เรียนรู้ธรรมบนเขา กับพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม
หลังจากทำงานที่ระยอง ปี 2553 ตั้งใจซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม สัตหีบ เพื่อมีโอกาสไปฟังธรรมบ่อยๆท่านเป็นศิษย์หลวงตามหาบัว และหลวงตามหาบัวท่านก็รับรองว่าเป็นพระอรหันต์แน่นอน มีโอกาสไปสนทนาธรรมและนั่งสมาธิบนเขาบ่อยๆ เดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2553 สมัยนั้นคนไปกราบพระอาจารย์ยังไม่เยอะ บางวันไม่มีคนเลย จึงได้มีโอกาสไปถวายสังฆทานและสนทนาธรรมกับพระอาจารย์สุชาติที่กุฏิบ่อยๆ (ปัจจุบันมีคนไปกราบและฟังธรรมกับพระอาจารย์สุชาติเยอะมากๆ)
มีวันหนึ่งพระอาจารย์เมตตานั่งรถเพื่อนผมลงจากเขาชีโอนมาที่วัดญาณฯ พระอาจารย์เมตตากล่าวว่า “เพราะเรามีของเก่า เคยทำความดี ปฏิบัติภาวนามาตั้งแต่อดีตชาติ ชาตินี้เลยปฏิบัติภาวนาได้ง่าย” ตั้งแต่ปี 2553 - ปัจจุบัน ทุกครั้งที่ไปกราบพระอาจาย์สุชาติท่านจะเมตตาผมมากๆ และพระอาจารย์ชวนผมบวช (ไม่สึก) ท่านจะถามว่า “จะลาออกจากงานมาบวชได้หรือยัง” เกือบทุกครั้ง
การใช้ชีวิตฆราวาสไม่อำนวยต่อการนั่งสมาธิ แต่ผมก็พยายามนั่งสมาธิทุกวัน วันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ภาวนาพุทโธ ทีไรก็จะเกิดอาการตุ๊บๆๆ ที่หว่างคิ้วทุกครั้ง มีครั้งหนึ่งนั่งภาวนาที่บ้านเวลา 5 ทุ่ม ก็คิดว่านั่งสบายๆ ไม่ได้คิดอะไร กำหนดดูลมหายใจ จนจิตรวมเป็นสมาธิ ลมหายใจดับ กายดับสนิท เกิดดวงแก้ว สว่างไสว ดวงเดียว แล้วกำหนดให้ดวงแก้วนั้นแผ่ขยายจนครอบทั้งจักรวาล เหมือนทั้งจักรวาลนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรา เหมือนเราเป็นทั้งจักรวาล ทั้งจักรวาลอยู่ในทัศนวิสัยของเรา สามารถมองเห็นได้ทั้งจักรวาล กลุ่มดาวน้อยใหญ่มากมาย ใช้ความเวิ้งว้างกว้างใหญ่ของจักรวาลที่นิ่งสงบเป็นอารมณ์
เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ออกจากสมาธิผ่านไป 3 ชม.แต่รู้สึกเหมือนแปปเดียว หลังจากออกจากสมาธิ ตัวโล่งเบาสบาย เกิดบรมสุข จนนอนไม่หลับทั้งคืนตอนออกจากสมาธิก็ตี 2 กว่าๆแล้ว แต่ไม่ง่วงนอนเลย สุขตลอกทั้งคืนจนนอนไม่หลับ เหมือนอะดีนาลีนหลั่งออกมามากมายมหาศาล ไม่หิว ไม่ง่วงนอนมีแต่สุขติดไป 3 วัน 3 คืน (คืนที่ 2 นอนได้แล้วนะครับ) แล้วค่อยๆจางหายไป
วันต่อมาจึงขึ้นไปฟังธรรม พระอาจารย์สุชาติ บนเขาชีโอน แล้วนำสภาวะสมาธิที่เกิดขึ้นไปเรียนถามพระอาจารย์สุชาติ ท่านเมตตาตอบว่า “ถูกแล้ว เพราะจิตสงบเป็นสมาธิที่ละเอียดประณีตขึ้นพัฒนาจากรูปฌานเป็นอรูปฌาน”
เรียนรู้ธรรมบนเขา กับพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม
หลังจากทำงานที่ระยอง ปี 2553 ตั้งใจซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม สัตหีบ เพื่อมีโอกาสไปฟังธรรมบ่อยๆท่านเป็นศิษย์หลวงตามหาบัว และหลวงตามหาบัวท่านก็รับรองว่าเป็นพระอรหันต์แน่นอน มีโอกาสไปสนทนาธรรมและนั่งสมาธิบนเขาบ่อยๆ เดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2553 สมัยนั้นคนไปกราบพระอาจารย์ยังไม่เยอะ บางวันไม่มีคนเลย จึงได้มีโอกาสไปถวายสังฆทานและสนทนาธรรมกับพระอาจารย์สุชาติที่กุฏิบ่อยๆ (ปัจจุบันมีคนไปกราบและฟังธรรมกับพระอาจารย์สุชาติเยอะมากๆ)
มีวันหนึ่งพระอาจารย์เมตตานั่งรถเพื่อนผมลงจากเขาชีโอนมาที่วัดญาณฯ พระอาจารย์เมตตากล่าวว่า “เพราะเรามีของเก่า เคยทำความดี ปฏิบัติภาวนามาตั้งแต่อดีตชาติ ชาตินี้เลยปฏิบัติภาวนาได้ง่าย” ตั้งแต่ปี 2553 - ปัจจุบัน ทุกครั้งที่ไปกราบพระอาจาย์สุชาติท่านจะเมตตาผมมากๆ และพระอาจารย์ชวนผมบวช (ไม่สึก) ท่านจะถามว่า “จะลาออกจากงานมาบวชได้หรือยัง” เกือบทุกครั้ง
การใช้ชีวิตฆราวาสไม่อำนวยต่อการนั่งสมาธิ แต่ผมก็พยายามนั่งสมาธิทุกวัน วันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ภาวนาพุทโธ ทีไรก็จะเกิดอาการตุ๊บๆๆ ที่หว่างคิ้วทุกครั้ง มีครั้งหนึ่งนั่งภาวนาที่บ้านเวลา 5 ทุ่ม ก็คิดว่านั่งสบายๆ ไม่ได้คิดอะไร กำหนดดูลมหายใจ จนจิตรวมเป็นสมาธิ ลมหายใจดับ กายดับสนิท เกิดดวงแก้ว สว่างไสว ดวงเดียว แล้วกำหนดให้ดวงแก้วนั้นแผ่ขยายจนครอบทั้งจักรวาล เหมือนทั้งจักรวาลนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรา เหมือนเราเป็นทั้งจักรวาล ทั้งจักรวาลอยู่ในทัศนวิสัยของเรา สามารถมองเห็นได้ทั้งจักรวาล กลุ่มดาวน้อยใหญ่มากมาย ใช้ความเวิ้งว้างกว้างใหญ่ของจักรวาลที่นิ่งสงบเป็นอารมณ์
เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ออกจากสมาธิผ่านไป 3 ชม.แต่รู้สึกเหมือนแปปเดียว หลังจากออกจากสมาธิ ตัวโล่งเบาสบาย เกิดบรมสุข จนนอนไม่หลับทั้งคืนตอนออกจากสมาธิก็ตี 2 กว่าๆแล้ว แต่ไม่ง่วงนอนเลย สุขตลอกทั้งคืนจนนอนไม่หลับ เหมือนอะดีนาลีนหลั่งออกมามากมายมหาศาล ไม่หิว ไม่ง่วงนอนมีแต่สุขติดไป 3 วัน 3 คืน (คืนที่ 2 นอนได้แล้วนะครับ) แล้วค่อยๆจางหายไป
วันต่อมาจึงขึ้นไปฟังธรรม พระอาจารย์สุชาติ บนเขาชีโอน แล้วนำสภาวะสมาธิที่เกิดขึ้นไปเรียนถามพระอาจารย์สุชาติ ท่านเมตตาตอบว่า “ถูกแล้ว เพราะจิตสงบเป็นสมาธิที่ละเอียดประณีตขึ้นพัฒนาจากรูปฌานเป็นอรูปฌาน”