ปัจจุบันเรามักพูดถึงเรื่องความเท่าเทียมกันอยู่เสมอในด้านของชายเท่ากับหญิง
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อและศรัทธาในความเท่าเทียมนี้ว่าชายเท่ากับหญิง
แต่สิ่งที่สร้างความครางแครงใจให้กับผมมาโดยตลอดในเรื่องชายเท่ากับหญิงคือ คำว่า
สุภาพบุรุษ
คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า
ไม่แมนเลย
ฉันเป็นผู้หญิงนะ
ฉันอ่อนแอไม่ใช่ผู้ชายนิ
คำเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างชายกับหญิง ที่ผู้หญิงแสดงออกมาเองถึงความไม่เท่าเทียม
สิ่งที่ผมยกประเด็นนี้มาพูดคุยมีกรณีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม
เช่น ตัวอย่าง.1 กรณีผู้หญิงยกของ ประเด็นนี้ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เวลาผู้หญิงเดินยกของมาเราก็อยากช่วยอยู่แต่บางทีไม่ทันได้ช่ายมีตัวเสริมโผ่มาแล้ว มันไม่เป้นสุภาพบุรุษเลย ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอนะ นี่ไม่แมนเลย เป็นต้น ไม่ไช่กลัวได้ยกหรอกนะ ยกได้ แต่สิ่งที่ผู้หญิงพูดออกมาเป็นการแสดงออกถึงความแตกต่างระหว่างชายกับหญิง
ตัวอย่าง.2 ผมไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนมีคนเอาไอศคริมมาแจกหลายสีหลายรสชาดครบจำนวนคนพอดีผมเลือกไอศครีมรสวนิลา แต่มันมีอันเดียวแกะจนจะกินอยู่แล้วเพื่อนผู้หญิงบอกจะขอแลกเรายังไม่ทันว่าอะไรเลยก็หาว่าเราไม่เป็นสุภาพบุษุเสียแล้ว ว่าเราว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า คำพูดเหล่านี้มันแสดงถึงความแตกต่างของความเท่าเทียบกันทางเพศ
สิ่งเหล่านี้เป็นการยกตัวอย่างแค่บางกรณี ซึ่งถ้าคุณลองนึกดูจะพบว่าผู้หญิงได้แสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างชายกับหญิง
สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นความไม่เท่าเทียมกันที่ชัดเจน ถ้าไม่ได้อะไรก้จะพูดถึงสิทธิ ความเท่าเทียม
ถ้าได้แล้วแต่ยังไม่พอใจก็จะพูดถึงเรื่องความเสียสละ ความเป็นผู้หญิง เรียกร้องความเป็นสุภาพบุรุษ โดยกดตนเองให้ต่ำลงกว่าผู้ชาย
สรุป คำว่าคุณต้องสุภาพบุรุษ ฉันเป็นผู้หญิง เป็นเพศที่อ่อนแอ เธอเป็นผู้ชายหรือเปล่า คือ การแสดงออกว่าผู้หญิงไม่ได้เท่าเทียงกับผู้ชาย
ดันผู้ชายให้อยู่สุงกว่าหญิง
ส่วนคำว่า สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาพ ระหว่างชายกับหญิงจะถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ในบางโอกาส เพื่อให้ได้มาซึ่งความสะดวดสบายของผู้หญิง
ผมไม่ได้ต่อต่ายผู้หญิงผมก็เป็นผู้ชายนี่แหละครับ แต่บางครั้งผมมองว่ากลุ่ม สตรีนิยม (Feminism) เรียกร้องความเท่าเทียมมากเกินไปทั้งๆที่ผู้หญิงยังแสดงออกถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างชายกับหญิงอยู่ ผมยอมรับว่าเรื่องการให้เกียติผู้หญิงเป็นเรื่องที่ดี และผู้ชายก็ควรทำ แต่ผู้หญิงก็ควรใช้ความเท่าเทียมของตนเองโดยไม่กดตัวเองให้ต่ำกว่าผู้ชาย(ขอโทษที่ใช้คำแรงนะครับ)
บทความนี้ของเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ
ความเท่าเทียมระหว่างชายกับหญิงมีอยู่จริงหรือ ผู้หญิงนั้นแหละที่กดตัวเอง
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อและศรัทธาในความเท่าเทียมนี้ว่าชายเท่ากับหญิง
แต่สิ่งที่สร้างความครางแครงใจให้กับผมมาโดยตลอดในเรื่องชายเท่ากับหญิงคือ คำว่า
สุภาพบุรุษ
คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า
ไม่แมนเลย
ฉันเป็นผู้หญิงนะ
ฉันอ่อนแอไม่ใช่ผู้ชายนิ
คำเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างชายกับหญิง ที่ผู้หญิงแสดงออกมาเองถึงความไม่เท่าเทียม
สิ่งที่ผมยกประเด็นนี้มาพูดคุยมีกรณีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม
เช่น ตัวอย่าง.1 กรณีผู้หญิงยกของ ประเด็นนี้ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เวลาผู้หญิงเดินยกของมาเราก็อยากช่วยอยู่แต่บางทีไม่ทันได้ช่ายมีตัวเสริมโผ่มาแล้ว มันไม่เป้นสุภาพบุรุษเลย ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอนะ นี่ไม่แมนเลย เป็นต้น ไม่ไช่กลัวได้ยกหรอกนะ ยกได้ แต่สิ่งที่ผู้หญิงพูดออกมาเป็นการแสดงออกถึงความแตกต่างระหว่างชายกับหญิง
ตัวอย่าง.2 ผมไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนมีคนเอาไอศคริมมาแจกหลายสีหลายรสชาดครบจำนวนคนพอดีผมเลือกไอศครีมรสวนิลา แต่มันมีอันเดียวแกะจนจะกินอยู่แล้วเพื่อนผู้หญิงบอกจะขอแลกเรายังไม่ทันว่าอะไรเลยก็หาว่าเราไม่เป็นสุภาพบุษุเสียแล้ว ว่าเราว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า คำพูดเหล่านี้มันแสดงถึงความแตกต่างของความเท่าเทียบกันทางเพศ
สิ่งเหล่านี้เป็นการยกตัวอย่างแค่บางกรณี ซึ่งถ้าคุณลองนึกดูจะพบว่าผู้หญิงได้แสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างชายกับหญิง
สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นความไม่เท่าเทียมกันที่ชัดเจน ถ้าไม่ได้อะไรก้จะพูดถึงสิทธิ ความเท่าเทียม
ถ้าได้แล้วแต่ยังไม่พอใจก็จะพูดถึงเรื่องความเสียสละ ความเป็นผู้หญิง เรียกร้องความเป็นสุภาพบุรุษ โดยกดตนเองให้ต่ำลงกว่าผู้ชาย
สรุป คำว่าคุณต้องสุภาพบุรุษ ฉันเป็นผู้หญิง เป็นเพศที่อ่อนแอ เธอเป็นผู้ชายหรือเปล่า คือ การแสดงออกว่าผู้หญิงไม่ได้เท่าเทียงกับผู้ชาย
ดันผู้ชายให้อยู่สุงกว่าหญิง
ส่วนคำว่า สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาพ ระหว่างชายกับหญิงจะถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ในบางโอกาส เพื่อให้ได้มาซึ่งความสะดวดสบายของผู้หญิง
ผมไม่ได้ต่อต่ายผู้หญิงผมก็เป็นผู้ชายนี่แหละครับ แต่บางครั้งผมมองว่ากลุ่ม สตรีนิยม (Feminism) เรียกร้องความเท่าเทียมมากเกินไปทั้งๆที่ผู้หญิงยังแสดงออกถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างชายกับหญิงอยู่ ผมยอมรับว่าเรื่องการให้เกียติผู้หญิงเป็นเรื่องที่ดี และผู้ชายก็ควรทำ แต่ผู้หญิงก็ควรใช้ความเท่าเทียมของตนเองโดยไม่กดตัวเองให้ต่ำกว่าผู้ชาย(ขอโทษที่ใช้คำแรงนะครับ)
บทความนี้ของเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ