02 กุมภาพันธ์ 2557 DTAC.ปกรณ์ วิเคาระห์ กำไร Samsung ลดเพราะช่วงแรกซื้อตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้สนใจสินค้ารุ่นใหม่ ( ของเก่าใช้งานได้ )
ประเด็นหลัก
สำหรับกำไรลดลงของซัมซุงในครั้งนี้ นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค สะท้อนความคิดเห็นว่าผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบสมาร์ทโฟนเริ่มทำการตลาดลดลง เนื่องจากว่าตลาดบนเริ่มอิ่มตัวแล้ว เพราะตลาดกลุ่มนี้สามารถทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นเมื่อตลาดกลุ่มนี้เริ่มอิ่มตัวมาร์จิ้นต่อยอดขายก็ปรับตัวลงมาเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นที่มาผู้ผลิตเริ่มกระจายสินค้าลงมาเล่นตลาดระดับล่างในราคาที่ไม่เกิน1หมื่นบาท
"2 ปีก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซัมซุง และไอโฟน ออกมาผู้บริโภคยอมควักกระเป๋าซื้อรุ่นใหม่ แต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งสินค้ารุ่นใหม่ออกมาก็ไม่แตกต่างกว่ารุ่นก่อนๆ"
นอกเหนือจากตลาดระดับบนเริ่มอิ่มตัว แต่ในช่วงระหว่างนี้ผู้เล่นมีหลายรายที่เข้ามาจับตลาดสมาร์ทโฟนโดยใช้ดาราเกาหลีเป็นแม่เหล็กในการซื้อสินค้า เพราะฉะนั้นกำไรที่ผู้ผลิตมือถือลดลงนั้นเป็นเหมือนกันหมดทั่วโลก
"ผมถึงไม่แปลกใจเท่าไรที่ซัมซุงมีกำไรลดเพราะรายได้มือถือสมาร์ทโฟนเติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกแต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้สนใจสินค้ารุ่นใหม่เพราะสินค้าที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานได้" นายปกรณ์กล่าว
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=216432:2014-01-28-08-49-32&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.Uu5NpXeSxiY
______________________________________
ธุรกิจมือถือ 'ซัมซุง' กำไรร่วงครั้งแรก!!!
ตะลึง! กันไปเลยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซัมซุง ยักษ์ใหญ่จากแดนกิมจิ ประกาศตัวเลขผลการดำเนินงานช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2556 ปรากฏว่ากำไรสุทธิได้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มบุกตลาดเมื่อปี 2554
alt ทั้งนี้ผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7,800 ล้านดอลลาร์หรือราว 2.34 หมื่นล้านบาท ลดลง 18% จากไตรมาสที่ 3 และลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ขณะที่ผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.7% จากปีก่อน แต่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสที่ 3 ซึ่งอยู่ที่ 25.6% เนื่องจากส่วนต่างจากธุรกิจชิปอันแข็งแกร่งของบริษัทไม่สามารถที่จะชดเชยผลกำไรที่เริ่มซบเซาของธุรกิจสมาร์ทโฟนรุ่นกาแลคซี่ได้
*** ย้อนรอยสมาร์ทโฟนซัมซุง
ย้อนเวลาไป 2 ปีที่ผ่านมา ซัมซุงเข้ามาบุกตลาดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนในตระกูลกาแลคซี่ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามโดยเฉพาะความคมชัดของกล้อง ที่เป็นจุดขายหลัก ประกอบกับการผสมผสานของเทคโนโลยีทำให้ ซัมซุงพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องทั้งกาแลคซี่โน้ต และกาแลคซี่แท็บ
เรียกได้ว่าขึ้นมาครองแชมป์อันดับหนึ่งล้มยักษ์ "โนเกีย" สร้างความฮือฮาในตลาดเลยทีเดียว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปี 2555 บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ฯ ผู้นำเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์สื่อสารอันดับ 1 ของโลกจากเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยผลกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 เพิ่มขึ้นกว่า 89% เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนตระกูล "กาแลคซี่" ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
alt เมื่อพลิกดูผลประกอบการของซัมซุงย้อนหลังช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 หรือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม อยู่ที่ 8.84 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 8.26 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 89.7% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม "ซัมซุง" ระบุถึงปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 ดีเกินความคาดหมายว่า มาจากยอดจำหน่ายทั่วโลกของสมาร์ทโฟนรุ่น "กาแลคซี่ เอส 3" และ "กาแลคซี่ โน้ต 2" ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ซัมซุงจะไม่เปิดเผยจำนวนสมาร์ทโฟนที่มีการจำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เบื้องต้นนักวิเคราะห์ประเมินว่า น่าจะอยู่ที่กว่า 63 ล้านเครื่อง
*** ปีแห่งความท้าทาย
เมื่อผลประกอบการที่มีกำไรลดลงเป็นครั้งแรกของซัมซุง ทำให้นายโรเบิร์ต อี้ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ฯ ออกมาเปิดเผยว่า เป็นเพราะความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมหภาค เช่น ค่าเงินวอนที่แข็งค่า และ ความกังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการลดมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ ทำให้ผลกำไรของซัมซุงต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนทางด้านการตลาดโฆษณา ซัมซุง กาแลคซี่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การให้เงินโบนัสพิเศษแก่พนักงาน
นายโรเบิร์ตยังกล่าวอีกว่า สำหรับกำไรที่ลดลงนั้นเชื่อว่ายังไม่ฟื้นในทันทีทันใดภายในปี 2557 โดยในไตรมาสแรกจะถือเป็นความท้าทายสำหรับซัมซุงในการปรับปรุงผลกำไร เนื่องจากฤดูซบเซาของอุตสาหกรรมไอทีจะกระทบต่อความต้องการอุปกรณ์ส่วนประกอบต่างๆ และโทรทัศน์ด้วย
alt ***กำไรลดลงขยายตลาดล่าง
สำหรับกำไรลดลงของซัมซุงในครั้งนี้ นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค สะท้อนความคิดเห็นว่าผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบสมาร์ทโฟนเริ่มทำการตลาดลดลง เนื่องจากว่าตลาดบนเริ่มอิ่มตัวแล้ว เพราะตลาดกลุ่มนี้สามารถทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นเมื่อตลาดกลุ่มนี้เริ่มอิ่มตัวมาร์จิ้นต่อยอดขายก็ปรับตัวลงมาเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นที่มาผู้ผลิตเริ่มกระจายสินค้าลงมาเล่นตลาดระดับล่างในราคาที่ไม่เกิน1หมื่นบาท
"2 ปีก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซัมซุง และไอโฟน ออกมาผู้บริโภคยอมควักกระเป๋าซื้อรุ่นใหม่ แต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งสินค้ารุ่นใหม่ออกมาก็ไม่แตกต่างกว่ารุ่นก่อนๆ"
นอกเหนือจากตลาดระดับบนเริ่มอิ่มตัว แต่ในช่วงระหว่างนี้ผู้เล่นมีหลายรายที่เข้ามาจับตลาดสมาร์ทโฟนโดยใช้ดาราเกาหลีเป็นแม่เหล็กในการซื้อสินค้า เพราะฉะนั้นกำไรที่ผู้ผลิตมือถือลดลงนั้นเป็นเหมือนกันหมดทั่วโลก
"ผมถึงไม่แปลกใจเท่าไรที่ซัมซุงมีกำไรลดเพราะรายได้มือถือสมาร์ทโฟนเติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกแต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้สนใจสินค้ารุ่นใหม่เพราะสินค้าที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานได้" นายปกรณ์กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=216432:2014-01-28-08-49-32&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.Uu5NpXeSxiY
ผมขอเปลื่ยนชื่อจาก So Magawn เป็น Magawn19 (มันมีความหมายว่าเริ่มเล่นพันทิปอายุ19ครับ) มีผลทุกช่องทางนะครับ รวมถึงคลังความรู้โทรคมนาคมและการสือสาร
http://magawn19.blogspot.com/
DTAC.ปกรณ์ วิเคาระห์ กำไร Samsung ลดเพราะช่วงแรกซื้อตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้สนใจสินค้ารุ่นใหม่ ( ของเก่าใช้งานได้ )
ประเด็นหลัก
สำหรับกำไรลดลงของซัมซุงในครั้งนี้ นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค สะท้อนความคิดเห็นว่าผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบสมาร์ทโฟนเริ่มทำการตลาดลดลง เนื่องจากว่าตลาดบนเริ่มอิ่มตัวแล้ว เพราะตลาดกลุ่มนี้สามารถทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นเมื่อตลาดกลุ่มนี้เริ่มอิ่มตัวมาร์จิ้นต่อยอดขายก็ปรับตัวลงมาเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นที่มาผู้ผลิตเริ่มกระจายสินค้าลงมาเล่นตลาดระดับล่างในราคาที่ไม่เกิน1หมื่นบาท
"2 ปีก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซัมซุง และไอโฟน ออกมาผู้บริโภคยอมควักกระเป๋าซื้อรุ่นใหม่ แต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งสินค้ารุ่นใหม่ออกมาก็ไม่แตกต่างกว่ารุ่นก่อนๆ"
นอกเหนือจากตลาดระดับบนเริ่มอิ่มตัว แต่ในช่วงระหว่างนี้ผู้เล่นมีหลายรายที่เข้ามาจับตลาดสมาร์ทโฟนโดยใช้ดาราเกาหลีเป็นแม่เหล็กในการซื้อสินค้า เพราะฉะนั้นกำไรที่ผู้ผลิตมือถือลดลงนั้นเป็นเหมือนกันหมดทั่วโลก
"ผมถึงไม่แปลกใจเท่าไรที่ซัมซุงมีกำไรลดเพราะรายได้มือถือสมาร์ทโฟนเติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกแต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้สนใจสินค้ารุ่นใหม่เพราะสินค้าที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานได้" นายปกรณ์กล่าว
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=216432:2014-01-28-08-49-32&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.Uu5NpXeSxiY
______________________________________
ธุรกิจมือถือ 'ซัมซุง' กำไรร่วงครั้งแรก!!!
ตะลึง! กันไปเลยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซัมซุง ยักษ์ใหญ่จากแดนกิมจิ ประกาศตัวเลขผลการดำเนินงานช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2556 ปรากฏว่ากำไรสุทธิได้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มบุกตลาดเมื่อปี 2554
alt ทั้งนี้ผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7,800 ล้านดอลลาร์หรือราว 2.34 หมื่นล้านบาท ลดลง 18% จากไตรมาสที่ 3 และลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ขณะที่ผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.7% จากปีก่อน แต่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสที่ 3 ซึ่งอยู่ที่ 25.6% เนื่องจากส่วนต่างจากธุรกิจชิปอันแข็งแกร่งของบริษัทไม่สามารถที่จะชดเชยผลกำไรที่เริ่มซบเซาของธุรกิจสมาร์ทโฟนรุ่นกาแลคซี่ได้
*** ย้อนรอยสมาร์ทโฟนซัมซุง
ย้อนเวลาไป 2 ปีที่ผ่านมา ซัมซุงเข้ามาบุกตลาดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนในตระกูลกาแลคซี่ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามโดยเฉพาะความคมชัดของกล้อง ที่เป็นจุดขายหลัก ประกอบกับการผสมผสานของเทคโนโลยีทำให้ ซัมซุงพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องทั้งกาแลคซี่โน้ต และกาแลคซี่แท็บ
เรียกได้ว่าขึ้นมาครองแชมป์อันดับหนึ่งล้มยักษ์ "โนเกีย" สร้างความฮือฮาในตลาดเลยทีเดียว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปี 2555 บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ฯ ผู้นำเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์สื่อสารอันดับ 1 ของโลกจากเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยผลกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 เพิ่มขึ้นกว่า 89% เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนตระกูล "กาแลคซี่" ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
alt เมื่อพลิกดูผลประกอบการของซัมซุงย้อนหลังช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 หรือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม อยู่ที่ 8.84 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 8.26 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 89.7% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม "ซัมซุง" ระบุถึงปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 ดีเกินความคาดหมายว่า มาจากยอดจำหน่ายทั่วโลกของสมาร์ทโฟนรุ่น "กาแลคซี่ เอส 3" และ "กาแลคซี่ โน้ต 2" ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ซัมซุงจะไม่เปิดเผยจำนวนสมาร์ทโฟนที่มีการจำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่เบื้องต้นนักวิเคราะห์ประเมินว่า น่าจะอยู่ที่กว่า 63 ล้านเครื่อง
*** ปีแห่งความท้าทาย
เมื่อผลประกอบการที่มีกำไรลดลงเป็นครั้งแรกของซัมซุง ทำให้นายโรเบิร์ต อี้ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ฯ ออกมาเปิดเผยว่า เป็นเพราะความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมหภาค เช่น ค่าเงินวอนที่แข็งค่า และ ความกังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการลดมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ ทำให้ผลกำไรของซัมซุงต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนทางด้านการตลาดโฆษณา ซัมซุง กาแลคซี่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การให้เงินโบนัสพิเศษแก่พนักงาน
นายโรเบิร์ตยังกล่าวอีกว่า สำหรับกำไรที่ลดลงนั้นเชื่อว่ายังไม่ฟื้นในทันทีทันใดภายในปี 2557 โดยในไตรมาสแรกจะถือเป็นความท้าทายสำหรับซัมซุงในการปรับปรุงผลกำไร เนื่องจากฤดูซบเซาของอุตสาหกรรมไอทีจะกระทบต่อความต้องการอุปกรณ์ส่วนประกอบต่างๆ และโทรทัศน์ด้วย
alt ***กำไรลดลงขยายตลาดล่าง
สำหรับกำไรลดลงของซัมซุงในครั้งนี้ นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค สะท้อนความคิดเห็นว่าผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบสมาร์ทโฟนเริ่มทำการตลาดลดลง เนื่องจากว่าตลาดบนเริ่มอิ่มตัวแล้ว เพราะตลาดกลุ่มนี้สามารถทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นเมื่อตลาดกลุ่มนี้เริ่มอิ่มตัวมาร์จิ้นต่อยอดขายก็ปรับตัวลงมาเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นที่มาผู้ผลิตเริ่มกระจายสินค้าลงมาเล่นตลาดระดับล่างในราคาที่ไม่เกิน1หมื่นบาท
"2 ปีก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซัมซุง และไอโฟน ออกมาผู้บริโภคยอมควักกระเป๋าซื้อรุ่นใหม่ แต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งสินค้ารุ่นใหม่ออกมาก็ไม่แตกต่างกว่ารุ่นก่อนๆ"
นอกเหนือจากตลาดระดับบนเริ่มอิ่มตัว แต่ในช่วงระหว่างนี้ผู้เล่นมีหลายรายที่เข้ามาจับตลาดสมาร์ทโฟนโดยใช้ดาราเกาหลีเป็นแม่เหล็กในการซื้อสินค้า เพราะฉะนั้นกำไรที่ผู้ผลิตมือถือลดลงนั้นเป็นเหมือนกันหมดทั่วโลก
"ผมถึงไม่แปลกใจเท่าไรที่ซัมซุงมีกำไรลดเพราะรายได้มือถือสมาร์ทโฟนเติบโตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกแต่ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้สนใจสินค้ารุ่นใหม่เพราะสินค้าที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานได้" นายปกรณ์กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=216432:2014-01-28-08-49-32&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.Uu5NpXeSxiY
ผมขอเปลื่ยนชื่อจาก So Magawn เป็น Magawn19 (มันมีความหมายว่าเริ่มเล่นพันทิปอายุ19ครับ) มีผลทุกช่องทางนะครับ รวมถึงคลังความรู้โทรคมนาคมและการสือสาร http://magawn19.blogspot.com/