ภาษาฝรั่งเศสดำรงสถานะภาษากลางของโลกอีกหนึ่งภาษาไว้ได้อย่างไร

อยากทราบครับว่า ภาษาฝรั่งเศสดำรงสถานะภาษากลางของโลกอีกหนึ่งภาษาไว้ได้อย่างไร จากที่ในช่วงหนึ่งเป็นภาษากลางของวงการการทูต ชนชั้นนำในหลายประเทศนิยมเรียนเป็นภาษาที่สอง ทว่าต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สองสถานะก็ลดลง โดยภาษาอังกฤษก้าวขึ้นมามีบทบาทนำแทน (ก่อนหน้านั้นในสมัยจักรวรรดินิยมที่อังกฤษและฝรั่งเศสมีอาณานิคมโพ้นทะเล ทั้งสองภาษาน่าจะมีสถานะใกล้เคียงกัน โดยภาษาฝรั่งเศสอาจสำคัญมากกว่าภาษาอังกฤษเล็กน้อย หลังสงครามโลกครั้งที่สองอเมริกาก้าวขึ้นมามีบทบาททำให้ภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากขึ้น) ทว่าในปัจจุบันภาษาฝรั่งเศสยังสำคัญ ทั้งในวงการทูต ที่พระราชสาส์นตราตั้ง, อักษรสาส์นตราตั้ง (Letter of Credence) ยังคงรักษาธรรมเนียมในการเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส กฎหมายระหว่างประเทศจะร่างและจัดทำในภาษาฝรั่งเศส อีกทั้งภาษาฝรั่งเศสยังเป็น Working Language ขององค์การระหว่างประเทศหลายองค์การ เช่นสหประชาชาติ (ร่วมกับภาษาอังกฤษ) และสหภาพยุโรป (ร่วมกับภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน) เป็นต้น อยากทราบว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นครับ เมื่อเทียบกับภาษาอื่น ที่ใช้ในหลายประเทศและมีผู้พูดจำนวนมากอย่างภาษาสเปน (มากกว่าภาษาฝรั่งเศส) ทว่าก็ยังไม่เทียบเท่าภาษาฝรั่งเศส ตรงนี้ คหสต. มองว่าน่าจะเพราะฝรั่งเศสเป็นแกนหลักในการวางระเบียบโลก รากฐานทางวัฒนธรรมหลายอย่างมาจากภาษานี้ เลยยังสำคัญอยู่

ในกรณีของประเทศไทย เคยมีกระทู้ถามเมื่อหลายปีก่อนทำนองว่าทำไมถึงยังมีศิลป์ภาษาฝรั่งเศส ในขณะที่ภาษาอื่นๆ อย่างภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นสำคัญมากขึ้น ตรงนี้มีหลายคนตอบแล้วว่าเพราะมีสมาคมครูภาษาฝรั่งเศส อยากทราบว่ามีสาเหตุจากอะไรอีกหรือไม่ครับ คหสต. มองว่าถ้ามีความพร้อม โดยเฉพาะโรงเรียนใหญ่ๆ ก็ควรคงไว้ครับ ในระดับมหาวิทยาลัยเช่นกัน เพราะแม้สถานะจะไม่เท่าอดีต แต่การติดต่อก็ยังมีอยู่เสมอ จำเป็นต้องผลิตบุคคลที่มีความรู้ทางภาษาต่างๆ ออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้การติดต่อเป็นไปได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะภาษาอังกฤษแพร่หลายมากขึ้น หรือเทคโนโลยีแปลภาษาดีขึ้นหรือไม่ แต่ ณ ตอนนี้ถ้ามีความพร้อมควรคงไว้

รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่