มีปัญหาคดีหนี้สิน หนี้บัตร หนี้ส่วนบุคคล หนี้บ้าน หนี้รถ หรือโดนเอาเปรียบจากลูกหนี้ทำไงดี????

สวัสดีทุกท่าน ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็นผู้ประสบภัยเหมือนกับหลายคนในนี้ อย่างของเราคือเอาเงินให้เค้ายืมเมื่อ 3-4 ปีก่อน สุดท้าย คือตามคาด ไม่ได้คืนจ้า เลยตัดสินใจว่าคงเหลือทางเดียวว่าต้องใช้ระบบกฏหมายเข้าช่วยแล้วล่ะสุดท้ายเลยตัดสินใจยื่นฟ้องศาล แต่จะฟ้องให้เซฟตัวเองก็ต้องจ้างทนายใช่มะ ตอนแรกก็เอาเลยหาจากเน็ตนี่ล่ะแล้วก็ลองโทรคุยโทรไปหลายสำนักเลยมีคนคิดแพงบ้างมีคนคิดไม่แพงบ้างมีคนบอกให้เข้ามาคุยกันที่สำนักงานก่อนเดี๋ยวค่อยคุยราคา ทีนี้ยากละเพราะด้วยความที่เราเคยผ่านเรื่องกฏหมายมาบ้างจากคดีฟ้องร้องของบริษัทเลยรู้ว่าจะหาทนายที่เชื่อใจได้ว่าจะไม่ฟันค่าจ้างเรา จะเอาคดีไปแล้วทำให้จนจบมันไม่ง่ายเพราะวงการนี้เงินทองมันช่างหอมหวลยิ่งนัก ยังโชคดีว่าลองปรึกษาเพื่อนไปๆ มาๆ ไปเจอว่าเพื่อนสมัยมัธยมคนนึงทำงานเป็นทนายอยู่ อยู่สำนักงานค่อนข้างใหญ่แถวๆถนนสาทรนี่ล่ะ เลยสุดท้ายก็ได้เริ่มต้นซะที ทั้งแล้วทั้งเล่าตอนยื่นฟ้องก็เป็นช่วงปลายปี 2562 ก่อนจะมาเจอโควิดพอดี๊ๆเลยก็เลยซวยทำให้เสียเวลาไปแทบจะฟรีๆ เลย 2 ปี (ถึงตรงนี้ทุกคนอย่าลืมนะเพราะเงินสดของเราโดนคนอื่นเอาไปหมุนใช้หรือกรณีของเราคือให้ยืมไปและยังไม่ได้คืนก็เสียโอกาสเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นอีกเยอะแยะเลยนะ ไหนจะมีค่าจิปาถะที่ต้องจ่ายอย่างค่าเดินทาง ค่าธรรมเนียมศาล และอื่นๆ อีก) จนสุดท้ายคดีแพ่งอย่างของเราที่ปกติไม่ควรจะใช้เวลาเกินครึ่งปี จากต้นจนจบ กินเวลาเบ็ดเสร็จ 3 ปี ซึ่งต้องบอกว่าเป็นช่วงที่ทรมานใจมากๆ เพราะเหมือนต้องคอยวุ่นวายไปเดินเรื่อง (ระหว่างหาเอกสาร หลักฐาน) เองทุกอย่าง เข้าใจเลยว่าถ้าคนไม่มีประสบการณ์ท้อแน่นอน !!! ดีหน่อยว่าเราเคยทำเรื่องคดีตอนอยู่ต่างประเทศกับสมัยที่กลับเมืองไทยใหม่ๆ มาบ้าง ไหนจะข้อแก้ต่างหลายๆอย่างจากคู่กรณีที่ฟังแล้วบางทีก็ไม่พอใจเท่าไหร่แต่ก็ต้องเก็บอาการเพราะอยู่ในระหว่างชั้นศาลต้องคอยระวังพอสมควรเพราะทุกอย่างที่แสดงออกไปมันใช้เป็นหลักฐานได้หมดเลย

นั่นแหละจนสุดท้ายเมื่อเดือน พ.ย. 2565 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยชำระคดีเต็มมูลหนี้พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่เริ่มฟ้อง ซึ่งสิ่งที่เราชนะจากงานนี้จริงๆไม่ใช่ตัวเงินนะเพราะไม่รู้ว่าคู่กรณีจะหาเงินมาใช้คืนได้รึเปล่าและก็ไม่ใช่ความสะใจด้วยเพราะระหว่างขึ้นศาลเรามั่นใจอยู่แล้วว่าเราต้องชนะคดีเพียงแต่ว่าจะเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่จริงๆสิ่งที่เราได้มาจากงานนี้เลยคือความถูกต้องถูกต้องที่ว่าเราให้เงินเค้ายืมไปสุดท้ายเราก็ต้องได้คืนสิ คนที่เคยเป็นเจ้าหนี้มาพอทวงละไม่ได้คืนน่าจะเข้าใจนะว่ามันแค้นใจแต่ไหนที่ไม่ได้เงินคืนและก็ทำไรไม่ได้ด้วย

อ่ะ พอหลังจากเรื่องนี้จบ(หมายถึงจนมีคำตัดสินนะ) เราก็เลยกลับมานั่งคิดดูนะว่าจริงๆมันน่าจะมีคนที่เจอปัญหาแบบนี้ในสังคมไทยอยู่เยอะพอสมควรและที่เป็นปัญหาคือช่องว่างระหว่างคนทั่วไปกับทนายก็ยังถือว่าเยอะมาก เพราะถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างการชอปออนไลน์กับการเลือกหาทนายมันเข้าถึงยากต่างกันลิบลับเลย ชอปออนไลน์หยิบโทสับขึ้นมา เปิดแอพ พิมพ์ชื่อของที่หา ที่เหลือเลือกเลยว่าจะซื้อจากร้านไหน อยากได้ราคาเท่าไหร่ รีวิวก็มีให้อ่านหมดแล้ว ร้านไหนไม่มีรีวิวก็ไม่ซื้อเพราะมีร้านที่มีก็มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว แต่กลับกันตลาดของทนาย(ในประเทศไทย) จะหาทนายแต่ละทีมันไม่ได้มีสื่อกลางให้เราเลือกได้ หรือจะหาข้อมูลรีวิวก็ไม่มีที่ไหนหาได้ และที่สำคัญ ราคาก็ไม่มีให้เห็นแล้วใครจะกล้าไปเสี่ยงจ้าง!!!!!! ก็อาจจะด้วยค่าจ้างทนายไม่มีราคากลางและไม่มีหน่วยงานคอยกำกับด้วยแหละก็เลยขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่ายไงทั้งที่ความเป็นจริงฝ่ายว่าจ้างก็เหมือนไม่ได้มีตัวเลือกมากอ่ะนะ 

"ด้วยจรรยาบรรณทนาย

ข้อ 17 ประกาศโฆษณา หรือยอมให้ผู้อื่นประกาศโฆษณาใด ๆ ดังต่อไปนี้
- อัตราค่าจ้างว่าความ หรือแจ้งว่าไม่เรียกร้องค่าจ้างว่าความ เว้นแต่การประกาศโฆษณาของทนายความเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายซึ่งดำเนินการโดยสภาทนายความเองหรือโดยสถาบัน สมาคม องค์การ หรือส่วนราชการใดที่เกี่ยวข้อง หรือ ชื่อ คุณวุฒิ ตำแหน่ง ถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงานอันเป็นไปในทางโอ้อวด เป็นเชิงชักชวน ให้ผู้มีอรรถคดีมาหาเพื่อเป็นทนายความว่าต่าง หรือแก้ต่างให้ เว้นแต่การแสดงชื่อ คุณวุฒิ หรืออื่น ๆ ดังกล่าวตามสมควรโดยสุภาพ"

อ่าทีนี้ทุกคนพอเห็นภาพนะเราจะซื้อสินค้า/บริการ แต่กลายเป็นว่า สินค้าก็ไม่ได้เห็น เนื้องานก็ไม่ได้เห็น รีวิวก็ไม่เคยได้แล ที่สำคัญป้ายราคาก็ไม่ติด แล้วจะเลือกซื้อยังไงหว่า งงมะ???

วันนี้เราเลยไม่อยากให้ปัญหาแบบนี้กลายเป็นปัญหาที่ทำให้ลูกหนี้นิสัยเสียลอยนวลเราเลยไปชวนรุ่นพี่ที่เป็นทนายคดีธุรกิจที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท มหาชนใหญ่ๆหลายแห่งในประเทศเข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้และก็ยังให้พี่คนนี้แหละไปชวนเพื่อนๆทนายที่เปิดสำนักทนายอยู่หลายๆที่ในประเทศเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหานี้ และทำให้สังคนเรามันน่าอยู่ขึ้นมาหน่อย คำแนะนำแรกที่พี่ทนายบอกเลยก็คือจริงๆไม่ได้มีแค่เรื่องคดีหนี้สินเท่านั้นอ่ะ แต่พวกคดีหนี้บัตรเครดิต คดีหนี้บ้าน คดีหนี้รถนี่คนเดือดร้อนเยอะกว่าอีกด้วยซ้ำเพราะพวกเจ้าหนี้สถาบันอาศัยว่าเป็นบริษัทใหญ่ มีทีมทนายเก่งๆค่าตัวแพงๆคอยเดินเรื่องศาลให้ เลยทำให้ประชาชนตัวเล็กๆอย่างพวกเราไม่มีปัญญาจะไปสู้ได้แล้วก็มาขูดเลือดขูดเนื้อคิดดอกเบี้ยบัตรโหดๆ หรือเอาทรัพย์เราไปขายทอดตลาดแล้วมาเรียกค่าส่วนต่างแพงๆเพราะรู้ว่าเราสู้ไม่ได้ สุดท้ายนะเลยตัดสินใจคิดระบบการทำงานขึ้นมาโดยอาศัยช่องทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลักนี่ล่ะเพราะมองว่าสะดวกที่สุดไม่ต้องเสียเวลาบริหารจัดการสำนักงานเพราะทั้งเราทั้งพี่ที่ปรึกษาก็ยังมีงานประจำที่ยังต้องดูแลอยู่ ถ้าทำแบบที่ใช้เวลาเยอะๆธุรกิจก็คงไม่เกิด

สุดท้ายเลยก็หวังนะว่าไม่มากก็น้อยเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมมันน่าอยู่ขึ้นโดนการปราบพวกคนหรือพวกบริษัทที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นในจังหวะที่พวกเราเดือดร้อนมาหาผลประโยชน์อันเกินจริง ใครมีปัญหาเกี่ยวกับพวกคดีหนี้คดีเงินกู้คดีหนี้นะลองหาวิธีเจรจากับคู่กรณีก่อน แต่ถ้าสุดท้ายคุยกันไม่จบจริงๆลองส่งมาดูก่อนถ้าส่งยื่นฟ้องได้เดี๋ยวเราแจ้งกลับเพื่อให้พวกคุณตัดสินใจอีกทีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง

Line: @fitzlawyer



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่