พระนางสุจันทรีมหาเทวีมหาเทวีองค์สุดท้ายของรัฐฉานถึงแก่กรรมแล้ว

กระทู้ข่าว

เช้าของวันที่ 6 ก.พ.2566 เจ้านางสุจันทรีมหาเทวี ของเจ้าจ่าแสงเจ้าฟ้าหลวงเมืองสี่ป้อ รัฐฉาน ถึงแก่กรรมที่บ้านพักในสหรัฐ อายุ 91 ปี

ในวันที่ 11 ก.พ.2566, เวลา 9:30 น. ญาติมิตรในไทย จะจัดงานทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่ วัดป่าเป้า ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เจ้านางฝรั่งผิวขาว อิงเก้ อีเบอร์ฮาร์ด (Inge Eberhard) อายุ 19 ปี จากเวียนนาพบรัก เจ้าชาย คญาเสนในปี 2494 ที่มหาวิทยาลัย เดนเว่อร์ สหรัฐ

ชายหนุ่ม จากประเทศพม่า วัย 27 ปี นักศึกษาเหมืองแร่ปี 3 ของ Colorado School of Mines คนนั้นไม่เคยเปิดเผยฐานะ “เจ้าฟ้าหลวง” (“saohplong”) แห่งนครสีป่อ รัฐฉานตั้งแต่ปี 2490 ให้เธอทราบเลย มารู้ตอนเรือ ที่พาทั้งสองมาเทียบท่าพม่าเมื่อเดือน มกราคม 2497 ในฐานะชายาของเจ้านครสีป่อฃ

อินเก้ ได้ชื่อใหม่เป็น “Sao Nang Thusandi” แปลว่า เจ้าหญิงแห่งสันติ ต่อมาพระนางสุจันทรี มหาเทวี ได้ให้กำเนิด 2 พระองค์

เจ้าจ่าแสง ได้พัฒนาบ้านเมือง ในด้านต่างๆ จนเมื่อประเทศอังกฤษ ได้ปลดปล่อยพม่าให้เป็นอิสระ ชนกลุ่มต่างๆได้เข้าร่วมทำสัญญา "ปางโหลง" ว่าด้วยรัฐต่างๆ ของพม่ายอมอยู่ใต้การปกครองพม่าเป็นเวลา 10 ปีเมื่อครบสัญญาก็แยกตัวเป็นอิสระได้

แต่แล้วในปี ค.ศ 1962 (พ.ศ 2505) ระบบที่ปกครองด้วยเจ้าฟ้าของเมืองต่างๆ ในรัฐไทใหญ่ มีอันต้องล่มสลายไปเมื่อนายพลเนวิน ได้ทำการปฎิวัติยึดอำนาจ
และแต่งตั้งรัฐบาลทหารได้ฉีกสัญญาไม่ยอมให้รัฐต่างๆเป็นอิสระ ทางเจ้าฟ้าเมืองต่างๆได้ถูกรัฐบาลนายพลเนวิน กำจัดเพราะไม่ต้องการให้แยกรัฐ

เจ้าจ่าแสง ได้ถูกจับไปและหายสาปสูญอย่างไร้ร่องรอยจนถึงปัจจุบัน คาดว่าน่าจะโดนสำเร็จโทษกันหมดนั้นเอง ส่วนพระนางสุจันทรีมหาเทวี และ พระธิดา
ก็ถูกคุมขังอยู่ในหอหลวงเมืองสีป้อก่อนจะถูกผลักดันออกจากประเทศพม่า โดยทรัพย์สินทั้งหมดในพระราชวังได้ถูกทางการพม่ายึดไปหมด

พระนางสุจันทรี มหาเทวี และ พระธิดาทั้งสองกลับออสเตรียโดยไม่มีเงินติดตัวเลยเพราะ มหาเทวี มอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับข้ารับใช้หอหลวงสี่ป้อ ใช้ดำรงชีวิต