โตโยต้า คาดการณ์ตลาดรวมปี 2566 ที่ 900,000 คัน พร้อมตั้งเป้าประมาณการขายโตโยต้าที่ 310,000 คัน

กระทู้ข่าว
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2565 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2566 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 

สถิติการขายรถยนต์ในปี 2565
       ปี 2565 ถือเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยยังอยู่ในภาวะการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยบวกจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของภาครัฐ เพื่อช่วยสนับสนุนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการส่งออกที่เริ่มเติบโตดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ตลอดจนสถานการณ์ของ COVID-19 ที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศของภาครัฐ รวมถึงการทยอยฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากการเปิดประเทศ มีส่วนช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ดียิ่งขึ้น 

       แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยด้านลบอื่นๆที่ส่งผลกระทบอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่นปัญหาการขาดแคลน เซมิคอนดัคเตอร์ที่ยังคงยืดเยื้อส่งผลกระทบกับภาคการผลิตในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมถึงปัจจัยอื่นๆจากสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม อาทิ ปัญหาด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศจากต้นทุนการขนส่งสินค้าทางเรืออยู่ในระดับสูง อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ความผันผวนของสถานการณ์การเงินโลก ราคาพลังงานและวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายทั้งภายในประเทศและการส่งออก รวมถึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทย แต่ในภาพรวมแล้วยังถือว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนมายังตลาดรถยนต์ในประเทศด้วยเช่นกัน โดยตัวเลขยอดขายรวมภายในประเทศปี 2565 อยู่ที่  849,388 คัน หรือเพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับปี 2564 
สถิติการขายรถยนต์ในปี 2565    ยอดขายปี 2565    การเปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564
-    ปริมาณการขายรวม    849,388 คัน     +11.9%
-    รถยนต์นั่ง      265,069 คัน    +5.3%
-    รถเพื่อการพาณิชย์    584,319 คัน    +15.2%
-    รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)    454,875 คัน    +15.6%
-    รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)    388,298 คัน    +13.7%
       สำหรับยอดขายของโตโยต้าในปี 2565 มียอดขายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 288,809 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 34% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์นั่งของโตโยต้ามีการเติบโตสูงขึ้นจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความสำเร็จด้านยอดขายของรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง  Veloz และ Yaris ATIV  ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีภายหลังจากการแนะนำเข้าสู่ตลาดไปเมื่อปีที่แล้ว รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงและใกล้ชิดกับลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายต่างๆได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2565    ยอดขายปี 2565    การเปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564    ส่วนแบ่งตลาด
-    ปริมาณการขายโตโยต้า    288,809 คัน        +20.5%    34.0%
-    รถยนต์นั่ง     82,738 คัน    +32.6%    31.2%
-    รถเพื่อการพาณิชย์    206,071 คัน    +16.2%    35.3%
-    รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)    175,786 คัน    +16.0%    38.6%
-    รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)    148,101 คัน    +15.1%    38.1%

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2566 
       สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2566 คาดว่าจะยังคงกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆ กับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด จากทิศทางที่ดีในการลดระดับโควิด-19 สู่โรคติดต่อเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้การดำเนินชีวิตผู้คนเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ พร้อมกับการเปิดประเทศส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีส่วนช่วยเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตก็จะค่อยๆ คลี่คลายลงเช่นกัน อันจะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มทยอยกลับคืนสู่สภาวะปกติและคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2566 จะอยู่ที่ 900,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2566    ยอดขายประมาณการปี 2566    เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2565
-    ปริมาณการขายรวม    900,000 คัน      + 6.0%
-    รถยนต์นั่ง    301,500 คัน    + 13.7%
-    รถเพื่อการพาณิชย์    598,500 คัน    + 2.4%
       สำหรับโตโยต้า มีการตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 310,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 7.3% โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 34.4%
ประมาณการยอดขายรถยนต์ โตโยต้าในปี 2566    ยอดขายประมาณการปี 2566    เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2565    ส่วนแบ่งตลาด
-    ปริมาณการขายโตโยต้า    310,000 คัน      + 7.3%    34.4%
-    รถยนต์นั่ง    96,900 คัน         + 17.1%    32.1%
-    รถเพื่อการพาณิชย์    213,100 คัน          + 3.4%    35.6%
-    รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)    183,000คัน         + 4.1%    41.1%
-    รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)    155,000 คัน          + 4.7%    41.9%

ปริมาณการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2565    
       ในด้านการส่งออกรถยนต์ ในปี 2565 โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปจำนวน 378,454 คัน หรือเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2564 โดยยอดรวมการผลิตรถยนต์สำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกในปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 659,262 คัน หรือเพิ่มขึ้น 28% จากปี 2564
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าในปี 2565    ปริมาณในปี 2565    เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564
-    ปริมาณการส่งออก    378,454 คัน         + 30%
-    ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ     659,262 คัน    + 28%

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2566
       สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปี 2566 ได้คาดการณ์ว่าความต้องการของตลาดต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศคู่ค้าที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยโตโยต้าตั้งเป้าปริมาณการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 405,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และได้ตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2566 อยู่ที่ ราว 723,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 9.7% จากปีที่ผ่านมา
เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2566    ปริมาณในปี 2566    เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2565
-    ปริมาณการส่งออก    405,000 คัน         + 7.0%
-    ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ    723,000 คัน    + 9.7%
 

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนธันวาคม 2565
1.)    ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 82,799 คัน ลดลง 9.0%                            
อันดับที่ 1 โตโยต้า    30,197 คัน    เพิ่มขึ้น    11.2%        ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ        18,216 คัน    ลดลง      3.1%        ส่วนแบ่งตลาด 22.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า     8,324 คัน    ลดลง    28.0%         ส่วนแบ่งตลาด 10.1%
    
2.)    ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,698 คัน ลดลง 22.6%                             
อันดับที่ 1 โตโยต้า     8,941 คัน    เพิ่มขึ้น    21.7 %        ส่วนแบ่งตลาด 36.2% 
อันดับที่ 2 ฮอนด้า     5,786 คัน    ลดลง    34.0%        ส่วนแบ่งตลาด 23.4%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     1,824 คัน    ลดลง    26.6%        ส่วนแบ่งตลาด  7.4%
    
3.)    ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 58,101 คัน ลดลง 1.7%                                 
อันดับที่ 1 โตโยต้า    21,256 คัน    เพิ่มขึ้น    7.3%        ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ        18,216 คัน    ลดลง    3.1%        ส่วนแบ่งตลาด 31.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด     5,543 คัน    เพิ่มขึ้น    34.6%        ส่วนแบ่งตลาด  9.5%
4.)    ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) 
ปริมาณการขาย 43,322 คัน เพิ่มขึ้น 1.3%                                 
อันดับที่ 1 โตโยต้า    18,083 คัน    เพิ่มขึ้น    8.1%        ส่วนแบ่งตลาด 41.7%
อันดับที่  2 อีซูซุ    16,638 คัน    ลดลง    1.6%        ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด     5,543 คัน    เพิ่มขึ้น    34.6%        ส่วนแบ่งตลาด 12.8%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 7,831 คัน 
อีซูซุ 2,769 คัน - โตโยต้า 2,758 คัน – ฟอร์ด 1,565 คัน – มิตซูบิชิ 619 คัน – นิสสัน 120 คัน
5.)     ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 35,491 คัน ลดลง 2.8%                                 
อันดับที่ 1 โตโยต้า    15,325 คัน    เพิ่มขึ้น    7.4%        ส่วนแบ่งตลาด 43.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ        13,869 คัน    ลดลง    7.0%        ส่วนแบ่งตลาด 39.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด     3,978 คัน    เพิ่มขึ้น    16.7%        ส่วนแบ่งตลาด 11.2%     

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565
1.    ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 849,388 คัน เพิ่มขึ้น 11.9%                            
อันดับที่ 1 โตโยต้า    288,809 คัน    เพิ่มขึ้น    20.5 %         ส่วนแบ่งตลาด 34.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ         212,491 คัน    เพิ่มขึ้น    15.4%         ส่วนแบ่งตลาด 25.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า        82,842 คัน    ลดลง     6.6%        ส่วนแบ่งตลาด  9.8%
    
2.    ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 265,069 คัน เพิ่มขึ้น 5.3%                                 
อันดับที่ 1 โตโยต้า     82,738 คัน    เพิ่มขึ้น    32.6%        ส่วนแบ่งตลาด 31.2%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า     61,665 คัน    ลดลง    19.8%        ส่วนแบ่งตลาด 23.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ     21,157 คัน    เพิ่มขึ้น    14.6%        ส่วนแบ่งตลาด  8.0%
    
3.    ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 584,319 คัน เพิ่มขึ้น 15.2%                     
อันดับที่ 1 อีซูซุ        212,491 คัน    เพิ่มขึ้น    15.4%        ส่วนแบ่งตลาด 36.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า    206,071 คัน    เพิ่มขึ้น    16.2%        ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด     43,582 คัน    เพิ่มขึ้น    34.8%        ส่วนแบ่งตลาด  7.5%
4.    ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) 
ปริมาณการขาย 454,875 คัน เพิ่มขึ้น 15.6%                     
อันดับที่ 1 อีซูซุ        195,945 คัน    เพิ่มขึ้น    17.2%        ส่วนแบ่งตลาด 43.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า    175,786 คัน    เพิ่มขึ้น    16.0%        ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด     43,582 คัน    เพิ่มขึ้น    34.8%        ส่วนแบ่งตลาด  9.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 66,577 คัน 
โตโยต้า 27,685 คัน - อีซูซุ 20,520 คัน - ฟอร์ด 9,765 คัน – มิตซูบิชิ 7,405 คัน – นิสสัน 1,202 คัน
5.     ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 388,298 คัน เพิ่มขึ้น 13.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ        175,425 คัน    เพิ่มขึ้น    16.4%        ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า    148,101 คัน    เพิ่มขึ้น    15.1%        ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด     33,817 คัน    เพิ่มขึ้น    23.9%        ส่วนแบ่งตลาด  8.7%
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่