28 ปีที่หมอสุภัทร มาอยู่ที่นี่ มันก็น่าจะดีกว่านี้ ว่าไปก็ดีเหมือนกัน คือมันนานเกินไป ตรงนี้
“ย้ายไปก็ดี แต่แกไม่ไป เพราะว่าหลายเรื่อง ดูภายนอกก็ดี แต่มีหลายเรื่องนะ คนคนนี้ หลายเรื่องเก่ง”
“คนเขาไม่กล้าพูด คนนี้มีอิทธิพล แค่หมอคนหนึ่งย้าย ทำให้เดือดร้อนทั้งประเทศ ออกสื่ออะไรกัน แล้วแกก็อยู่นานนะ คนอื่นอยู่ไม่กี่ปีก็ย้ายแล้ว คนในพื้นที่รู้หลายเรื่องเหมือนกัน แต่พูดไม่ได้ ไม่ค่อยมา รพ.จะนะ เพราะที่นี่รักษาไม่ได้ เป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำ แค่มาขอใบส่งตัว น่าจะถึงเวลาแล้วนะ เพราะมันนานเกินแล้ว อยู่มา 20-30 ปีแล้ว"
“เขาจะเปลี่ยนสถานที่ แต่แก (สุภัทร)ไม่ไป อยู่ที่เดิม สร้างตึกเพิ่ม อยู่แต่บริเวณแคบๆ คนไข้เวลาไปนั่ง ร้อนเหมือนกัน ไปแออัดกันอยู่ข้างล่าง”
“เขาเส้นใหญ่ อยู่มานานแล้ว จะนะเป็นแหล่งเงินพอสมควร ใครก็อยากมาอยู่ มาอยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะไป”
ทีมตรวจสอบภายใน บุก รพ.จะนะ
ชัดเจนแล้วว่า คำสั่งตรงโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จาก ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อยจังหวัดเดียวกันนั้น เป็นปฏิบัติการจับคนโกงบางคนที่อยู่ในตำแหน่งจนรากงอกมานานแสนนาน
เอาเข้าจริง เรื่องฉาวโฉ่ ในเครือแพทย์ชนบทนั้น มีมาตลอด กระทั่งในช่วงโควิด 19 ระบาด ก็ยังกลายเป็นโอกาส ในการหากินกับความเป็นความตายของประชาชน ปรากฏทั้งข่าวล็อกสเป็กการจัดหา ATK ขับเคลื่อนโดย “บิ๊กเนมแพทย์ชนบท” บางคน ไปจนถึงการรับผู้ป่วยไปรักษา ที่สงสัยว่า เงินที่เบิก กับจำนวนคนนั้น ไม่สอดคล้องกัน
กับหมอสุภัทรนั้น อยู่ในตำแหน่งมา 24 ปี มีการตรวจสอบพฤติกรรมกันมาตลอด โดยส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข และไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงของรัฐมนตรีชื่อ “อนุทิน” ทว่ามีการจับตามองมานานมากแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่กลุ่ม “อาจารย์หมอ” ขึ้นมาผงาด
แต่ช่วงเวลานั้น “หมอสุภัทร” เลือกที่จะเก็บตัวเงียบในพื้นที่ปลายด้ามขวาน ตามประสาคนอยู่เป็น จึงกลายเป็นผู้อยู่รอด กระทั่งขึ้นมาเป็นประธานชมรมในที่สุด ซึ่งผู้ที่เป็นประธานชมรมก่อนหน้านี้ อย่างหมอเกรียงศักดิ์ วัชระนุกูเกียรติ ก็มีเรื่องเน่าๆ ค้างอยู่ใน ปปช.
หมอสุภัทร ขึ้นมาเป็นประธานชมรม ในช่วงการเมืองนักเลือกตั้ง จึงกล้าหือ กล้าอือ เพราะรู้ว่า รัฐมนตรีคนปัจจุบัน เป็นคนแข็งนอก อ่อนใน แม้จะมีเรื่องงัดแง่ง แต่นายอนุทิน มักเลือกกลืนเลือดมากกว่าเข้าปะทะ โดยที่หมอสุภัทรเอง ไม่รู้เลยว่าชกผิดคนมาโดยตลอด
เพราะคู่ชกตัวจริงของหมอสุภัทร คือ ระบบส่วนกลางของกระทรวงฯ ที่มอนิเตอร์หมออยู่ตลอด เนื่องจากระบบกลาง ก็หงุดหงิดกับเครือข่ายแพทย์ชนบทที่ถูกโอ๋โดยผู้บริหารมาในหลายยุคหลายสมัย เนื่องจากมากเครือข่าย แม้จะไร้ผลงาน แต่เสียงดังกว่าใคร ไม่ว่าใครเข้ามาก็ต้องกลัว แม้กระทั่งในยุคอนุทิน ถ้าดูกันให้ลึกๆ จะพบว่า กลุ่มแพทย์ชนบทได้เก้าอี้สำคัญไปหลายตัว
กระทั่งล่าสุด เมื่อนายอนุทิน ค่อยๆ ถอยจากตำแหน่ง เพื่อไปทำศึกเลือกตั้ง นื่คือโอกาสที่ “คนใน สธ.” กลับมาผงาด ที่น่าจะหมายถึงการล้างบางด้วย
ล่าสุด เดินเกมเร็วส่งคนเข้าพื้นที่ รพ.จะนะ เดินหน้าปฏิบัติการจับโกงแล้ว
ที่มา.
https://www.facebook.com/SOTHLAND
สุภัทร มาฟังเสียงชาวบ้านในพื้นที่จะนะ จริงๆบ้าง แต่ละคำพูด เจ็บๆ ทั้งนั้น
“ย้ายไปก็ดี แต่แกไม่ไป เพราะว่าหลายเรื่อง ดูภายนอกก็ดี แต่มีหลายเรื่องนะ คนคนนี้ หลายเรื่องเก่ง”
“คนเขาไม่กล้าพูด คนนี้มีอิทธิพล แค่หมอคนหนึ่งย้าย ทำให้เดือดร้อนทั้งประเทศ ออกสื่ออะไรกัน แล้วแกก็อยู่นานนะ คนอื่นอยู่ไม่กี่ปีก็ย้ายแล้ว คนในพื้นที่รู้หลายเรื่องเหมือนกัน แต่พูดไม่ได้ ไม่ค่อยมา รพ.จะนะ เพราะที่นี่รักษาไม่ได้ เป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำ แค่มาขอใบส่งตัว น่าจะถึงเวลาแล้วนะ เพราะมันนานเกินแล้ว อยู่มา 20-30 ปีแล้ว"
“เขาจะเปลี่ยนสถานที่ แต่แก (สุภัทร)ไม่ไป อยู่ที่เดิม สร้างตึกเพิ่ม อยู่แต่บริเวณแคบๆ คนไข้เวลาไปนั่ง ร้อนเหมือนกัน ไปแออัดกันอยู่ข้างล่าง”
“เขาเส้นใหญ่ อยู่มานานแล้ว จะนะเป็นแหล่งเงินพอสมควร ใครก็อยากมาอยู่ มาอยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะไป”
ทีมตรวจสอบภายใน บุก รพ.จะนะ
ชัดเจนแล้วว่า คำสั่งตรงโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จาก ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อยจังหวัดเดียวกันนั้น เป็นปฏิบัติการจับคนโกงบางคนที่อยู่ในตำแหน่งจนรากงอกมานานแสนนาน
เอาเข้าจริง เรื่องฉาวโฉ่ ในเครือแพทย์ชนบทนั้น มีมาตลอด กระทั่งในช่วงโควิด 19 ระบาด ก็ยังกลายเป็นโอกาส ในการหากินกับความเป็นความตายของประชาชน ปรากฏทั้งข่าวล็อกสเป็กการจัดหา ATK ขับเคลื่อนโดย “บิ๊กเนมแพทย์ชนบท” บางคน ไปจนถึงการรับผู้ป่วยไปรักษา ที่สงสัยว่า เงินที่เบิก กับจำนวนคนนั้น ไม่สอดคล้องกัน
กับหมอสุภัทรนั้น อยู่ในตำแหน่งมา 24 ปี มีการตรวจสอบพฤติกรรมกันมาตลอด โดยส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข และไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงของรัฐมนตรีชื่อ “อนุทิน” ทว่ามีการจับตามองมานานมากแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่กลุ่ม “อาจารย์หมอ” ขึ้นมาผงาด
แต่ช่วงเวลานั้น “หมอสุภัทร” เลือกที่จะเก็บตัวเงียบในพื้นที่ปลายด้ามขวาน ตามประสาคนอยู่เป็น จึงกลายเป็นผู้อยู่รอด กระทั่งขึ้นมาเป็นประธานชมรมในที่สุด ซึ่งผู้ที่เป็นประธานชมรมก่อนหน้านี้ อย่างหมอเกรียงศักดิ์ วัชระนุกูเกียรติ ก็มีเรื่องเน่าๆ ค้างอยู่ใน ปปช.
หมอสุภัทร ขึ้นมาเป็นประธานชมรม ในช่วงการเมืองนักเลือกตั้ง จึงกล้าหือ กล้าอือ เพราะรู้ว่า รัฐมนตรีคนปัจจุบัน เป็นคนแข็งนอก อ่อนใน แม้จะมีเรื่องงัดแง่ง แต่นายอนุทิน มักเลือกกลืนเลือดมากกว่าเข้าปะทะ โดยที่หมอสุภัทรเอง ไม่รู้เลยว่าชกผิดคนมาโดยตลอด
เพราะคู่ชกตัวจริงของหมอสุภัทร คือ ระบบส่วนกลางของกระทรวงฯ ที่มอนิเตอร์หมออยู่ตลอด เนื่องจากระบบกลาง ก็หงุดหงิดกับเครือข่ายแพทย์ชนบทที่ถูกโอ๋โดยผู้บริหารมาในหลายยุคหลายสมัย เนื่องจากมากเครือข่าย แม้จะไร้ผลงาน แต่เสียงดังกว่าใคร ไม่ว่าใครเข้ามาก็ต้องกลัว แม้กระทั่งในยุคอนุทิน ถ้าดูกันให้ลึกๆ จะพบว่า กลุ่มแพทย์ชนบทได้เก้าอี้สำคัญไปหลายตัว
กระทั่งล่าสุด เมื่อนายอนุทิน ค่อยๆ ถอยจากตำแหน่ง เพื่อไปทำศึกเลือกตั้ง นื่คือโอกาสที่ “คนใน สธ.” กลับมาผงาด ที่น่าจะหมายถึงการล้างบางด้วย
ล่าสุด เดินเกมเร็วส่งคนเข้าพื้นที่ รพ.จะนะ เดินหน้าปฏิบัติการจับโกงแล้ว
ที่มา. https://www.facebook.com/SOTHLAND