สวัสดีครับ ผมตอนนี้ในวัย 28 กับโรควิตกกังวลจะมาเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเอง อาจจะเล่างงๆ ต้องขอโทษทุกคนด้วยตอนนี้สมองผมไม่ปกติเหมือนเดิมแล้ว ถ้าเล่าวกไปวนมา หรือสลับ timeline ผมขออภัยด้วยครับ คอมเมนท์ถามเพิ่มได้ครับ
ผมเรียนจบมา ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ หลังจากนั้นทำงานได้ราวๆ สองเดือน แม่โทรมาบอกว่าบ้านจะถูกยึดแล้ว (คือปิดบังมาตลอดว่าเป็นหนี้ ไม่ยอมบอก จนเราเรียนจบ ให้เหตุผลว่าถ้าบอกกลัวเรียนไม่จบ) หลังจากนั้นโลกคือเหมือนสีเทาไปเลย ตอนนั้นผมเงินเดือน 22,000 เงินเข้ามาแล้วตอนกลางคืน บางเดือนโอนเงินไปจ่ายหนี้ผ่อนบ้านไม่ให้โดนยึด โอนไปหมดเลย แล้วค่อยคิดว่าเอาเงินจากไหนมากิน บางทีรับงานนอก เขียนแอพ 500 บาทก็รับ (บางคนต่อราคาอีก)
ผมใช้ชีวิตมาแบบนี้มาเรื่อยๆ พยายามถามที่บ้านว่าหนี้เท่าไหร่ ผมจะได้วางแผน ทางบ้านก็ไม่ยอมบอก จุดนี้คือผมเริ่มเกลียดที่บ้านแล้ว ผมไม่เข้าใจอะไรเลยว่าทำอะไรกันอยู่ พยายามทำเท่าที่ทำได้คือโอนเงินให้ทุกเดือน หลังจากนั้นให้ที่บ้าน ขายบ้านทิ้งเลย จนกระทั่งถามวันนึงทางบ้านก็บอกว่ายอดราวๆ 7 แสน รวมดอกเบี้ย และเป็นหนี้นอกระบบทั้งหมด ดอกเบี้ยเดือนละ 2 หมื่น ตอนนั้นผมเหมือนแทบทรุด โลกทั้งใบไม่เหลืออะไรแล้ว คือนี่งคิดทุกวันว่าเราใช้เท่าไหร่ถึงหมดเนี่ย ให้เงินเดือนไปแทบจะหมด ยังโปะได้แค่ดอกเบี้ย
จนทางบ้านไปคุยกับเจ้าหนี้ว่าให้หยุดคิดดอกเบี้ย หลังจากนั้นส่งเดือนละ 10000 ทุกเดือน ทางเขาก็โอเค ผมใช้ชีวิตแบบว่า พยายามตั้งใจทำงาน ทำให้ตัวเองเก่ง พัฒนาตัวเอง และงานหนักมาก ทางบริษัทไม่เคยมีโบนัสเลยใสตอนนั้น ได้โบนัสครั้งแรก เอาเงินโปะหนี้อีก ได้โบนัสรอบที่สอง เอาไปโปะอีก มีหนี้เจ้านึง เงินต้น 5 หมื่น รวมดอกแล้ว120000 ผมหมดแรงมาก คือเหมือนโบนัสที่ตอบแทนความพยายามมา เอามาโยนทิ้ง ตอนนั้นทางบ้านไปคุยจนเหลือจ่ายจริงๆ 9 หมื่น (คือหนี้มีราวๆ 5 เจ้า แต่ให้ทยอยปิดคนที่คิดดอกเบี้ยหนักๆ ก่อน) เงินเดือนขึ้น ผมก็จ่ายที่บ้านเพิ่มเพิมเป็นส่ง 2 หมื่นทุกเดือน
วันที่โพสนี้ หนี้เหลือประมาณแสนนิดๆ แล้ว ผมได้ลาออกจากงานแล้วเพราะรับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาไม่ไหว ทุหอย่างเป็นคำถามทั้งหมด ผมกลายเป็นครที่ไม่เชื่ออะไรเลย เหมือนที่ผ่านมา พ่อแม่ไม่ได้รักเลย ถ้ารักจริง ทำไมปล่อยให้เกิดอะไรแบบนี้ทั้งๆที่ตัวเองรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าพ่อแม่จ่ายไม่ไหว ลูกต้องรับกรรม ทำให้เกิดชุดความคิดฝังหัวไปแล้วว่า พ่อแม่ยังรักเราไม่จริงเลย แล้วโลกนี้เราจะเชื่อใครได้อีก จากที่อดีต พ่อแม่เคยเป็น safe zone ที่สุดสำหรับผม ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลย ผมไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าความรักจะมีจริง ผมมีแฟน (แฟนเข้าใจ เคยไปหาหมอด้วยกัน) ก็มีความสุขไม่สุดมักจะมีเสียงในหัวว่าเขาจะรักเราจริงหรอ ขนาดพ่อแม่ยังไว้ใจไม่ได้เลย พ่อแม่ที่ให้กำเนิดเรามา
ช่วงที่ผมทำงานอยู่ งานที่บริษัทหนักมาก (เชื่อถอะว่าคำว่ามากของผมคือมากกว่าหลายๆ คนจริงๆ) เอาเป็นว่า แอพรายได้หลายร้อยล้านบาทต่อเดือน มีโปรแกรมเมอร์ตัวหลักแค่ 3 คน ทั้งทีมมี 5 คน ชีวิตผมตื่นมา ไปทำงาน รับความกดดันความเครียดจากงาน พอกลับบ้าน มานอนเครียดเรื่องหนี้ วนๆ แบบนี้ไม่สิ้นสุด จนผ่านไปช่วงนึงเหมือนร่างกายมันชิน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีอาการทางจิตแล้ว
พอรู้ตัวอีกทีคือว่าตัวเองเริ่มไม่ไหว อารมณ์รุนแรง บางทีก็หาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ไม่เจอ ผมเลยโทรหาสายด่วนสุขภาพจิต ไปหาหมอ สรุปหมอวิเคราะห์ออกมาว่าเป็นชนิดวิตกกังวล (ผมขออธิบายส่วนนี้นิดนึงคือ อาการทางสมองที่เจอเรื่องหนักๆมา มันจะไปได้สองทางคือ ไปทางซึมเศร้า กับไปทางวิตกกังวล ทั้งสองอาการ ใช้ยาตัวเดียวกัน เพราะสาเหตุเดียวกัน) ผมรักษาช่วงนึง ปรากฏว่า ทำงานไม่ได้เลย เลยหยุดยา มาออกกำลังกาย ดีอยู่ช่วงนึง จนงานหนักอีกครั้ง เริ่มมีอาการอีกรอบ ผมเลยจัดการหาคนมาแทนแล้วผมลาออก ผมตอนนี้อยู่ในช่วงปรับยา หมอให้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆเลย ตอนนี้ยังพอมีเงินใช้อยู่ได้อีกสัก 2-3 ปี เลยลาออกมารักษาตัว
ทุกวันนี้คือผมมีปัญหากับการใช้ชีวิตมาก ผมกลายเป็นคนกังวลในทุกสิ่ง พอมีแฟน ก็กังวลว่ามันจะมีจุดจบ (ทั้งๆ ที่แฟนไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย) คือกังวลไปหมดทุกสิ่งแล้ว คือถ้าที่บ้านไว้ใจไม่ได้ ก็เราไม่สามารถไว้ใจอะไรบนโลกได้อีก ชุดความคิดนี้มันวนในหัว จนทรมานมาก ทุกวันนี้ ตื่นมา 1 นาทีแรกหลังตื่นคือช่วงที่ชีวิตปกติที่สุด หลังจากนั้น จะปวดหัวเป็นเรื่องปกติปวดทั้งวัน เจอข่าวแย่ๆ ก็กังวลว่ามันจะเกิดกับเราไหม (ในระดับที่มากกว่าคนปกติ คือกังวลคิดวนๆ จนปวดหัว ทั้งวัน บางทีข้ามวัน คือคนอาจจะบอกว่า กังวลปกตินะ ทุกคนก็กังวล แต่สำหรับผมคือมันไม่ใช่ระดับนั้นครับ ผมหาหมอมาแลัว ผมเป็นวิตกกังวลในแบบที่มากกว่าคนปกติ ในระดับที่ใช่ชีวิตไม่ได้ หรือใช้ชีวิตยากมากแล้ว)
คือที่มาโพสนี้ก็อยากมาระบาย และอยากขอคำแนะนำ หมอ หรือนักบำบัดเก่งๆ หน่อยครับ ผมตอนนี้ไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ เปลี่ยนหมอมาสามรอบ เปลี่ยนยาหลายรอบ ใครแนะนำได้แนะนำหน่อยครับ ไม่รู้ว่าชีวิตต้องตกในภาวะนี้นานขนาดไหน สมองคือลืมบ่อยมากๆ บางครั้งชอบพูดอะไรซ้ำ หรือลืมสิ่งต่างๆ บ่อยกว่าคนปกติ บางทีกังวลจนเหมือนมีอาการจะวูบล้ม
ขอบคุณครับ
เรียนจบเริ่มทำงานแล้วใช้หนี้ที่บ้านทุกเดือน เฉียดล้าน จนเป็นโรควิตกกังวล
ผมเรียนจบมา ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ หลังจากนั้นทำงานได้ราวๆ สองเดือน แม่โทรมาบอกว่าบ้านจะถูกยึดแล้ว (คือปิดบังมาตลอดว่าเป็นหนี้ ไม่ยอมบอก จนเราเรียนจบ ให้เหตุผลว่าถ้าบอกกลัวเรียนไม่จบ) หลังจากนั้นโลกคือเหมือนสีเทาไปเลย ตอนนั้นผมเงินเดือน 22,000 เงินเข้ามาแล้วตอนกลางคืน บางเดือนโอนเงินไปจ่ายหนี้ผ่อนบ้านไม่ให้โดนยึด โอนไปหมดเลย แล้วค่อยคิดว่าเอาเงินจากไหนมากิน บางทีรับงานนอก เขียนแอพ 500 บาทก็รับ (บางคนต่อราคาอีก)
ผมใช้ชีวิตมาแบบนี้มาเรื่อยๆ พยายามถามที่บ้านว่าหนี้เท่าไหร่ ผมจะได้วางแผน ทางบ้านก็ไม่ยอมบอก จุดนี้คือผมเริ่มเกลียดที่บ้านแล้ว ผมไม่เข้าใจอะไรเลยว่าทำอะไรกันอยู่ พยายามทำเท่าที่ทำได้คือโอนเงินให้ทุกเดือน หลังจากนั้นให้ที่บ้าน ขายบ้านทิ้งเลย จนกระทั่งถามวันนึงทางบ้านก็บอกว่ายอดราวๆ 7 แสน รวมดอกเบี้ย และเป็นหนี้นอกระบบทั้งหมด ดอกเบี้ยเดือนละ 2 หมื่น ตอนนั้นผมเหมือนแทบทรุด โลกทั้งใบไม่เหลืออะไรแล้ว คือนี่งคิดทุกวันว่าเราใช้เท่าไหร่ถึงหมดเนี่ย ให้เงินเดือนไปแทบจะหมด ยังโปะได้แค่ดอกเบี้ย
จนทางบ้านไปคุยกับเจ้าหนี้ว่าให้หยุดคิดดอกเบี้ย หลังจากนั้นส่งเดือนละ 10000 ทุกเดือน ทางเขาก็โอเค ผมใช้ชีวิตแบบว่า พยายามตั้งใจทำงาน ทำให้ตัวเองเก่ง พัฒนาตัวเอง และงานหนักมาก ทางบริษัทไม่เคยมีโบนัสเลยใสตอนนั้น ได้โบนัสครั้งแรก เอาเงินโปะหนี้อีก ได้โบนัสรอบที่สอง เอาไปโปะอีก มีหนี้เจ้านึง เงินต้น 5 หมื่น รวมดอกแล้ว120000 ผมหมดแรงมาก คือเหมือนโบนัสที่ตอบแทนความพยายามมา เอามาโยนทิ้ง ตอนนั้นทางบ้านไปคุยจนเหลือจ่ายจริงๆ 9 หมื่น (คือหนี้มีราวๆ 5 เจ้า แต่ให้ทยอยปิดคนที่คิดดอกเบี้ยหนักๆ ก่อน) เงินเดือนขึ้น ผมก็จ่ายที่บ้านเพิ่มเพิมเป็นส่ง 2 หมื่นทุกเดือน
วันที่โพสนี้ หนี้เหลือประมาณแสนนิดๆ แล้ว ผมได้ลาออกจากงานแล้วเพราะรับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาไม่ไหว ทุหอย่างเป็นคำถามทั้งหมด ผมกลายเป็นครที่ไม่เชื่ออะไรเลย เหมือนที่ผ่านมา พ่อแม่ไม่ได้รักเลย ถ้ารักจริง ทำไมปล่อยให้เกิดอะไรแบบนี้ทั้งๆที่ตัวเองรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าพ่อแม่จ่ายไม่ไหว ลูกต้องรับกรรม ทำให้เกิดชุดความคิดฝังหัวไปแล้วว่า พ่อแม่ยังรักเราไม่จริงเลย แล้วโลกนี้เราจะเชื่อใครได้อีก จากที่อดีต พ่อแม่เคยเป็น safe zone ที่สุดสำหรับผม ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลย ผมไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าความรักจะมีจริง ผมมีแฟน (แฟนเข้าใจ เคยไปหาหมอด้วยกัน) ก็มีความสุขไม่สุดมักจะมีเสียงในหัวว่าเขาจะรักเราจริงหรอ ขนาดพ่อแม่ยังไว้ใจไม่ได้เลย พ่อแม่ที่ให้กำเนิดเรามา
ช่วงที่ผมทำงานอยู่ งานที่บริษัทหนักมาก (เชื่อถอะว่าคำว่ามากของผมคือมากกว่าหลายๆ คนจริงๆ) เอาเป็นว่า แอพรายได้หลายร้อยล้านบาทต่อเดือน มีโปรแกรมเมอร์ตัวหลักแค่ 3 คน ทั้งทีมมี 5 คน ชีวิตผมตื่นมา ไปทำงาน รับความกดดันความเครียดจากงาน พอกลับบ้าน มานอนเครียดเรื่องหนี้ วนๆ แบบนี้ไม่สิ้นสุด จนผ่านไปช่วงนึงเหมือนร่างกายมันชิน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีอาการทางจิตแล้ว
พอรู้ตัวอีกทีคือว่าตัวเองเริ่มไม่ไหว อารมณ์รุนแรง บางทีก็หาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ไม่เจอ ผมเลยโทรหาสายด่วนสุขภาพจิต ไปหาหมอ สรุปหมอวิเคราะห์ออกมาว่าเป็นชนิดวิตกกังวล (ผมขออธิบายส่วนนี้นิดนึงคือ อาการทางสมองที่เจอเรื่องหนักๆมา มันจะไปได้สองทางคือ ไปทางซึมเศร้า กับไปทางวิตกกังวล ทั้งสองอาการ ใช้ยาตัวเดียวกัน เพราะสาเหตุเดียวกัน) ผมรักษาช่วงนึง ปรากฏว่า ทำงานไม่ได้เลย เลยหยุดยา มาออกกำลังกาย ดีอยู่ช่วงนึง จนงานหนักอีกครั้ง เริ่มมีอาการอีกรอบ ผมเลยจัดการหาคนมาแทนแล้วผมลาออก ผมตอนนี้อยู่ในช่วงปรับยา หมอให้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆเลย ตอนนี้ยังพอมีเงินใช้อยู่ได้อีกสัก 2-3 ปี เลยลาออกมารักษาตัว
ทุกวันนี้คือผมมีปัญหากับการใช้ชีวิตมาก ผมกลายเป็นคนกังวลในทุกสิ่ง พอมีแฟน ก็กังวลว่ามันจะมีจุดจบ (ทั้งๆ ที่แฟนไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย) คือกังวลไปหมดทุกสิ่งแล้ว คือถ้าที่บ้านไว้ใจไม่ได้ ก็เราไม่สามารถไว้ใจอะไรบนโลกได้อีก ชุดความคิดนี้มันวนในหัว จนทรมานมาก ทุกวันนี้ ตื่นมา 1 นาทีแรกหลังตื่นคือช่วงที่ชีวิตปกติที่สุด หลังจากนั้น จะปวดหัวเป็นเรื่องปกติปวดทั้งวัน เจอข่าวแย่ๆ ก็กังวลว่ามันจะเกิดกับเราไหม (ในระดับที่มากกว่าคนปกติ คือกังวลคิดวนๆ จนปวดหัว ทั้งวัน บางทีข้ามวัน คือคนอาจจะบอกว่า กังวลปกตินะ ทุกคนก็กังวล แต่สำหรับผมคือมันไม่ใช่ระดับนั้นครับ ผมหาหมอมาแลัว ผมเป็นวิตกกังวลในแบบที่มากกว่าคนปกติ ในระดับที่ใช่ชีวิตไม่ได้ หรือใช้ชีวิตยากมากแล้ว)
คือที่มาโพสนี้ก็อยากมาระบาย และอยากขอคำแนะนำ หมอ หรือนักบำบัดเก่งๆ หน่อยครับ ผมตอนนี้ไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ เปลี่ยนหมอมาสามรอบ เปลี่ยนยาหลายรอบ ใครแนะนำได้แนะนำหน่อยครับ ไม่รู้ว่าชีวิตต้องตกในภาวะนี้นานขนาดไหน สมองคือลืมบ่อยมากๆ บางครั้งชอบพูดอะไรซ้ำ หรือลืมสิ่งต่างๆ บ่อยกว่าคนปกติ บางทีกังวลจนเหมือนมีอาการจะวูบล้ม
ขอบคุณครับ