มาฟังครั้งแรกที่เราเห็นผีกัน เรื่อง เขาจะชอบมาในที่ๆมีเงา

จริงๆเหมือนแม่จะบอกว่าราเป็นคนเหมือนมีจิตสัมผัสที่6

หรือที่เขาเรียกว่ามีเซ้นส์  เราเคยเห็นแต่เด็กแต่จำไม่ได้ แต่เราจะมาเล่าเรื่องเราตอนโตกัน (เข้าเรื่อง)  เราและครอบครัวเช่าบ้านกันอยู่แต่เพราะด้วยเศรษฐกิจและปัญหาต่างๆจึงต้องย้ายบ้าน พ่อเราไปเจอบ้านหลังนึงในซอยที่ลึกมากอยู่ไม่ไกลจากบ้านเก่า มี3ชั้น บ้านหลังสีเขียวทั้งหลัง ครั้งแรกที่เราเข้าไปเรารู้สึกไม่ค่อยน่าอยู่เลย บ้านหลังนี้ไม่มีคนเช่าอยู่5-6ปีแล้ว พอเข้าไปสำรวจภายในบ้านเสร็จเรียบร้อย ค่อนข้างที่จะผุพัง  และเวลาฝนตกจะน้ำรั่วซึม พอทำความสะอาดย้ายของเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว วันต่อมาก็ย้ายมาอยู่ วันแรกที่ไปอยู่ อยู่ๆไฟและแอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆก็ดับทุกอย่าง ตอนนั้นเป็นเวลา 23:10 น. ทุกคนค่อนข้างง่วงพ่อเลยอาสาไปดูไฟ เราลงไปกับพ่อเพราะเรานอนไม่หลับ เราใช้ไฟจากมือถือช่วยพ่อส่อง แต่มันก็เป็นปกติไม่ได้เป็นอะไร ทุกดวงก็ ON อยู่ แล้วมันดับได้ไง ทั้งคืนนอนแบบไม่มีพัดลมไม่มีแอร์ ร้อนมากแทบนอนไม่หลับแต่ก็ทนนอนถึงรุ่งเช้า รุ่งเช้าพ่อเรียกช่างไฟใกล้ๆบ้านมา เหมือนตอนแรกเขาก็บอกว่าปกติทุกอย่าง แต่พ่อก็บอกว่า แล้วทำไมไฟถึงดับ ช่างก็เลยบอกว่า อ่าๆเดี๋ยวลองเช็คดูให้แล้วกัน พอช่างกลับไฟก็ใช้ได้ตามปกติ เวลาผ่านไปช่วงเย็น พ่อกับแม่ก็จะออกไปจ่ายตลาดซื้อของกินของใช้อะไรต่างๆ เราจึงอยู่บ้านกับพี่และน้องอีก 3 คน (ครอบครัวเราอยู่กัน7คนนะคะ พี่สาว เรา น้องสาว2และน้องชาย) เรานั่งดูทีวีอยู่ข้างล่างกับน้องสาวที่อายุ2ขวบ ตาเราเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนึงในกระจก ตอนแรกเราคิดว่าพ่อแต่เราก็ลืมไปว่าพ่ออกไปข้างนอกกับแม่ไม่ใช่หรอ ผู้ชายในกระจก กำลังลงมาอย่างช้าๆ ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเราไม่รู้ว่าคืออะไร คนในกระจกลงมาเกือบจะเห็นหน้าแต่เราก็วิ่งไปดูตรงบันได เราไม่เห็นใครเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี่เราได้ยินเสียงของคนกำลังจับราวบันไดและกำลังลงมา เราไม่ได้คิดอะไรและนั่งดูทีวีกับน้องต่อ ครั้งนี้เราได้ยินเหมือนมีคนเปิดน้ำในห้องครัว เราเลยเดินไปดู สรุปมันเปิดน้ำไว้จริงๆ แต่เราไม่รู้ว่าใครเปิดแล้วมันเปิดได้ไง ครั้งนี้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วมันแปลกๆวังเวงแล้ว แล้วเลยปิดทีวีแล้วอุ่มน้องวิ่งขึ้นบันไดไปอยู่กับพี่สาว แล้วพัดลมที่อยู่ในห้องทั้งพัดลมที่พัดอยู่บนเพดานทั้งพัดลมตั้งมันดับหมดเลย เรารู้แล้วว่าผู้ชายที่อยู่ในกระจกเขาแกล้งพวกเราเขาเหมือนอยากให้เรากลัว ตอนนั้นพี่สาวก็บอกว่า พัดลมดับไปนั่งเล่นข้างนอกกัน ระหว่างนั้นก็รอพ่อกับแม่ พ่อกับแม่มาถึง เราก็บอกว่าพัดลมและไฟดับอีกแล้ว. ตอนนั้นประมาณ 5-6โมงได้แม่ก็รีบทำอาหาร และเอาเทียนมาจุดจะได้สว่างและมองเห็น. พอประมาณ2ทุ่มกว่าๆไฟก็สว่างขึ้นและมาเป็นปกติ ทุกคนรีบอาบน้ำและเข้านอน พอนอนได้สัก3-4ชั่วโมง แอร์ก็ดับ ทุกอย่างเงียบสนิทอย่างกับอยู่ในป่า รถสักคันก็ไม่มีวิ่ง เราพยายามนอนให้หลับไม่ส่งเสียงดัง เราได้ยินเหมือนมีคนเดินรอบบ้านแล้วเหมือนมีใครจ้องมองเราอยู่ เราหลับตาและห่มผ้าทั้งๆที่มันร้อนมาก ตอนแรกยืดขาแต่เรากลับมานั่งขัดตะหมาดและนอนอยู่แบบนั้นเพราะกลัว ทั้งคืนเราแทบจะไม่ได้นอนเลยเพราะกลัวและระแวง. เราเลยเล่าเรื่องราวตั้งแต่วันแรกให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่าแม่ก็รู้สึกกลัวและเหมือนมีใครจ้องมองตลอดเหมือนกัน วันต่อมาเรารอพี่อาบน้ำเสร็จเพื่อจะไปโรงเรียน เรานั่งรอ อยู่ห้องเสื้อผ้า ในห้องเสื้อผ้าก็จะมีกระจก เรามองไปที่กระจก เราเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่นอกหน้าต่างใส่เสื้อชมพูผมฟูยุ่งเยิ้งไปหมด เราเลยหันหลังไปดูนอกหน้าต่างและเดินไปดูเราไม่เห็นใครเลย เราเลยนั่งเล่นมือถือรอพี่ และทีนี่เราเห็นผู้หญิงคนเดิมมาอยู่ในเงามือถือเราเห็นเหมือนคนและไม่ได้ตาฟาด เราหันกลับไปมองอย่างไว เห็นเสื้อที่ตกอยู่อย่างเดียว เราใจสั่นใจเต้นแรง ระแวง แล้วอากาศที่เย็น เรารีบวิ่งไปเคาะประตูห้องน้ำ "พี่เปิดหน่อย เสร็จยัง เปิดหน่อย" พี่เปิดประตูแล้วบอกว่าเป็นอะไร รอแป็บนึงไม่ได้รึไง จะเสร็จแล้ว เราเลยบอกว่า เปล่า ขออยู่ด้วย เดี๋ยวหันหลังให้ อาบน้ำทำทุกอย่างเตรียมพร้อมจะไปโรงเรียน เราออกจากบ้าน และมองไปข้างบน เราเห็นผู้หญิงคนเดิมสะท้อนอยู่ในหน้าต่าง แล้วเดินออกไปแล้วบอกว่า"หนูแค่มาอาศัยไม่ได้จะมาทำสิ่งไม่ดี ขอให้อย่ามาทำร้ายกันและกันเลย" ไปโรงเรียนด้วยดี ผ่านมาหลายเดือนจะเป็นไฟหรือเครื่องใช้ต่างๆถึงจะดับแต่เราก็ยังกลัว วันนึงแม่และพ่อไปตลาด เราก็อยู่กับพี่น้อง ไฟก็ดับทีวีดับมืดสนิททุกอย่าง เราได้ยินแก้วแตกในครัวเราเลยใช้ไฟมือถือส่องเราส่องไปเจอเท้าผู้ชายคนนึงแต่พอเรายกไฟสูงก็ไม่เห็นใครและเท้าก็หายเราให้พี่ถือไฟส่องแล้วเราก็กวาดเก็บให้หมดเดี๋ยวจะเป็นอันตรายได้ แล้วไฟก็สว่างขึ้นเรารีบล้างลงล้างจานเดี๋ยวแม่กลับมาแล้วจะด่า เรายังไม่ทันล้างไฟก็ดับแต่คราวนี้มันดับเปิดด้บเปิดไปเรื่อย พี่และน้อง ที่นั่งอยู่ ก็มากอดและตัวติดๆกันอยู่ห้องครัว ไฟมันเปิดปิดยิ่งกว่าในละคร ทุกคนต่างกลัวและร้องไห้โดยเฉพาะน้องตัวเล็กๆ เรารีบล้างจานให้เสร็จแล้ววิ่งไปข้างนอกพี่และน้องก็ยังเกาะเราเราพาละพี่ไปเซเว่นหรือที่ๆมีคนเยอะๆ แต่ไฟในบ้านก็ยังเปิดปิดอยู่อย่างนั้น ตอนนั้นเราโมโหมากว่าพวกผีจะมาแกล้งหรือหลอกครอบครัวเราทำไม ถ้าไม่ให้อยู่เดี๋ยวก็ออกไปแล้ว ทุกวันทุกคืนแม่เราต้องโดนผีอำคนในบ้านไหนจะน้องคนเล็กๆแทบจะไม่สบายกันทุกวัน อยู่ได้ไม่ถึง6เดือนก็ต้องย้ายออก. พอออกมาได้สักพัก เห็นเพื่อนบ้านที่อยู่ซอยข้างบ้าน เขาก็เล่าให้ฟัง ว่า บ้านที่พวกเราอยู่อ่ะ เจ้าของบ้านเขาผูกคอตายกันสองสามีภรรยา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาอยู่หรือเช่าเพราะทนไม่ไหว แต่ก็มีครอบครัวเราที่มาอยู่ เขาก็เล่าอีกว่า เคยเห็นคนจะมางัดบ้านเราเพื่อจะมาขโมยของแต่เขาไม่มีเบอร์เราเลยไม่รู้จะทำยังไง ถึงว่า เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่แม่ตื่นแม่ก็บอกพ่อว่า ทำไมตอนขึ้นมาทำไมไม่ล็อคประตู พ่อก็บอกว่าล็อคแล้ว แต่ที่แท้โจรมางัด. เรื่องนี้ก็เป็นความทรงจำที่ไม่เคยลืมเช่นกัน
เราไม่กล้าที่จะเข้าบ้านที่มีสีเขียวเลย  ขออภัยในการพิมพ์ตกหล่นไปบ้าง. ที่พิมพ์มาอาจจะไม่น่ากลัวแต่เจอจริงน่ากลัวมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่