สวัสดีทุกคนที่แวะเข้ามาด้วยค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ก็เพราะเกิดความจากท้อใจล้วนๆ เข้าเรื่องเลย คือ เราเป็นนศพ.ปี4 อย่างที่รู้คือเป็นปีแรกของชั้นคลินิก ที่ได้ขึ้นไปปฏิบัติงานเจอผู้ป่วยบนวอร์ดจริงๆ แต่ทุกครั้งที่เราขึ้นวอร์ด major นั่นก็คือ สู ศัลย์ เมด เด็ก แต่ละวันที่ได้เจอ ทั้งดูคนไข้ ราวด์กับอาจารย์ เรียนเลคเชอร์ เขียนรายงาน อยู่เวร รู้อยู่แล้วว่ามันหนัก แต่มันมีคำถามเข้ามาวนเวียนในหัวตลอดว่าเราเหมาะกับคณะนี้จริงๆมั้ย มันเป็นความรู้สึกท้อที่ว่าเหมือนเรายังปรับตัวไม่ได้สักที
ปรับตัวในที่นี้ของเราคือปรับตัวให้มีความคิดให้คิดเหมือนคนที่เรียนหมอเขาทำกันอะค่ะ คือจะบอกยังไงดี คือเวลาเราดูเคสคนไข้ เราก็จะดูว่าเขาเป็นโรคอะไร แล้วก็ไปอ่านทวนเกี่ยวกับโรคนั้น แต่พอถึงเวลาอาจารย์มาราวด์ ถามเคสคนไข้ เราปรับความรู้ที่อ่านเอามาใช้กับคนไข้ไม่ได้ เช่น โดนถามว่าในคนไข้คนนี้ ควรทำอะไรต่อ หรือให้ยานั้นทำไม เราก็จะตอบอาจารย์ไม่ค่อยได้ เพราะคิดไม่ทัน ดึงที่อ่านมาใช้ไม่ได้ แล้วอย่างเคสที่รับใหม่ แล้วพออาจารย์มาราวด์ ก็จะเหมือน bedside teaching ขนาดย่อมๆ พอโดนถามว่า อาการอย่างนี้คิดถึงโรคอะไร ตรวจร่างกายอะไรอีกบ้าง ddx.อะไรบ้าง ส่งlabอะไรบ้าง ก็จะนึกไม่ออก รู้สึกว่ามันกว้าง มันจับจุดไม่ได้ ถ้าจะให้ตอบทันที มันนึกไม่ออก เราต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเข้าใจเคสนึงจริงๆ เทียบกับเพื่อนที่ราวด์ด้วยกัน เรียนก็เรียนพร้อมกัน แต่เขาตอบได้ ก็รู้สึกท้อใจตัวเองว่าทำไมพยายามแล้ว ทำไม่ได้เหมือนเขา 555 พอบ่นระบายให้กับผู้ใหญ่ฟัง เขาก็บอกนะว่าประสบการณ์เรายังน้อย ต้องค่อยๆฝึกไป เราก็พยายามแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าทำไม่ได้สักที เราขึ้นวอร์ดศัลยกรรมเป็นวอร์ดแรก ทีแรกก็เข้าใจว่าต้องค่อยๆเก็บประสบการณ์ ฝึกการคิดไป จนผ่านวอร์ดสูก็แล้ว วอร์ดเด็กก็แล้ว จนตอนนี้ขึ้นวอร์ดสุดท้ายปี4ของเราแล้ว ก็คือวอร์ดอายุรกรรม ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยรู้เคส ดูคนไข้ไม่เป็นอยู่เลย TT พอตอบอาจารย์ไม่ได้ อาจารย์บางท่านก็จะมีคำพูดทำให้รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจบ่อยๆ เช่น มาราวด์ก็ต้องดูคนไข้นะ ทำไมไม่รู้เคส ทำไมไม่ใส่ใจ เรียนรู้จากคนไข้ไม่ใช่แค่มาprogressเฉยๆ แค่progressอย่างนี้คนไม่เรียนหมอก็ทำได้ ก็แอบท้อบ้าง อย่างตอนพี่resident/intern/extern เล่าเคสให้ฟัง ก็concentrateแล้วนะว่าเคสนี้มีแบบนั้นมีแบบนี้ แต่พอโดนอาจารย์ถามก็จะตอบไม่ได้อีก อาจารย์บางท่านก็จะบอกเราว่าเราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนจากพรีคลินิกมาเป็นคลินิก คิดอย่างหมอได้แล้ว เราก็เก็บเอาคำพูดมาปรับแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าเจอคนไข้จริงๆ ตัวเองยังคิดไม่ได้ คิดไม่เป็นอยู่ดี อะไรประมาณนี้แหละค่ะ เลยเป็นความรู้สึกท้อใจที่ว่า
แต่เราก็ไม่มีปัญหาอื่นๆ ตื่นเช้ามาดูคนไข้ เรียนเลคเชอร์ อ่านหนังสือ รายงานก็ส่งตามกำหนดตลอด ไม่มีปัญหากับเคสที่เขียนรายงาน เพราะมีเวลาให้เราค่อยๆทำความเข้าใจเคสจริงๆ สอบลงกองแต่ละวอร์ด ก็คือเน้นอ่านเน้นทวนข้อสอบเก่า แล้วก็จำแล้วก็เก็งไปสอบ ที่รู้สึกท้อก็จะเป็นแต่กับตอนที่ราวด์จริงๆ พอรู้สึกเป็นคนที่ห่วยที่สุดโง่ที่สุดในวงราวด์เลยรู้สึกท้อแท้ว่าหรือจริงๆ เราไม่เหมาะกับการเป็นหมอจริงๆ ตอนเรียนพรีคลินิกไม่เคยมีคำถามแบบนี้เลย เพราะรู้สึกว่าตัวเองเรียนผ่านไปได้ สอบผ่านเกินมีนทุกครั้ง GPAXปี1-3 ก็3.9 สอบCE1 NL1 ก็อยู่ในระดับที่ตัวเองพึงพอใจ แต่พอมาชั้นคลินิก รู้สึกเป็นคนห่วยแตกมากๆ ทั้งๆ ที่การราวด์ การดูคนไข้ คือเป็นหัวใจของการเป็นหมอจริงๆ ทำไมทำไม่ได้สักที มันเลยท้อค่ะ
แล้วก็ไม่เป็นกับตอนอยู่วอร์ด minor เช่น พวกลงชุมชน วิจัย รังสี จิตเวช ด้วยค่ะ ตอนอยู่ minor ก็รู้สึกแฮปปี้ เต็มที่กับการเรียน ไปเรียน ทำงานที่ได้รับมอบหมาย แล้วก็ผ่านไปได้ ที่ท้อก็เป็นแค่กับ major จริงๆ แต่เราจะมาอยากเรียนแต่minorก็ไม่ได้ เพราะกว่าจะจบหมอ แน่นอนว่ามันต้องเจอ major อยู่แล้วและเป็นหมอคือต้องมีเบสิคของ major ทุกคน ขอฮาวทูให้เราจัดการกับปัญหา/ความรู้สึกนี้หน่อยค่ะ หรือบอกอะไรเราสักนิดก็ยังดี TT ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆ นะคะ 🍀
นศพ.ปี 4 รู้สึกยังปรับตัวในชั้นคลินิกไม่ได้สักที
ปรับตัวในที่นี้ของเราคือปรับตัวให้มีความคิดให้คิดเหมือนคนที่เรียนหมอเขาทำกันอะค่ะ คือจะบอกยังไงดี คือเวลาเราดูเคสคนไข้ เราก็จะดูว่าเขาเป็นโรคอะไร แล้วก็ไปอ่านทวนเกี่ยวกับโรคนั้น แต่พอถึงเวลาอาจารย์มาราวด์ ถามเคสคนไข้ เราปรับความรู้ที่อ่านเอามาใช้กับคนไข้ไม่ได้ เช่น โดนถามว่าในคนไข้คนนี้ ควรทำอะไรต่อ หรือให้ยานั้นทำไม เราก็จะตอบอาจารย์ไม่ค่อยได้ เพราะคิดไม่ทัน ดึงที่อ่านมาใช้ไม่ได้ แล้วอย่างเคสที่รับใหม่ แล้วพออาจารย์มาราวด์ ก็จะเหมือน bedside teaching ขนาดย่อมๆ พอโดนถามว่า อาการอย่างนี้คิดถึงโรคอะไร ตรวจร่างกายอะไรอีกบ้าง ddx.อะไรบ้าง ส่งlabอะไรบ้าง ก็จะนึกไม่ออก รู้สึกว่ามันกว้าง มันจับจุดไม่ได้ ถ้าจะให้ตอบทันที มันนึกไม่ออก เราต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเข้าใจเคสนึงจริงๆ เทียบกับเพื่อนที่ราวด์ด้วยกัน เรียนก็เรียนพร้อมกัน แต่เขาตอบได้ ก็รู้สึกท้อใจตัวเองว่าทำไมพยายามแล้ว ทำไม่ได้เหมือนเขา 555 พอบ่นระบายให้กับผู้ใหญ่ฟัง เขาก็บอกนะว่าประสบการณ์เรายังน้อย ต้องค่อยๆฝึกไป เราก็พยายามแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าทำไม่ได้สักที เราขึ้นวอร์ดศัลยกรรมเป็นวอร์ดแรก ทีแรกก็เข้าใจว่าต้องค่อยๆเก็บประสบการณ์ ฝึกการคิดไป จนผ่านวอร์ดสูก็แล้ว วอร์ดเด็กก็แล้ว จนตอนนี้ขึ้นวอร์ดสุดท้ายปี4ของเราแล้ว ก็คือวอร์ดอายุรกรรม ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยรู้เคส ดูคนไข้ไม่เป็นอยู่เลย TT พอตอบอาจารย์ไม่ได้ อาจารย์บางท่านก็จะมีคำพูดทำให้รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจบ่อยๆ เช่น มาราวด์ก็ต้องดูคนไข้นะ ทำไมไม่รู้เคส ทำไมไม่ใส่ใจ เรียนรู้จากคนไข้ไม่ใช่แค่มาprogressเฉยๆ แค่progressอย่างนี้คนไม่เรียนหมอก็ทำได้ ก็แอบท้อบ้าง อย่างตอนพี่resident/intern/extern เล่าเคสให้ฟัง ก็concentrateแล้วนะว่าเคสนี้มีแบบนั้นมีแบบนี้ แต่พอโดนอาจารย์ถามก็จะตอบไม่ได้อีก อาจารย์บางท่านก็จะบอกเราว่าเราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนจากพรีคลินิกมาเป็นคลินิก คิดอย่างหมอได้แล้ว เราก็เก็บเอาคำพูดมาปรับแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าเจอคนไข้จริงๆ ตัวเองยังคิดไม่ได้ คิดไม่เป็นอยู่ดี อะไรประมาณนี้แหละค่ะ เลยเป็นความรู้สึกท้อใจที่ว่า
แต่เราก็ไม่มีปัญหาอื่นๆ ตื่นเช้ามาดูคนไข้ เรียนเลคเชอร์ อ่านหนังสือ รายงานก็ส่งตามกำหนดตลอด ไม่มีปัญหากับเคสที่เขียนรายงาน เพราะมีเวลาให้เราค่อยๆทำความเข้าใจเคสจริงๆ สอบลงกองแต่ละวอร์ด ก็คือเน้นอ่านเน้นทวนข้อสอบเก่า แล้วก็จำแล้วก็เก็งไปสอบ ที่รู้สึกท้อก็จะเป็นแต่กับตอนที่ราวด์จริงๆ พอรู้สึกเป็นคนที่ห่วยที่สุดโง่ที่สุดในวงราวด์เลยรู้สึกท้อแท้ว่าหรือจริงๆ เราไม่เหมาะกับการเป็นหมอจริงๆ ตอนเรียนพรีคลินิกไม่เคยมีคำถามแบบนี้เลย เพราะรู้สึกว่าตัวเองเรียนผ่านไปได้ สอบผ่านเกินมีนทุกครั้ง GPAXปี1-3 ก็3.9 สอบCE1 NL1 ก็อยู่ในระดับที่ตัวเองพึงพอใจ แต่พอมาชั้นคลินิก รู้สึกเป็นคนห่วยแตกมากๆ ทั้งๆ ที่การราวด์ การดูคนไข้ คือเป็นหัวใจของการเป็นหมอจริงๆ ทำไมทำไม่ได้สักที มันเลยท้อค่ะ
แล้วก็ไม่เป็นกับตอนอยู่วอร์ด minor เช่น พวกลงชุมชน วิจัย รังสี จิตเวช ด้วยค่ะ ตอนอยู่ minor ก็รู้สึกแฮปปี้ เต็มที่กับการเรียน ไปเรียน ทำงานที่ได้รับมอบหมาย แล้วก็ผ่านไปได้ ที่ท้อก็เป็นแค่กับ major จริงๆ แต่เราจะมาอยากเรียนแต่minorก็ไม่ได้ เพราะกว่าจะจบหมอ แน่นอนว่ามันต้องเจอ major อยู่แล้วและเป็นหมอคือต้องมีเบสิคของ major ทุกคน ขอฮาวทูให้เราจัดการกับปัญหา/ความรู้สึกนี้หน่อยค่ะ หรือบอกอะไรเราสักนิดก็ยังดี TT ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆ นะคะ 🍀