เราเชื่อว่าหลายๆคน ก็คงเคยเจอปัญหาแบบนี้

ตอนนี้เราอยู่ปี 3 ปีหน้าก็จะจบแล้วค่ะ ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเราจะผ่านมันมาได้ แต่ที่ผ่านมาก็มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไปแต่ทุกข์จะมีมากกว่าสุข มันเหมือนมีอะไรค้างอยู่ในใจตลอด 3 ปีที่ผ่านมาครั้งแรกที่เราได้ก้าวมาเรียนคณะนี้ ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรเลยค่ะ ทำเพื่อครอบครัวสงสารทุกคนในครอบครัวเค้ามีความหวังกับเรามากทุกครั้งที่เราสอบหมอไม่ติดหรือทุกครั้งที่เราหน้าเศร้าตอนประกาศผลสอบออก คนเบื้องหลังเราเค้าเครียดยิ่งกว่า เราเลยตัดสินใจลงคณะนึงไว้ก็ทางสายสุขภาพนี่แหละค่ะ เราคิดว่าก็ได้ทำงานในรพ.เหมือนกัน เป็นส่วนนึงในการช่วยคนไข้ เหมือนกัน วันประกาศผลเราก็ติดค่ะ ที่บ้านเราอยากให้เราเรียนมากเลยค่ะ และดูเหมือนว่าเค้าจะดีใจมากเลยแหละ เอาตามตรงนะตอนนั้นเรามีด้านลบกับทางนี้เหมือนกัน เพราะจากกระแสเพื่อนๆ และสังคมทำให้เรารู้สึกแย่ เราไม่ได้ชอบ แต่แลัวเราก็ต้องเดินเข้ามาในจุดนี้ ทรมานมากเลยค่ะ เสียนำ้ตามาไม่รู้จักกี่ครั้ง พยายามที่จะซิ่วแบบเงียบๆ ไม่บอกครอบครัว  แต่กิจกรรมในช่วงปีหนึ่งก็เยอะมากแถมเรียนเต็มวันบอกตามตรงเลยค่ะ มันเป็นไปได้น้อยมาก แล้วยังต้องสอบด้วยไหนจะอ่านหนังสือสอบของคณะและอ่านสอบที่เราจะซิ่วอีก ขนาดตอนม.ปลายยังสอบไม่ติดเลยทั้งเรียนพิเศษ ทั้งอ่านสอบอย่างหนัก ยังไม่ติดเลย   ตอนช่วงปี 1 เราไม่เข้าเรียนเยอะมากเพื่อมาอ่านหนังสือสอบ ทำให้เราเกรดตกชนิดที่เราเสียใจมากเลยค่ะ เทอมแรกเราทำเกรดไม่ถึง 2.5 เราเสียใจมากเลยค่ะถึงกับนั่งร้องไห้กับการกระทำของตัวเองตอนนั้นเหมือนเป็นช่วงที่ความทุกข์มาเยือนแบบที่เราเครียดแบบสุดๆแต่เราก็ไม่เคยบอกที่บ้านเลย เรื่องนี้จึงทำให้เรากลับไปสนใจเรียนของคณะมากขึ้น แต่พอรวมเกรดสามเทอมแล้วเราก็เกิน 2.5 แบบหวุดหวิดอยู่เหมือนกัน  จับปลาสองมือไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดของเราเลยค่ะ แล้วเราก็สอบหมอไม่ติด แต่ตอนนั้นเราไม่ได้หมดหวังนะแต่มีความคิดว่าจะอดทนสู้กับสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นจากนี้อีกสามปี ต่อมาเราก็เสียใจอยู่อย่างนั้นค่ะพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คิดซะว่าเราตั้งใจเรียนให้จบจะได้มีงานไม่ทำ ไม่เคว้งคว้าง พอจบแล้วจะสอบอีกครั้งก็ไม่เสียหาย ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าเราลาออกแล้วไม่ติดอีกไม่ใช่แค่เราที่เสียใจแต่ทั้งครอบครัวเราก็คงจะเสียใจมากกว่าเราจึงอดทนสู้  พอเริ่มขึ้นปีสองถือว่าเราก้าวมาสู่วิชาชีพนี้แล้วเราก็เริ่มรักวิชาชีพนี้นะ ทุกครั้งที่เห็นข่าวไม่ดีเกี่ยวกับวิชาชีพนี้ มีกระแสวิพากวิจารณ์มากมาย มันบั่นทอนจิตใจเรามากเลยแหละ มันทำให้ เราท้อ เหนื่อย
        จากนั้นเราเริ่มได้ฝึกงานที่วอร์ด เรารู้สึกดีนะที่เราได้ดูแลคนไข้มากขึ้นมันทำให้เรามีกำลังใจเดินต่อไป เรามีความสุขนะที่ได้อยู่กับคนไข้ เค้าดีกับเรามากๆ เวลาเราโดนอาจารย์ดุคนไข้จะเข้าข้างเราพยายามช่วยเราทั้งๆที่บางครั้งเราก็ทำผิดจริง เวลาเราจะย้ายวอร์ดคนไข้ก็จะบอกไม่อยากให้เราย้ายเลย อยากให้อยู่ดูแลอยากมีเพื่อนคุย เราชอบขึ้นวอร์ดมากๆเลยแหละ มีครั้งนึงนะ มีคนไข้คนนึงพูดกับเราไว้ว่า  "ยายภูมิใจแทนพ่อกับแม่ของหนูมากเลยนะ มีลูกสาวน่ารักจบมาก็เป็นที่พึ่งให้พ่อกับแม่ได้ยิ้ม" ตอนนั้นเราดีใจมากเลยแหละ แต่การที่เราเรียนหนัก ไม่ได้นอน หรือนอนดึก  ความคิดเราก็จะลอยขึ้นมาตลอดว่าถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เรารักเราชอบ เราคงทำได้ดีกว่านี้ เราคงมีกำลังใจ แรงใจในการทำมากกว่านี้ แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลาซะหน่อยแค่บางครั้ง แต่เราก็อยู่กับมันได้ แล้วเราก็ชอบมากกว่าเมื่อก่อน  ตอนนี้ก็เรียนหนักขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ แต่ตอนนี้มันผ่านช่วงเวลาต่างๆมามากมาย ตอนนี้มีความสุขกว่าเมื่อก่อนเยอะ เพราะกำลังใจจากรอบด้านนี่แหละค่ะ ทั้งครอบครัว เพื่อน พี่ๆ เพื่อนร่วมงาน ยิ้ม เมื่อเราเรียนจบเราก็จะทำตามความฝันเราอีกครั้ง ต่อให้เราสอบไม่ติดอย่างน้อยเราก็ยังมีอาชีพเราอยู่ เราแค่อยากเล่าเรื่องราวที่เราเรียนในสิ่งที่เราไม่ชอบ แต่จะทำอย่างไรให้อยู่กับมันได้ ทุกครั้งที่เราท้อไม่ใช่แค่เรานะคะ ยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ประสบปัญหาอย่างเราอีกมากมาย เราอาจจะไม่ได้เก่งเหมือนคนอื่น แต่เราต้องเชื่อในตัวเองว่าเราทำได้ เป็นกำลังใจให้น้องๆที่สอบไม่ติด ไม่เป็นไรนะคะ ไม่มีคำว่าสายหรอกนะ อย่าคิดว่าเราหมดโอกาส เพียงเพราะว่าเราไม่ให้โอกาสตัวเอง หลิ่วตายิ้มยิ้ม

# ไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายหรือให้เกิดความคิดแง่ลบ
แค่อยากให้กำลังใจกับคนที่ประสบปัญหาแบบนี้อยู่ค่ะ^^
ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามาอ่านนานามาลัย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่