“ซัมซุง” เผยผลกำไรมากสุดเป็นประวัติการณ์ (แม้ค่าเงินแข็ง) 1.95 แสนล้านบาทในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2013 ขอบคุณ Galaxy S3

26 เมษายน 2556 “ซัมซุง” เผยผลกำไรมากสุดเป็นประวัติการณ์ (แม้ค่าเงินแข็ง) 1.95 แสนล้านบาทในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2013 ขอบคุณ Galaxy S3 // Galaxy Note
ประเด็นหลัก




  ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกอย่างซัมซุงระบุว่าสามารถทำกำไรสุทธิ 7.2 ล้านล้านวอน คิดเป็น 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.95 แสนล้านบาทในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2013 ที่ผ่านมา จากปีก่อนที่เคยทำได้ 5 ล้านล้านวอนในไตรมาสเดียวกัน
    
       กำไร 7.2 ล้านล้านวอนนี้ทำให้นักวิเคราะห์ประหลาดใจ เพราะเป็นตัวเลขที่สูงกว่ากำไรในไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 4 ปี 2012) ราว 2% จุดนี้มีการประเมินไว้ว่าซัมซุงอาจต้องประกาศผลกำไรลดลง ตามรูปแบบปกติของผลประกอบการหลายบริษัทที่กำไรจะเพิ่มในปลายปีแต่จะลดลงช่วงต้นปี แต่ซัมซุงสามารถหลุดออกจากวงจรนี้ได้อย่างงดงาม
    
       ซัมซุงยกความดีให้กับยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 2 รุ่นอย่าง Galaxy S3 และสมาร์ทโฟนหน้าจอยักษ์ลูกผสมแท็บเล็ต Galaxy Note ที่เติบโตแข็งแกร่ง จุดนี้ซัมซุงคุยฟุ้งว่าเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นทั้งที่บริษัทตัดลดงบการตลาดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่ซัมซุงต้องโหมทำตลาดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง
    

นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีของโลกยังประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีนี้ หรือระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. ว่าอยู่ที่ 32.82 ล้านล้านวอน ( ราว 8.49 ล้านล้านบาท ) แบ่งเป็นกำไรต้นทุน 8.8 ล้านล้านวอน ( ราว 2.27 แสนล้านบาท )  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ถึง  54% และกำไรสุทธิ 7.15 ล้านล้านวอน ( ราว 1.85 แสนล้านบาท ) เพิ่มขึ้น 41.6 % ซึ่งเป็นผลมาจากยอดจำหน่ายกาแล็กซี่ เอส 3 ที่สูงกว่า 41 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว  ขณะที่ “กาแล็กซี่ เอส” และ “กาแล็กซี่ เอส 2” ยังคงทำยอดจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่กว่า 25 ล้านเครื่อง  และ 40 ล้านเครื่องตามลำดับ



ขณะที่นายโรเบิร์ต ยี รองประธานอาวุโส กล่าวว่า บริษัทอาจเผชิญการแข่งขันรุนแรงในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ผลจากการขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงล่าง


http://www.dailynews.co.th/world/200125
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130426/502509/%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0
%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%
A3%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%A3%
E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8
%B4.html
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000050282

_________________________________________



“ซัมซุง” เริ่มขาย “กาแล็กซี่ เอส 4” พร้อมเผยผลกำไรมากสุดเป็นประวัติการณ์

"ซัมซุง" เริ่มวางจำหน่าย “กาแล็กซี่ เอส 4” ในตลาดบ้านเกิดที่เกาหลีใต้แล้ว และประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกที่สูงเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่า บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิค ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกจากเกาหลีใต้ เริ่มวางจำหน่าย “กาแล็กซี่ เอส 4” สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตลาดบ้านเกิดแล้ว พร้อมกับประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์กว่า 41%


วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ซัมซุงเริ่มวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของตัวเองอย่างเป็นทางการในเกาหลีใต้ ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการรับชมภาพเคลื่อนไหวด้วยดวงตา ความสามารถในการรับคำสั่งจากการสัมผัสหน้าจอทั้งที่สวมถุงมือ หรือแม้แต่การที่นิ้วอยู่ห่างจากหน้าจอในระยะ 1 นิ้ว การถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน ตลอดจนหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว  ที่ใหญ่กว่า “กาแล็กซี่ เอส 3” 0.2 นิ้ว และสามารถประมวลผลด้วยความละเอียดและคมชัดสูงถึง 1,080 พี 1920x1080 พิกเซล


อย่างไรก็ตาม ซัมซุงออกมาประกาศก่อนหน้านี้ไม่นานว่า จำเป็นต้องเลื่อนการวางจำหน่ายสินค้าตัวใหม่ในสหรัฐ เนื่องจากปริมาณความต้องการที่มากเกินความคาดหมาย จนทำให้ผลิตไม่ทัน


นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีของโลกยังประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีนี้ หรือระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. ว่าอยู่ที่ 32.82 ล้านล้านวอน ( ราว 8.49 ล้านล้านบาท ) แบ่งเป็นกำไรต้นทุน 8.8 ล้านล้านวอน ( ราว 2.27 แสนล้านบาท )  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ถึง  54% และกำไรสุทธิ 7.15 ล้านล้านวอน ( ราว 1.85 แสนล้านบาท ) เพิ่มขึ้น 41.6 % ซึ่งเป็นผลมาจากยอดจำหน่ายกาแล็กซี่ เอส 3 ที่สูงกว่า 41 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว  ขณะที่ “กาแล็กซี่ เอส” และ “กาแล็กซี่ เอส 2” ยังคงทำยอดจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่กว่า 25 ล้านเครื่อง  และ 40 ล้านเครื่องตามลำดับ

http://www.dailynews.co.th/world/200125

______________________________





ซัมซุงทำกำไรไตรมาสแรกทุบสถิติ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กำไรไตรมาสแรกทะยานขึ้น 41.6% จากยอดขายสมาร์ทโฟนที่แข็งแกร่ง ทุบสถิติที่เคยทำไว้

แถลงการณ์จากบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้มีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ 7.15 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นจาก 5.05 ล้านล้านวอนในไตรมาสแรกของปี 2555 ทั้งยังสูงกว่าสถิติที่เคยทำไว้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 ที่ 7.04 ล้านล้านวอน


ส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อน เป็น 8.8 ล้านล้านวอน โดยตัวเลขกำไรทั้งหมดนั้นมาจากแผนกไอทีและโทรศัพท์มือถือ 6.51 ล้านล้านวอน

นักวิเคราะห์ประเมินว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม ซัมซุงจัดส่งสมาร์ทโฟนประมาณ 70 ล้านเครื่อง
แถลงการณ์ของซัมซุงระบุว่า ยอดขายที่ดีของกาแลกซี่ เอส 3 สมาร์ทโฟนยอดนิยม ช่วยหนุนนำผลกำไร แต่เตือนว่าความต้องการทั่วโลกในไตรมาสที่สองอาจไม่น่าพอใจ

ขณะที่นายโรเบิร์ต ยี รองประธานอาวุโส กล่าวว่า บริษัทอาจเผชิญการแข่งขันรุนแรงในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ผลจากการขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงล่าง

การรายงานผลประกอบการของซัมซุงมีขึ้นวันเดียวกับที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ กาแลกซี่ เอส 4 จะวางจำหน่าย หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วในนิวยอร์ก


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130426/502509/%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0
%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%
A3%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%A3%
E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8
%B4.html


_____________________________



Samsung กำไรบาน 42%

Galaxy S4 สมาร์ทโฟนเรือธงล่าสุดที่คาดว่าจะทำเงินให้ซัมซุงมากกว่าไตรมาส 1 ปี 2013 ที่ผ่านมา ซึ่งซัมซุงมีกำไรมากขึ้นเกิน 40%

       ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ยิ้มรับผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2013 ปรากฏกำไรสุทธิบริษัทเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ผลจากยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่เติบโตจนสามารถพยุงให้ซัมซุงมีผลกำไรที่ดีกว่าเดิม แม้ว่าตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจะอยู่ในช่วงชะลอการซื้อก็ตาม
      
       ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกอย่างซัมซุงระบุว่าสามารถทำกำไรสุทธิ 7.2 ล้านล้านวอน คิดเป็น 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.95 แสนล้านบาทในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2013 ที่ผ่านมา จากปีก่อนที่เคยทำได้ 5 ล้านล้านวอนในไตรมาสเดียวกัน
      
       กำไร 7.2 ล้านล้านวอนนี้ทำให้นักวิเคราะห์ประหลาดใจ เพราะเป็นตัวเลขที่สูงกว่ากำไรในไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 4 ปี 2012) ราว 2% จุดนี้มีการประเมินไว้ว่าซัมซุงอาจต้องประกาศผลกำไรลดลง ตามรูปแบบปกติของผลประกอบการหลายบริษัทที่กำไรจะเพิ่มในปลายปีแต่จะลดลงช่วงต้นปี แต่ซัมซุงสามารถหลุดออกจากวงจรนี้ได้อย่างงดงาม
      
       ซัมซุงยกความดีให้กับยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 2 รุ่นอย่าง Galaxy S3 และสมาร์ทโฟนหน้าจอยักษ์ลูกผสมแท็บเล็ต Galaxy Note ที่เติบโตแข็งแกร่ง จุดนี้ซัมซุงคุยฟุ้งว่าเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นทั้งที่บริษัทตัดลดงบการตลาดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่ซัมซุงต้องโหมทำตลาดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง
      
       ตลอด 3 เดือนแรกของปีนี้ ซัมซุงระบุว่ามียอดรายรับรวมเพิ่มขึ้น 17% เป็น 52.9 ล้านล้านวอน (เทียบเท่า 4.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.4 ล้านล้านบาท) โดยกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 54% เป็น 8.8 ล้านล้านวอน (เท่ากับ 7.9 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 2.4 แสนล้านบาท) ถือว่าอยู่ในช่วงที่ซัมซุงเคยประมาณไว้
      
       กำไรสุทธิของซัมซุงที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ถูกนับเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส ทุกไตรมาสซัมซุงจะยกความดีให้กับความสำเร็จของธุรกิจสมาร์ทโฟนที่สร้างรายได้และกำไรเป็นกอบเป็นกำ เชื่อว่าความสำเร็จนี้จะสูงขึ้นอีกเมื่อ Galaxy S4 เริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสปัจจุบัน (เมษายน-มิถุนายน 2013)
      
       จุดนี้ ซัมซุงคุยฟุ้งว่า Galaxy S4 มียอดสั่งซื้อภายในสูงเกินกว่าคาดหมาย โดยลี ดอน-จู (Lee Don-joo) ประธานฝ่ายขายและการตลาดของซัมซุงแสดงความมั่นใจว่า S4 จะมียอดจำหน่ายสูงกว่ารุ่น S3 แน่นอน
      
       ในภาพรวม ซัมซุงประกาศตัวเลขกำไรจากการดำเนินงานในแผนกอุปกรณ์ไอทีและการสื่อสารพกพา ซึ่งรวมทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์พีซี และกล้องดิจิตอล ว่ามีมูลค่า 6.5 ล้านล้านวอน (คิดเป็น 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.7 แสนล้านบาท) คิดเป็นอัตราเติบโตมากกว่า 56% จากปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ซัมซุงปรับโครงสร้างองค์กรโดยรวมแผนกคอมพิวเตอร์พีซีเข้ากับแผนกสมาร์ทโฟน

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000050282
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่