ซื้อบ้านมาจากธนาคารเพื่อตกแต่งขาย

สวัสดีค่ะ ทุกคน วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ การซื้อบ้านมาจากธนาคาร เพื่อตกแต่งแล้วขายค่ะ  เมื่อต้นปี 64 (ช่วงโควิด) ดิฉันได้ตัดสินใจซื้อบ้านมาจากธนาคารหลังนึง อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด เศรษฐกิจก็ไม่ดี ธนาคารก็ปล่อยกู้ยากมาก คนก็ตกงานกันเยอะ  โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างจัง และช่วงนั้น ธนาคารแห่งหนึ่งก็ได้ประกาศลดราคา ทรัพย์สินรอการขายเยอะมาก มันเตะตาดิฉันมากๆ และน่าสนใจสุดๆ ด้วยราคาที่ต่ำมาก แต่บ้านเหล่านั้นอยู่ที่ ชานเมือง กทม. นะคะ ตัวดิฉันนั้นอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดค่ะ และห่างหายจากตลาดอสังหาฯ ใน กทม. ไปนานหลายปีมาก ก็เลยตัดสินใจเดินทางมาศึกษาตลาด ตะเวนดูทรัพย์สินหลายที่ และเปรียบเทียบราคากับบ้านใหม่ สุดท้ายจากที่ตะเวนไปดูเป็นสิบๆ ที่ ก็มีเตะตาอยู่ 2 หลัง ทั้งสองหลังอยู่คนละหมู่บ้านนะคะ ที่ดินประมาณ 60 ตารางวาทั้งสองหลัง แบบบ้านยังเหมือนกันอีกนะคะ บ้านมีขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 150 ตารางเมตร อยู่ในโครงการแลนด์ & เฮ้าส์ บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศไทย หมู่บ้านทั้งสองมีอายุเกิน 10 ปีค่ะ แต่สภาพแวดล้อมในหมู่บ้านค่อนข้างดีค่ะ ส่วนกลางก็ดูไม่แย่เท่าไหร่ ไม่ รก รุงรัง ต้นไม้ สวน มีการดูแลรักษา อยู่ในระดับที่พอใช้ได้ค่ะ สุดท้ายดิฉันก็ตัดสินใจซื้อมาหลังหนึ่งเพราะได้ราคาที่คิดว่าถูก แต่อีกหลังธนาคารไม่ยอมลดราคา ดิฉันก็เลยคิดว่า งั้นซื้อหลังหนึ่งไปก่อน ส่วนอีกหลังรอดูว่าธนาคารจะลดราคาเมื่อไหร่ ค่อยติดต่อสอบถามไปเรื่อยๆ และนี่ก็คือบ้านที่ซื้อมา สภาพก่อนตกแต่งค่ะ 


และนี่ก็คือหน้าตาของบ้านหลังตกแต่ง และซ่อมแซมเสร็จแล้วค่ะ ภาพน้ถ่ายตอนทำเสร็จใหม่ๆ เลยค่ะ 

ส่วนภาพนี้หลังทำเสร็จ 1 ปีค่ะ ลงต้นไม้เพิ่ม สีบ้านก็ซีดไปเยอะเลย 


บ้านหลังจากรีโนเวทแล้ว พูดตามตรงค่ะ เบสิกมากๆ เลย ไม่ค่อยถูกใจดิฉันเท่าไหร่ งานก็ไม่ละเอียดเท่าไหร่ คืองานไม่ค่อยเนี้ยบค่ะ   สีบ้านก็ดูจึดๆ ยังไงไม่รู้  บ้านหลังนี้ดิฉันจ้างให้รุ่นน้องที่สนิทกัน เป็นคนดูแล หาช่าง และให้เค้าเลือกสีต่างๆ ให้ เนื่องจากดิฉันอยู่ต่างจังหวัดด้วย ไม่ได้มาดูงานเองเลย มาอีกทีตอนเสร็จแล้ว และนี่ก็เป็นบทเรียนอีกอย่างนึงนะคะ ทำให้ดิฉันตระหนักได้ว่า จะทำอะไรแล้ว ต้องทำด้วยตัวเอง ต้องใส่ใจเอง เพราะมันเป็นเงินของเรา การที่เราฝากฝังให้คนอื่นทำให้ พอเสร็จแล้วไม่ถูกใจเรา มันก็พูดลำบาก สุดท้ายก็ต้องโทษตัวเองค่ะ ที่ตัดสินใจแบบนั้นไป บ้านหลังนี้ใช้เวลาในการขาย ประมาณ ปีครึ่ง  ถือว่าค่อนข้างนานเลยทีเดียว หลังจากขายได้แล้ว ดิฉันมองว่า เป็นเพราะเศรษฐกิจที่ไม่ดี คนกู้ไม่ได้ตามที่ต้องการ ราคาบ้านเป็นตลาดระดับกลาง ซึ่งเมื่อปี 64-65 ก็ยังเป็นช่วงวิกฤติโควิดอยู่ ทำให้คนตัดสินใจซื้อบ้านลำบากนิดนึง เพราะต้องห่วงปากท้องก่อน ที่อยู่ อยู่ยังไงก็อยู่ไปก่อน และที่สำคัญ ดิฉันมองว่า บ้านของดิฉันไม่ได้มีอะไรพิเศษ หรือจูงใจคนซื้อเลย ทำเลดีค่ะ แบบบ้านก็ดี กว้างขวาง แต่การ ronovate มันควรต้องลงทุนมากกว่านี้ อย่างเช่นห้องครัว ดิฉันก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร มากมาย แค่ซ่อมแซมให้ใช้งานได้ แอร์ หรือผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ไม่ได้ใส่ เลยไม่สามารถดึงดูดผู้ซื้อได้ ดิฉันก็เลยลดราคาขายลงมาค่ะ ถึงขายได้  บ้านหลังนี้ซื้อมาในราคา 2.7 ล้าน ซ่อมแซมไป 3 แสนบาท ทุนก็อยู่ที่ 3 ล้าน และขายไปได้ 3.75 ล้าน  หักค่านายหน้า ค่าโอนแล้ว ได้กำไรมา 4 แสนบาทค่ะ ดิฉันมองว่าก็ไม่ได้กำไรอะไรมากมาย แต่ก็ยังโชคดีที่ขายออกไปได้ ก่อนที่เวลาจะล่วงเลยไปมากกว่านี้ สำหรับการทำบ้านขายหลังแรก ก็ถือว่าได้บทเรียนและประสบการณ์เยอะมากค่ะ เอาไว้เป็นบทเรียนในการทำหลังต่อไปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่