ว ไม่ต้องปรินท์มาส่งอีกทีก็ได้ เพราะเขาก็ส่งกลับคืนมาอยู่ดี 
- ระยะเวลาที่วิซ่าจะอนุมัติ แตกต่างตามประเทศที่เราอยู่ สามารถดูได้ที่หน้าเว็บสถานทูตเลย อย่างในอเมริกาบอกว่าสามสัปดาห์ แต่ความจริงเร็วกว่านั้น อย่างผมตั้งแต่เข้าไปให้ข้อมูลลายนิ้วมือกับถ่ายรูป จนถึงวันที่พาสปอร์ตส่งกลับมา รวมแล้วสามอาทิตย์นิดๆ ทั้งนี้ผมว่าแล้วแต่ช่วงนั้นจะมีคนขอมาขอน้อยด้วยแหละ 

จบแล้วคร้าบบ ส่วนตัวคิดว่าวิซ่าท่องเที่ยวอังกฤษของ่ายมากเลยทีเดียว อาจเพราะประวัติกับเครดิตเราดีด้วยแหละ 5555 ซึ่งผมก็มองว่าเรื่องพวกนี้บางทีก็เหมือนเครดิตบูโรนะ คนของ่ายก็ง่าย บางคนขอวนไปก็ไม่ผ่านสักที ขึ้นกับว่าในอดีตเราทำดีไว้มากแค่ไหน เริ่มเก็บเวลพวกสิงคโปร์ ญี่ปุ่นไว้ก่อน พอมาขอขออเมริกากับอังกฤษก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกอย่างเลยคือเงิน โยนเงินเข้าบัญชีพอประมาณ ให้เขารู้ว่าเรามีเงินเที่ยวนะ ไม่ได้จะไปอดๆอยากๆ (ถึงแม้ความจริงจะเที่ยวประหยัดมากก็ตาม 5555) ซึ่งทริปนี้เริ่มต้นขอวิซ่าก็น่ารักแล้ว หวังว่าประเทศอังกฤษจะน่ารักกับผม ไม่ต้องสู้ชีวิตเหมือนที่คิวบานะครับ  เดือนหน้าอย่าลืมแวะเข้ามาอ่านทริปอังกฤษผมนะคร้าบบบ มีทั้งเมืองหลัก เมืองรอง รับรองว่าสนุกแน่นอน 



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่