สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตรรกะคุณค่อนข้างเพี้ยนค่ะ
1.การต่อคิวเข้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าแถวยาวมาก
ด้วยสรีระของผู้หญิง ไม่สามารถยืนฉี่ได้ ไม่สามารถแค่รูดซิป ดึงออกมาฉี่ได้ การฉี่ของผู้หญิงแต่ละครั้ง จึงใช้เวลานานกว่าผู้ชาย และผู้หญิงมีประจำเดือน ซึ่งผู้หญิงในวัย 15 - 45 โดยประมาณ จะมีประจำเดือนราว 5 วันต่อเดือน ตีคร่าวๆคือ ในผู้หญิง 6 คน จะมี 1 คนที่กำลังมีประจำเดือน ซึ่งต้องใช้เวลาในห้องน้ำนานกว่าปกติ ดังนั้น ห้องน้ำหญิงจะคิวยาวกว่าห้องน้ำชายเสมอ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้ออ้าง
ถ้าสถานที่สาธารณะ สร้างห้องน้ำ ควรมีห้องน้ำหญิงมากกว่าห้องน้ำชายค่ะ
2.การเข้าห้องน้ำผิด
เพราะมันไม่เคยมีกรณีที่ผู้หญิงไปข่มขืนผู้ชายในห้องน้ำไง แต่ผู้ชายไปแอบถ่าย หรือไปข่มขืนผู้หญิงมันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
3.การไม่อยากนอนห้องเดียวกับคนต่างเพศ
ส่วนตัวถ้าต้องแชร์ห้องกับทอม ก็ไม่รู้สึกอะไร
"ผู้หญิงไม่อยากนอนห้องเดียวกับทอม สังคมมองว่าดีแล้ว" อันนี้เราไม่เคยได้ยินนะ ไม่เคยเจอด้วยที่ผู้หญิงไม่อยากนอนห้องเดียวกับทอม
"ถ้าผู้ชายไม่อยากนอนห้องเดียวกับเกย์ สังคมด่าผู้ชายต่าง ๆ นานา เหยียดเพศนี่หว่า" อันนี้ก็ไม่เคยเจอ ถ้าคุณเจอ มันเป็นปัญหาของคนที่ว่าคุณค่ะ ถ้าเราเป็นผู้ชาย เราก็คงไม่สะดวกใจที่จะนอนห้องเดียวกับเกย์เช่นกัน
4.การทำร้ายร่างกายกลับ
เพราะแรงของผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันมาก เคยมีบ่อยๆที่ผู้ชายต่อยคนอื่น หมัดเดียว คนโดนต่อยตาย ส่วนผู้หญิง ส่วนมากก็ตบ ไม่ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยซ้ำ
5.เวลาเจอด่านสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
จากข้อมูลที่เคยรู้มา ผู้ชายติดยามากกว่าผู้หญิงจริงค่ะ เป็นข้อเท็จจริง
เหมือนกับเรื่องที่หน่วยงานที่รับบริจาคเลือด ไม่รับเลือดจากเกย์ หรือกระเทย เพราะมีข้อมูลว่าคนกลุ่มนี้มีอัตราการติดเชื้อเอดส์สูงกว่าคนทั่วไปเยอะมาก
6.เวลาแวะปั๊มน้ำมันตามต่างจังหวัด
เหมือนข้อ 2 ค่ะ เพราะมันเคยมีกรณีที่ผู้หญิงโดนข่มขืนในห้องน้ำ ที่จอดสำหรับผู้หญิงจึงเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยกว่าตรงอื่น
และช่องจอดตรงนั้น ส่วนมากก็รู้กันว่าไว้สำหรับผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว ที่จอดที่มีให้ มันก็แค่ช่องเดียว ถ้ามีคนจอดอยู่ ผู้หญิงก็ต้องไปหาจอดที่อื่นค่ะ คุณเขียนซะเหมือนกับว่าผู้หญิงทุกคนจะได้ที่จอดพิเศษงั้นแหละ คนส่วนมาก ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ต้องหาที่จอดเองทั้งนั้นค่ะ
7.การถูกเนื้อต้องตัวเพศตรงข้าม
อันนี้เราไม่เคยเจอ ผู้หญิงที่ไปแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายก่อนนะ โดยปกติ ถ้าไม่สนิทคนทั่วไปก็ไม่แตะกันค่ะ
ไม่ว่าจะเพศไหน ถ้าไม่ได้สนิทกัน แล้วมาแตะเนื้อต้องตัวมากเกินไป เรามองว่าเป็น sexual harassment ทั้งหมด
"เพศที่สามมาถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายแล้วผู้ชายไม่ชอบ จะโดนด่าว่าเหยียดเพศ" อันนี้เป็นปัญหาของเพศที่ 3 คนนั้นค่ะ
คุณจะเอามาปนกับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ผู้หญิงเรียกร้องไม่ได้ มันคนละเรื่อง
เรื่องเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเห็นด้วย โลจิกความคิดของคุณมันบิดเบี้ยวนะคะ
อันนี้เป็นเรื่องของกองทัพ ที่ต้องการเอาคนไปใช้งานค่ะ ต้องไปโวยกับฝ่ายทหารนะคะ
ไม่ใช่ผู้หญิงเรียกร้อง หรือเสนอ/สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร
หลายๆเรื่องในสังคม มีขึ้นตามเหตุผล เราว่าเรื่องพวกนี้พื้นฐานมาก น่าแปลกที่คุณหมือนไม่เข้าใจ ที่บ้านคุณไม่มีผู้หญิงเหรอคะ
1.การต่อคิวเข้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าแถวยาวมาก
ด้วยสรีระของผู้หญิง ไม่สามารถยืนฉี่ได้ ไม่สามารถแค่รูดซิป ดึงออกมาฉี่ได้ การฉี่ของผู้หญิงแต่ละครั้ง จึงใช้เวลานานกว่าผู้ชาย และผู้หญิงมีประจำเดือน ซึ่งผู้หญิงในวัย 15 - 45 โดยประมาณ จะมีประจำเดือนราว 5 วันต่อเดือน ตีคร่าวๆคือ ในผู้หญิง 6 คน จะมี 1 คนที่กำลังมีประจำเดือน ซึ่งต้องใช้เวลาในห้องน้ำนานกว่าปกติ ดังนั้น ห้องน้ำหญิงจะคิวยาวกว่าห้องน้ำชายเสมอ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้ออ้าง
ถ้าสถานที่สาธารณะ สร้างห้องน้ำ ควรมีห้องน้ำหญิงมากกว่าห้องน้ำชายค่ะ
2.การเข้าห้องน้ำผิด
เพราะมันไม่เคยมีกรณีที่ผู้หญิงไปข่มขืนผู้ชายในห้องน้ำไง แต่ผู้ชายไปแอบถ่าย หรือไปข่มขืนผู้หญิงมันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
3.การไม่อยากนอนห้องเดียวกับคนต่างเพศ
ส่วนตัวถ้าต้องแชร์ห้องกับทอม ก็ไม่รู้สึกอะไร
"ผู้หญิงไม่อยากนอนห้องเดียวกับทอม สังคมมองว่าดีแล้ว" อันนี้เราไม่เคยได้ยินนะ ไม่เคยเจอด้วยที่ผู้หญิงไม่อยากนอนห้องเดียวกับทอม
"ถ้าผู้ชายไม่อยากนอนห้องเดียวกับเกย์ สังคมด่าผู้ชายต่าง ๆ นานา เหยียดเพศนี่หว่า" อันนี้ก็ไม่เคยเจอ ถ้าคุณเจอ มันเป็นปัญหาของคนที่ว่าคุณค่ะ ถ้าเราเป็นผู้ชาย เราก็คงไม่สะดวกใจที่จะนอนห้องเดียวกับเกย์เช่นกัน
4.การทำร้ายร่างกายกลับ
เพราะแรงของผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันมาก เคยมีบ่อยๆที่ผู้ชายต่อยคนอื่น หมัดเดียว คนโดนต่อยตาย ส่วนผู้หญิง ส่วนมากก็ตบ ไม่ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยซ้ำ
5.เวลาเจอด่านสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
จากข้อมูลที่เคยรู้มา ผู้ชายติดยามากกว่าผู้หญิงจริงค่ะ เป็นข้อเท็จจริง
เหมือนกับเรื่องที่หน่วยงานที่รับบริจาคเลือด ไม่รับเลือดจากเกย์ หรือกระเทย เพราะมีข้อมูลว่าคนกลุ่มนี้มีอัตราการติดเชื้อเอดส์สูงกว่าคนทั่วไปเยอะมาก
6.เวลาแวะปั๊มน้ำมันตามต่างจังหวัด
เหมือนข้อ 2 ค่ะ เพราะมันเคยมีกรณีที่ผู้หญิงโดนข่มขืนในห้องน้ำ ที่จอดสำหรับผู้หญิงจึงเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยกว่าตรงอื่น
และช่องจอดตรงนั้น ส่วนมากก็รู้กันว่าไว้สำหรับผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว ที่จอดที่มีให้ มันก็แค่ช่องเดียว ถ้ามีคนจอดอยู่ ผู้หญิงก็ต้องไปหาจอดที่อื่นค่ะ คุณเขียนซะเหมือนกับว่าผู้หญิงทุกคนจะได้ที่จอดพิเศษงั้นแหละ คนส่วนมาก ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ต้องหาที่จอดเองทั้งนั้นค่ะ
7.การถูกเนื้อต้องตัวเพศตรงข้าม
อันนี้เราไม่เคยเจอ ผู้หญิงที่ไปแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายก่อนนะ โดยปกติ ถ้าไม่สนิทคนทั่วไปก็ไม่แตะกันค่ะ
ไม่ว่าจะเพศไหน ถ้าไม่ได้สนิทกัน แล้วมาแตะเนื้อต้องตัวมากเกินไป เรามองว่าเป็น sexual harassment ทั้งหมด
"เพศที่สามมาถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายแล้วผู้ชายไม่ชอบ จะโดนด่าว่าเหยียดเพศ" อันนี้เป็นปัญหาของเพศที่ 3 คนนั้นค่ะ
คุณจะเอามาปนกับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ผู้หญิงเรียกร้องไม่ได้ มันคนละเรื่อง
เรื่องเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเห็นด้วย โลจิกความคิดของคุณมันบิดเบี้ยวนะคะ
อันนี้เป็นเรื่องของกองทัพ ที่ต้องการเอาคนไปใช้งานค่ะ ต้องไปโวยกับฝ่ายทหารนะคะ
ไม่ใช่ผู้หญิงเรียกร้อง หรือเสนอ/สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร
หลายๆเรื่องในสังคม มีขึ้นตามเหตุผล เราว่าเรื่องพวกนี้พื้นฐานมาก น่าแปลกที่คุณหมือนไม่เข้าใจ ที่บ้านคุณไม่มีผู้หญิงเหรอคะ
แสดงความคิดเห็น
เวลาพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ทำไมไม่มีใครมองในมุมที่ว่าผู้ชายก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบเหมือนกัน
เวลาพูดว่า “เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ” คนจะเข้าใจว่าหมายถึงการปฏิบัติกับผู้หญิงให้เหมือนผู้ชาย เพราะผู้ชายได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่า
ทำไม่ไม่มีการมองอีกมุมหนึ่งบ้างครับ ว่าสังคมไทยในปัจจุบันก็มีหลายเรื่องที่ผู้ชายก็เสียเปรียบเหมือนกัน
1.การต่อคิวเข้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าแถวยาวมาก
- ผู้ชายไม่สามารถไปต่อคิวเข้าห้องน้ำผู้หญิงได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ
- แต่ผู้หญิงชอบมาต่อคิวเข้าห้องน้ำผู้ชาย โดยใช้ข้ออ้างว่าห้องน้ำผู้หญิงแถวยาว โดยใช้ข้ออ้างว่าผู้ชายทำธุระเสร็จเร็วเลยขอมาเข้าหน่อย (ผมเจอบ่อยมากที่ต่างจังหวัด ช่วงที่รถทัวร์หรือรถไฟใกล้ออก บ่อยสุดคือตอนใกล้เวลาขึ้นกิ่วแม่ปาน ห้องน้ำมีจำนวนน้อยและผู้หญิงหลายคนชอบมาต่อแถวเข้าห้องน้ำผู้ชายทำให้ผู้ชายก็ต้องรอนานไปด้วย ผู้หญิงบางคนถึงขั้นมาเข้าแล้วให้แฟนยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำแล้วคอยบอกผู้ชายว่าผู้หญิงเข้าอยู่รอแปปนึงนะครับ ทั้ง ๆ ที่มันคือห้องน้ำผู้ชาย) แบบนี้ผู้หญิงเอาเปรียบผู้ชายไหม ?
2.การเข้าห้องน้ำผิด
- ถ้าผู้หญิงเผลอไปเข้าห้องน้ำชาย ไม่มีใครว่าอะไร เข้าผิดก็แค่เดินออกมาแค่นั้น
- ถ้าผู้ชายเผลอไปเข้าห้องน้ำหญิง จะถูกสงสัยไว้ก่อนว่าตั้งใจหรือเปล่า โรคจิตหรือเปล่า เผลอ ๆ จะโดน รปภ. ล็อคตัวเลย
ผู้หญิงถูกไว้ก่อน แต่ผู้ชายผิดไว้ก่อน
3.การไม่อยากนอนห้องเดียวกับคนต่างเพศ
- ถ้าผู้หญิงไม่อยากนอนห้องเดียวกับทอม สังคมมองว่าดีแล้ว เป็นผู้หญิงต้องระวังตัวไว้ก่อน เดี๋ยวโดนล่วงละเมิด
- ถ้าผู้ชายไม่อยากนอนห้องเดียวกับเกย์ สังคมด่าผู้ชายต่าง ๆ นานา เหยียดเพศนี่หว่า คิดว่าตัวเองหล่อนักเหรอ อยากเห็นหน้าจริง ๆ เกย์เขาก็เลือกนะ เป็นต้น
4.การทำร้ายร่างกายกลับ
- ถ้าผู้ชายทำร้ายร่างกายผู้หญิงก่อนแล้วผู้หญิงโต้กลับ ไม่มีใครด่าผู้หญิงแน่นอน 100%
- แต่ถ้าผู้หญิงทำร้ายร่างกายผู้ชายก่อนแล้วผู้ชายโต้กลับ จะมีข้ออ้างมากมายเพื่อหาความชอบธรรมและเข้าข้างผู้หญิง ทำร้ายเพศแม่ได้ไง ลูกผู้ชายตัวจริงไม่ทำร้ายผู้หญิง เป็นต้น
5.เวลาเจอด่านสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
- ผู้หญิงจะไม่โดนเรียกตรวจฉี่ เนื่องจากไม่ค่อยมีตำรวจหญิงอยู่ที่ด่านและสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ผู้หญิงได้ผลประโยชน์โดยการไม่ต้องตรวจฉี่
- มีแต่ผู้ชายแท้ที่ยืนฉี่ได้เท่านั้นที่จะโดนสุ่มตรวจ เพราะผู้ชายถูกมองว่าน่าจะกล้ากระทำความผิดกล้าเสพยามากกว่าผู้หญิง และยืนฉี่ได้สะดวกไม่ต้องจัดพื้นที่อะไรให้ยุ่งยาก เลยทำให้ต้องยืนฉี่ริมทาง ริมพุ่มไม้ ไม่มีห้องน้ำที่มิดชิด โดยไม่ถามความสะดวกใจของผู้ชาย
แบบนี้ผู้ชายโดนเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศไหม ?
6.เวลาแวะปั๊มน้ำมันตามต่างจังหวัด
- ผู้ชายต้องหาที่จอดเอาเอง
- ผู้หญิงมีที่จอดรถพิเศษ (Lady Parking) ทั้ง ๆ ที่เป็นการจอดรถตามเซเว่นในปั๊มน้ำมันแค่แปปเดียว สถานที่ก็ไม่ได้เปลี่ยว กล้องวงจรปิดตามปั๊มก็มี ไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรที่ผู้หญิงต้องมีช่องจอดรถพิเศษ
แบบนี้จะบอกว่าชายหญิงเท่าเทียมได้ยังไง ?
7.การถูกเนื้อต้องตัวเพศตรงข้าม
- ถ้าผู้หญิงมาถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายแล้วผู้ชายไม่ชอบ จะโดนด่าว่าเล่นตัว
- ถ้าเพศที่สามมาถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายแล้วผู้ชายไม่ชอบ จะโดนด่าว่าเหยียดเพศ
- ถ้าผู้ชายมาถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงแล้วผู้หญิงไม่ชอบ จะกลายเป็น sexual harassment ทันที
นอกจากนี้ผมอยากตั้งคำถามกับผู้หญิงที่เรียกร้องความเท่าเทียม ว่าถ้าวันนี้มีการออกกฎหมายให้ผู้หญิงที่อายุครบ 20 ทุกคนไปฝึกเป็นพยาบาล 2 ปี ควบคู่ไปกับผู้ชายที่ต้องเกณฑ์ทหาร 2 ปีเหมือนกัน เผื่อเวลาเกิดสงครามแล้วผู้ชายบาดเจ็บมาผู้หญิงจะได้ช่วยกันได้ คุณจะเห็นด้วยกับกฎหมายข้อนี้ไหมครับ เท่าเทียมไงครับ เป็นพยาบาลไม่ต้องใช้แรงออกแรงเหมือนผู้ชายด้วย เสียเวลาชีวิต 2 ปีเท่ากัน แถมมีประโยชน์กว่าผู้ชายด้วยเพราะตอนไม่มีสงครามผู้ชายก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้จับอาวุธไปสู้กับใคร แต่ผู้หญิงยังสามารถเอาวิชาการปฐมพยาบาลไปช่วยเพื่อนมนุษย์ได้อีกเยอะเลย ผู้หญิงที่เรียกร้องความเท่าเทียมจะเห็นด้วยกับกฎหมายข้อนี้ไหม ?