เป็นโรคซึมเศร้ามีผลต่อการสมัครงานด้วยหรอ?

สวัสดีค่ะ เราอายุ20 ตอนนี้กำลังจะเรียนจบ ปวส.และกำลังจะหางานทำ แต่ว่าเราเป็นซึมเศร้า และรักษามา3ปีแล้วทุกคนในครอบครัวรู้แต่ทุกคนยังทำกับเราเหมือนเดิม ยังคงกดดันเราเหมือนเดิม และทุกครั้งที่เจอหน้ายายและเราบอกเกี่ยวกับอาการของเรา ยายมักจะตั้งคำถามเสนอว่า เป็นโรคนี้จะหางานทำได้หรอ และมักจะพูดกับเราเสมอว่า อย่าเที่ยวไปบอกให้ใครรู้ล่ะว่าเป็นแบบนี้ถ้าคนอื่นรู้คงไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน คือเราอยากรู้จริงๆว่าคนที่เป็นโรคนี้ไม่สามารถทำงานได้จริงๆหรอ  ไปสมัครงานที่ไหนถ้าเค้ารู้เค้าจะไม่รับจริงๆหรอ เราอยากรู้มากจริงๆ เพราะทุกวันนี้เราคิดมากตลอดกับคำพูดนี้ เรากลัวว่าเราจะไม่มีงานทำ  เรากลัวการถูกมองว่า เป็นคนสติไม่ดีที่ต้องพบจิตแพทย์ทุกๆ3เดือน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวบางคนเช่นแม่รึยายที่มักจะมองว่าโรคนี้ไร้สาระเสมอ จนกลายเป็นคนที่กลัวการที่จะบอกคนในครอบครัวว่าตอนนี้อาการเราดีขึ้นรีแย่ลง นอกจากคุณหมอ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องส่วนตัวบางเรื่องก็ควรเก็บไว้กับตัวเราดีกว่า เพราะว่าคนอื่นก็แค่อยากรู้เรื่องเรา
จะเอาไปนินทาหรือไม่ก็ไม่รู้ และที่สำคัญคือไม่ช่วยอะไรเราเลย
หนำซ้ำบางคนยังซ้ำเติมเราอีก กินยาแล้วยัง? ทำไมยังไม่หาย? อาการหนักแล้วนะ...
พยายามอย่าคาดหวังว่าเขาจะเข้าใจเรา
ให้มีสติมองตัวเองและรักษากับแพทย์นะ รักตัวเองให้มากๆ
พยายามวางเป้าหมายของชีวิตไว้แม้จะเป็นเป้าหมายเล็กๆ ระยะสั้นก็ยังดีนะ จดบันทึกไว้เลยทุกๆวัน
ขึ้นชื่อว่าเป็นโรค มันคือโรค เพราะเราเป็นโรคเราถึงเศร้า เราถึงทุกข์
ถ้าเราไม่เป็น ถ้าเราหาย ชีวิตก็ไม่ได้แย่นะ เราจะมองชีวิตสวยงามขึ้นเยอะเลย

ที่สำคัญตอนสมัครงานก็ไม่มีถามนะ ว่าเป็นโรคอะไรรึเปล่า นอกจากโรคติดต่อ
และไม่มีประวัติอะไรเลย ที่ผ่านเราไม่เคยต้องบอกโรคประจำตัวอะไรเลย
และเราก็ไม่จำเป็นต้องบอกเขาด้วยอะ เรื่องส่วนตัวเราเลือกได้ ว่าจะบอกหรือไม่

บางทีชอบมีบทความว่าคนเป็นโรคซึมเศร้า ต้องบอกคนอื่น บอกที่ทำงานให้รู้ เขาจะเข้าใจและช่วยเรา
ถามว่าก็เปอร์เซนต์ที่เข้าใจ ทำงานกันต่างคนก็ต่างหน้าที่ คาดหวังกันแค่ผลของงาน แค่นั้น
ส่วนตัวเราแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอก ถ้าไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอ่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่