JJNY : “โรม-ชูวิทย์-ปริญญา” ร่วมเวที│‘ก้าวไกล’ แชมป์รับเงินอุดหนุน│'พิธา' บุกถึงถิ่นเนวิน│“ชัชชาติ” รื้อแผนจัดการขยะ

“โรม-ชูวิทย์-ปริญญา” ร่วมเวทีสัมมนา ถกระดมสมองปฏิรูปตำรวจ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_498330/

“โรม-ชูวิทย์-ปริญญา”ร่วมเวทีสัมมนา ถกระดมสมองปฏิรูปตำรวจ ชูนโยบายก้าวไกล กำจัดระบบตั๋ว-ส่งเสริมตำรวจชั้นประทวน-ตำรวจหญิงทุกโรงพัก
 
งานสัมมนาหัวข้อ “ทิศทางการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และตำรวจของประเทศไทย” ที่จัดโดยคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยเชิญตัวแทนตำรวจจากทุก สน. ในกรุงเทพมหานคร และมีวิทยากรที่น่าสนใจหลายคนร่วมอภิปราย เช่น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืน ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) นางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นักสิทธิมนุษยชน ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) 
 
โดยนายรังสิมันต์ อภิปรายช่วงหนึ่งว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องตำรวจ เพราะเชื่อว่าถ้าตำรวจมีสภาพการทำงานที่ดี จะสามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความจริงว่า วงการตำรวจมีหลายปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไข แม้หลายคนมีคำถามอยู่ในใจว่าแล้วจะแก้ได้ยังไง ที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองก็พูดแบบนี้
 
แต่ตนคิดว่าการปฏิรูปตำรวจจำเป็นต้องมีอิฐก้อนแรก โดยพรรคก้าวไกล ขอเสนอการกำจัดระบบตั๋ว การเพิ่มงบประมาณและสนับสนุนทรัพยากรให้ตำรวจ ควรมีตำรวจหญิงประจำทุกโรงพัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศ และต้องส่งเสริมให้มีการติดกล้องเกิดขึ้น
 
ด้าน ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวตอนหนึ่งว่า กระบวนการยุติธรรมตำรวจเป็นต้นทาง เรื่องที่จะต้องแก้ไขมีมากเหลือเกิน แต่เรื่องที่สำคัญคือต้องมีหลักการที่จะคุ้มครองเราทุกคน หลักการที่สำคัญที่สุดคือ “หลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์” แต่ในทางปฏิบัติ ประเทศไทยใช้ “หลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผิด” เห็นได้จากระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำหนดให้ผู้ต้องหาทุกคนต้องลงทะเบียนประวัติอาชญากร ตอนตั้งข้อหาทุกคนเป็นอาชญากรหมดแต่พอศาลยกฟ้องหรืออัยการสั่งไม่ฟ้อง ในหลายกรณีกลับไม่มีการลบประวัติอาชญากร ส่งผลเป็นการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนจำนวนมาก
 
ขณะนายชูวิทย์ กล่าวว่า องค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่ผู้มีอำนาจทุกยุคทุกสมัยจ้องที่จะเข้าหา เพราะตำรวจเป็นแหล่งขุมอำนาจ ตำรวจอยู่ใกล้ชิดประชาชน การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นถ้าเอาความจริงมาพูด ถึงบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงนู่นเปลี่ยนแปลงนี่ แต่ถ้าไม่กล้าพูดความจริงปัญหาก็อยู่ที่เดิม ความจริงเท่านั้นที่จะปกป้ององค์กร ความจริงเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงระบบที่ไม่ดีในประเทศนี้ได้ การทำความเข้าใจกระบวนการยุติธรรมแบบไทยๆ เป็นกระบวนการที่ยากมาก
 
ทั้งนี้ ภายหลังกิจกรรมสัมมนาในช่วงเช้า ช่วงบ่ายจะเป็นวงย่อยรับฟังตำรวจผู้มาร่วมงานในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การแต่งตั้งโยกย้าย การสร้างความไว้วางใจกับประชาชน การใช้เทคโนโลยีสนับสนุนงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจ เพื่อเป็นเวทีที่เป็นกระบอกเสียงให้ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน นำไปสู่การปฏิรูปตำรวจต่อไป



‘ก้าวไกล’ แชมป์อีก ปี’66 รับเงินอุดหนุน พุ่ง 47 ล้าน ทิ้งห่างปชป. อันดับสอง ถึง 4 เท่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3818154

‘ก้าวไกล’ แชมป์อีก ปี’66 รับเงินอุดหนุน พุ่ง 47 ล้าน ทิ้งห่างปชป. อันดับสอง ถึง 4 เท่า 
 
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ เผยแพร่ข้อมูลพรรคการเมืองที่ได้รับเงินอุดหนุน ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นเงินภาษีจากผู้เสียภาษีที่แสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดย 10 พรรคการเมืองแรกที่ได้รับเงินสูงสุด ประกอบด้วย
 
อันดับ 1 พรรคก้าวไกล 47,454,254.82 บาท
อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ 10,202,779.90 บาท
อันดับ 3 พรรคเพื่อไทย 6,158,203.80 บาท
อันดับ 4 พรรคกล้า 6,028,087.89 บาท
อันดับ 5 พรรคภูมิใจไทย 3,813,531.47 บาท
อันดับ 6 พรรคพลังประชารัฐ 3,415,012.33 บาท
อันดับ 7 พรรคไทยภักดี 2,763,126.04 บาท
อันดับ 8 พรรคเสรีรวมไทย 2,480,332.39 บาท
อันดับ 9 พรรคไทยธรรม 1,875,028.08 บาท
อันดับ 10 พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1,801,388.84 บาท



'พิธา' บุกถึงถิ่นเนวิน ท้าชนภท. 10 เขตบุรีรัมย์ ลั่นเป็นหมู แต่ไม่กลัวน้ำร้อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3818124
 
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณหน้าตลาดริมราง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาเปิดเวทีปราศรัยย่อย พร้อมเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ในเขตเลือกตั้งของจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 10 เขต โดยมีประชาชนมาฟังการปราศรัยกว่า 400 คน
 
นายพิธา กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ได้เดินทางไปปราศรัยที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ และวกมาที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคให้ประชาชนได้รับรู้ถึงความจริงใจและตั้งใจของพรรค ในการพัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาความยากจนได้จริง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
 
สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ ผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ ในตอนนั้น ได้เสียงมาเป็นอันดับที่ 3 หรือกว่า 1.1 แสนคะแนน หรือประมาณ 16 % ทั้งที่เป็นพรรคน้องใหม่ สามารถเปิดตัวในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่การเมืองผูกขาดได้อย่างสวยงาม ครั้งนี้เชื่อว่า ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่จะสนับสนุนพรรคมากกว่านี้
 
กรณีหลายคนถามว่า มาเหยียบจังหวัดบุรีรัมย์มีความรู้สึกเกรง หรือกลัวอะไรบางอย่างหรือไม่ นายพิธา ย้ำ หมูไม่กลัวน้ำร้อน เพราะมั่นใจในกระแสของพรรคที่ดีวันดีคืน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการหาเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์ คึกคักมาอย่างต่อเนื่อง ส.ส.แต่ละพรรคต่างออกไปขอคะแนนเสียงกับประชาชนทุกเขตพื้นที่การเลือกตั้ง
 
นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้เดินปราศรัยครบแล้วทุกหมู่บ้าน ชาวบ้านให้การต้อนรับและยังคงสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคของบ้านตัวเอง ส่วนกระแสต่างๆของพรรคแต่ละพรรคว่า มาแรงแบบนั้นแบบนี้ ตนไม่เถียงเพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก พรรคไหนกระแสจะดีอย่างไรก็ตาม แต่จะเอากระแสนั้นมาใช้ที่จังหวัดบุรีรัมย์ไม่ได้ มั่นใจชนะทั้ง 10 เขตเลือก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่