JJNY : 5in1 ประท้วงทวงโบนัส│เกียรตินาคินภัทรห่วงศก.ปี’66│ซัมซุงกำไรร่วง70%│"พท." รับข้อเสนอเยาวชน│‘สมชัย’ สงสัย กกต.

พนง.โรงงานดัง ชลบุรี ฮือประท้วงทวงโบนัส บริษัทยังต่อรอง ตกลงกันไม่ได้
https://www.matichon.co.th/region/news_3799714
 
 
พนง.โรงงานดัง ชลบุรี ฮือประท้วงทวงโบนัส บริษัทยังต่อรอง ตกลงกันไม่ได้

เมื่อวันที่ 31 มกราคม บริษัท ไทยคิคูวา อินดัสเตรียล จำกัด ตั้งอยู่ใน นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ถนนบางนา-ตราด ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ได้มีผู้ใช้แรงงานของบริษัทดังกล่าวประมาณ 100 คน รวมตัวประท้วง พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอเรียกร้องเงินโบนัส 3 เดือน พร้อมบวกเงินเพิ่มคนละ 10,000 บาท แต่ทางทางบริษัทให้การปฏิเสธ และพยายามต่อรองเหลือเงินโบนัส 2 เดือน ทำให้ผู้ใช้แรงงานไม่พอใจ จึงได้รวมตัวประท้วงดังกล่าว หลังจากนั้นได้เดินทางไปร้องเรียนกับสมาพันธ์แรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และโลหะแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมเพื่อคนทำงาน ต.บางเกลือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไป
 
จากการสอบถามตำรวจ สภ.พานทอง ที่ดูแลเกี่ยวกับการประท้วงกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของผู้ใช้แรงงานของบริษัทฯดังกล่าว มีมาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม เพื่อเรียกร้องโบนัส 5 เดือน แต่ทางบริษัทฯให้การปฏิเสธให้เพียง 2 เดือน ผู้ใช้แรงงานเรียกร้องขอ 3 เดือน บริษัทไม่รับเงื่อนไขดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการรวมตัวเพื่อเรียกร้องโบนัส
 
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้พยายามเรียกร้องให้กลับมาทำงาน พร้อมทั้งจะให้เงินโบนัส 2 เดือน ปรากฏว่าผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งได้กลับเข้าที่ทำงาน ขณะนี้มีพนักงานทำงานประมาณ 200 กว่าคน จากพนักงานกว่า 400 คน ทั้งนี้ บริษัทก็ยังเปิดรับพนักงานคนใหม่เข้ามาทำงานเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ที่ประท้วงก็ปล่อยให้มีการประท้วงต่อไป



เกียรตินาคินภัทรห่วงเศรษฐกิจปี’66 เงินเฟ้อสูง-ดอกเบี้ยขาขึ้น-ศก.โลกถดถอย
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7485541

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2566 แม้จะมีความหวังฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว และการเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าที่คาด แต่อีกด้านหนึ่งเป็นการฟื้นตัวท่ามกลางพายุเศรษฐกิจโลก ที่ถาโถมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว จนทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้อาจไม่ทั่วถึง
 
การคาดการณ์ล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะชะลอตัวลงจากปีก่อน และหลายเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ด้วยปัญหาเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกระทบกับภาคการส่งออกของไทยโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก
 
ตัวเลขการส่งออกของไทย ซึ่งเป็นเครื่องจักรหลักของเศรษฐกิจไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ปลายปีที่ผ่านมา ภาคส่งออกเริ่มหดตัว และมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่สูง และจากมูลค่าเฉลี่ยของการส่งออกในระยะ 5 ปีหลัง การส่งออกไทยได้แตะจุดสูงสุดไปแล้วในปีที่แล้ว ดังนั้นจึงยากที่จะเติบโตในระดับสูงต่อไปในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะหดตัวอย่างน้อยในครึ่งปีแรก ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีเมื่อเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัว และการส่งออกทั้งปีจะติดลบ 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
 
ทั้งนี้ สำนักวิจัยของกลุ่มธุรกิจฯ KKP Research ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จาก 2.8% เป็น 3.6% โดยมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว และการเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดของจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้จะอยู่ที่ 25 ล้านคน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 19 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ด้วยการกระจุกตัวของภาคท่องเที่ยวไทย และห่วงโซ่อุปทานที่ไม่ยาวเหมือนกับภาคการผลิตจะทำให้มีเพียงบางจังหวัดหรือบางภาคเศรษฐกิจเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการฟื้นตัวนี้
 
สำหรับ ภาพรวมความเสี่ยงเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในปีนี้ได้แก่ 
1. การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะมาถึงเร็วและรุนแรงแค่ไหน และกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างไร 
2. เงินเฟ้อโลกและเงินเฟ้อไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงจะสามารถกลับมาสู่ระดับปกติได้เร็วเพียงใด 
และ 3. การเปิดเมืองของจีนจะราบรื่นตลอดทั้งปีหรือไม่ รวมไปถึงความเสี่ยงจากการระบาดของโควิดที่ยังไม่สามารถมองข้าม นอกจากนี้ปีนี้ยังเป็นปีที่ประเทศไทยมีการเลือกตั้งซึ่งอาจเพิ่มตัวแปรที่กระทบต่อเศรษฐกิจเช่นกัน
 
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า จากที่ KKP Research วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยที่จะส่งผลกระทบในวงกว้างและอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อ ดังนั้นแผนธุรกิจปี 2566 ของกลุ่มฯ จึงเป็นการเติบโตแบบระมัดระวัง โดยขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ และสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อบ้าน รวมทั้งการเดินหน้าเจาะตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ อย่าง รถเรียกเงิน และการใช้ประโยชน์จากช่องทางดิจิทัลของธนาคารมากขึ้น



ซัมซุงกำไรร่วง 70% ลดต่ำสุดรอบ 8 ปี ชี้ ศก.ชะลอตัวกระทบยอดขายหนัก
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3799829

ซัมซุงกำไรร่วง 70% ลดต่ำสุดรอบ 8 ปี ชี้ ศก.ชะลอตัวกระทบยอดขายหนัก
 
บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของเกาหลีใต้ ประกาศผลกำไรไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาว่าลดลงถึเกือบ 70% ซึ่งถือเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบกว่า 8 ปี โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้กระทบกับยอดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการขายชิป
ซัมซุงระบุว่า ผลกำไรในระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2565 ลดลงเหลือ 4.3 ล้านล้านวอน หรือราว 112,200 ล้านบาท ซึ่งลดลงถึง 69% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือเป็นการลดลงตามที่ซัมซุงได้ประมาณการก่อนหน้านี้ และเป็นการลดลงของกำไรรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดของบริษัทนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2014
 
แถลงการณ์ของซัมซุงระบุว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจย่ำแย่ลงอย่างมากในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
 
ด้านยอดขายของซัมซุงก็ลดลง 8% มาอยู่ที่ 70.46 ล้านล้านวอนจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังบอกด้วยว่าชิปหน่วยความจำเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะไม่เพียงแต่ราคาจะลดลงแต่ลูกค้ายังคงปรับสินค้าคงคลัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนอันหนักหนาจากสภาพแวดล้อมภายนอก
การลดลงของกำไรในไตรมาสที่ 4 ดังกล่าวของซัมซุงยังถือเป็นการลดลงของกำไรรายไตรมาสครั้งที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ซัมซุงมีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 31% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
 
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาผลกำไรในการดำเนินงานตลอดทั้งปี ซัมซุงยังคงมีกำไรจากการดำเนินงาน 43.88 ล้านล้านวอน แลละมีรายได้ต่อปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 302.23 ล้านล้านวอน


 
"พท." ยก 3 ข้อรับข้อเสนอเยาวชน ชี้ปม ม.112 เป็นเรื่องของรัฐบาล-รัฐสภา ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่งทำสำเร็จ
https://siamrath.co.th/n/419318

วันที่ 31 มกราคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว ถึงข้อเรียกร้องของเยาวชนที่มาเรียกร้องที่พรรคเพื่อไทย 

1. เราขอแสดงความเคารพในการตัดสินใจ ความเสียสละในการต่อสู้อย่างเด็ดเดียวของ  คุณตะวัน ตัวตุลานนท์ และคุณอรวรรณ ภู่พงษ์ ในครั้งนี้  การถอนประกันตัวเองและอดอาหารและน้ำของตะวันและแบม เรามีความห่วงใยในความปลอดภัยแห่งชีวิตของน้องนักศึกษาทั้ง 2 ซึ่งควรจะมีชีวิต เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและชาติบ้านเมืองต่อไป มีข้อฝากว่าแพทย์มีหน้าที่รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แม้จะขัดต่อเจตนารมณ์และความยินยอมของผู้ป่วย ตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ข้อบังคับแพทยสภา และพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม จึงไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะสามารถปล่อยให้ผู้ป่วยสิ้นชีวิตไปได้ต่อหน้าต่อตา โดยมิได้ทำอะไรเลย
 
2.  พรรคเห็นว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิในการประกันตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมทั้งของไทย และนานาอารยประเทศ พรรคเห็นว่าการให้ประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นนิสิต นักศึกษา และเป็นเพียงผู้เห็นต่างทางความคิดมิได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงใดๆ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพเป็นหลัก จึงถึงเวลาที่ควรจะได้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ดังเช่นที่พรรคเพื่อไทยได้เคยเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องสิทธิในการประกันตัวจะต้องเป็นหลัก การไม่ให้ประกันต้องเป็นข้อยกเว้น จะคุมขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้เกินหนึ่งปีมิได้ และให้เพิ่มเติมสิทธิในกระบวนการยุติธรรมไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยเร่งด่วนในชั้นนี้เห็นว่าการที่ศาลไม่ให้ประกันตัว โดยเหตุผลที่ไม่สอดคล้องกับ ป.วิ.อาญา การถอนประกันโดยศาลเองโดยมิได้มีคำร้องจากฝ่ายใด เป็นเรื่องที่จะต้องทบทวน นอกจากนี้พรรคจะเสนอเลื่อนญัตติด่วนเรื่องการใช้กฎหมายที่ล้นเกินอันกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ค้างอยู่ในสภาขึ้นมาพิจารณาในสัปดาห์นี้
 
3.  ส่วนข้อเสนอเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 นั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่า กรณีตามมาตรา 116 นั้น เป็นความผิดที่เรียกว่าการยุยง ปลุกปั่น เป็นกฎหมายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากที่สุดจนถูกเรียกว่ากฎหมายครอบจักรวาล มีองค์ประกอบหรือการตีความได้กว้างขวาง การแก้ไข จึงน่าจะกระทำได้ 
 
ส่วนกรณีตามมาตรา 112 นั้น พรรคเห็นว่ามาตรานี้ บัญญัติขึ้นเพื่อคุ้มครองประมุขของรัฐควบคู่กับประวัติศาสตร์ของประเทศที่ยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การแก้ไขใดๆ มีความเห็นหลากหลายในสังคมและมีความแตกต่างกันในทางความคิดแบบสุดขั้ว อาจเรียกได้ว่า ถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกันจนยากที่จะหาบทสรุปที่เป็นไปในทางสันติและความสมานฉันท์ของคนในประเทศ 

นอกจากนั้น การแก้ไขกฎหมายเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐสภาที่ควรจะเป็นองค์กรรับผิดชอบ ในชั้นนี้พรรคจึงเห็นว่าการปรึกษาหารือกันในแนวทางปฏิบัติของการบังคับใช้มาตรา 112 จะเป็นทางออกทางหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาได้ในเบื้องต้นและไม่อาจกระทำได้โดยลำพังของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เห็นว่าควรสนับสนุนส่งเสริมผลักดันให้สังคมได้ร่วมกันพิจารณาประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวาง และหากมีผลเป็นข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเรายินดีสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดผล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่