เราคิดเยอะไปไหมหรือว่ามันไม่สมควรจริงๆ กับเรื่องจุกจิกๆของคนสูงอายุแบบนี้ ?

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพอดีเราจะมาเล่าถึงเรื่องลุงผู้ชายคนนึงที่ชอบมาบ้านเราให้ฟังนะคะ  คือลุงคนนี้แกไม่ได้เป็นญาติอะไรกับเรานะคะ  แต่พอดีเขารู้จักกับครอบครัวเราจากงานศพย่าที่วัดเลยเริ่มสนิทกัน  ... ซึ่งจริงๆแกอายุประมาณ 60 เป็นคนฐานะดี  ชอบช่วยเหลือคนอื่นแต่แค่ทำตัวสมถะ  แต่ข้อเสียคือเขาเป็นคนพูดเร็วๆรัวๆ  ชอบทำอะไรไม่เรียบร้อย (เละเทะ) มากๆจนออกแนวซื่อบื่อ  แล้วก็เหมือนชอบคิดแทนคนอื่นว่าคนอื่นต้องชอบในสิ่งที่เขานำเสนอ  ... เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ  แรกๆตอนที่เขามาก็รู้สึกเหมือนปกติแต่พอเขาเริ่มมาบ่อยๆมันก็เริ่มมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
1. เขาชอบเอาอาหารหรือขนมจากวัดแล้วปั่นจักรยานเอามาให้เรา + พวกอาๆของเราที่บ้าน (พ่อแม่เรานานๆทีจะอยู่บ้านเขาก็เลยไม่ค่อยเจอแต่ถ้าเจอเขาก็ให้ค่ะ)  คือเอาของมาให้ก็ดีนะคะแต่บางอย่างเวลาที่เขาถามแล้วอาหารประเภทนั้นเรากินไม่เป็นเราก็จะบอกว่าไม่เอา  แต่เขาก็ยังจะถามอีกว่าเอาอาหารอันเดิมอันนั้นไหม แบบถามเกิน 3-4 รอบ (เหมือนคนพูดไม่รู้เรื่อง) จนเราต้องตอบปัดๆไปว่าเอา
2. เวลาเขาพูดอะไรเขาจะพูดเร็วและห้วนมาก  แบบจับใจความไม่ได้  ขนาดพี่เลี้ยงเรายังฟังไม่ทันพอถามซ้ำก็พูดเร็วหนักกว่าเดิม  จนหลังๆเลยแก้ปัญหาโดยใช้หลักว่าถ้าเขาพูดอะไรมาแล้วฟังไม่รู้เรื่องก็จะตอบแค่  " ค่ะ " อย่างเดียว
3. ทุกครั้งที่เขาปัด  กวาด  เช็ดถูข้างล่างบ้านเรา  เขาทำไม่เคยเรียบร้อยเลยพอทำเสร็จปุ๊บ  ไม้กวาดอยู่มุมซ้าย  ถังน้ำตั้งบนโต๊ะ  ที่ตักผงอยู่มุมขวา  ไม้ม๊อบถูพื้นอยู่กลางบ้าน  ซึ่งทุกครั้งที่พ่อเรากลับบ้านมาเจอพ่อเราต้องเป็นคนเก็บไม่มีใครข้างล่างบ้านเก็บ  บอกให้ลุงเก็บให้เรียบร้อยแล้วก็ยังทำเหมือนเดิม  
4. เขาชอบจอดจักรยานปิดขวางทางประตูเข้าออกรถใหญ่อีกคันของบ้านเรา  หนักๆหน่อยหลังๆบางครั้งลงมาจากรถจักรยานท่าไหนก็จอดท่านั้นจนมันจอดขวางกินเลนออกไปตรงถนนทำให้คนที่ขับรถใหญ่เข้ามาเลี้ยวเข้าซอยไม่ได้  (บ้านเราเป็นถนนส่วนบุคคลเล็กๆค่ะ มีบ้านแค่ 3 หลังในนั้น คนมีปัญหาเลยจะมีแค่เรากับไม่กี่คน)  แล้วคนเก็บก็คือเรา  พ่อและคนขับรถเรา  (ถามว่าพวกอาได้ผลกระทบตรงนี้ไหม  ตอบเลยว่าไม่ค่ะเพราะที่จอดรถของพวกอาอยู่คนละจุดกับของเรา + พวกเขาไม่ชอบขับรถใหญ่ไปไหนมาไหนเองอยู่แล้ว)
5. เวลาที่เราไหว้เขาคือเราก็เข้าใจนะคะว่าลุงเขาเป็นคนรีบๆ  แต่ถ้าคนรีบปกติเนี่ยเวลาที่ใครไหว้ก็จะรีบๆรับไหว้ผ่านๆแบบเออๆหวัดดี  แล้วเขาก็จะหายไปทำอะไรต่ออะไรของเขาต่อแต่นี่พอเราสวัสดีปุ๊บเขาหันมาประมาณ 5-6 วินาทีแบบนิ่งๆเหมือนมองหน้าเฉยๆไม่พูดอะไรแล้วก็กลับไปทำอะไรต่ออะไรของตัวเองต่อ  เราก็แบบอ้าวทำแบบนี้คืออะไร
6. เคยมีป้าแท้ๆเราคนนึงป่วยหลังผ่าตัด  ลูกเขาเลยขอพ่อเราเอาป้ามาพักผ่อนที่บ้านเราก่อนอารมณ์แบบได้พักไปด้วยแล้วก็อยู่กับพี่น้องไปด้วยพ่อเราก็ตอบตกลง  แต่เช้ามาพ่อเราลืมของไว้ในห้องที่ให้ป้าอยู่พอดี  สิ่งที่เห็นคือป้านอนอยู่บนเตียงโดยมีลุงคนนั้นนอนอยู่ข้างล่างข้างๆเตียง  พ่อเราเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น  ?  สิ่งที่ป้ากับลุงตอบก็คือพอดีว่าลูกของป้าเขาไม่ว่างแล้วคนข้างล่างบ้านเรา (1 ในอาเรา) กับลูกเขาก็เลยเสนอว่าให้ลุงคนนี้มาช่วยเฝ้าช่วยดูสิลุงก็เลยมา (ทุกคนคงจะคิดใช่ไหมคะว่า ถ้าลูกไม่ว่างแล้วคนที่เป็นพี่เป็นน้องแท้ๆทำไมไม่ดูแลเอาทีละคนเลยนะคะตัวพ่อเราเขาทำงานขายของชำตั้งแต่เช้าแล้วก็กลับดึก ซึ่งปกตพอเขากลับมาเขาก็จะมีไปทำงานบ้านทำอะไรของเขาอีกเพราะน้องๆหรืออาเราเขาไม่ทำ  ซึ่งอาเราที่เหลือ มี 3 คนนะคะ คนแรกเป็นผู้ชายซึ่งคนนี้เขาไม่เคยทำงานประจำ  สมองก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะเขาเคยรถชนแล้วก็มีโรคหลายโรค ทุกวันนี้คือแค่ตื่นมากินข้าวขี่จักรยานไปไหนมาไหนได้บ้างละก็มีรับจ๊อบเล็กๆในบ้านจากพ่อนิดๆหน่อยๆเท่านั้นนิสัยส่วนตัวก็เป็นคนช่างคุยช่างถามแค่นี้  ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงคนนี้เคยทำงานประจำมาก่อนแต่ว่าลาออกมาขายของออนไลน์ทั่วๆไปแต่กิจวัตรประจำวันที่เห็นก็คือปกติอยู่บ้านนี่แหละค่ะน่าจะพอมีเงินเก็บเยอะแล้วพอสมควรนิสัยออกแนวขี้ประจบ  หวังผลประโยชน์  เห็นแก่ตัวนิดหน่อยด้วย  แล้วก็คนสุดท้ายเป็นผู้ชายคนนี้ก็เคยทำงานประจำมาก่อนเช่นกันแต่ว่าบริษัทเขามีปัญหาเลยออกมาแต่คาดว่าน่าจะมีเงินเก็บเยอะแล้วเพราะเขาทำมา 30 กว่าปี  ปัจจุบันก็เห็นไม่ได้ทำอาชีพอะไรตายตัวมีแค่เล่นหุ้นกับปล่อยเช่าพระนิสัยส่วนตัวออกแนวรักสบายไม่ชอยความลำบาก) พ่อเราก็เลยบอกกับลุงคนนี้ไปว่าไม่ได้ทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม แล้วเขาโทรหาลูกของป้ากับบอกอาๆว่าเนี่ยวันหลังอย่าทำแบบนี้อีกมันไม่ดีไม่เหมาะสม ...

 ... นับแต่นั้นมาลุงคนนี้ก็หายไป 2-3 วันละก็กลับมาบ้านเราเหมือนเดิมซึ่งก็ดูเหมือนจะห่างๆกับทางเราและพ่อกับแม่เราไปอย่างเห็นได้ชัด  แต่ก็ยังมีคุยกันบ้าง แต่ส่วนตัวเราเลยเวลาเขามาคุยกับเราๆจะตอบแค่ค่ะ  อ่อค่ะอะไรแบบนี้ไปอย่างเดียว  ไม่ไหว้แล้วด้วย เพราะเราเป็นคนขี้รำคาญ แล้วก็ไม่ชอบพฤติกรรมเขาอยู่แล้ว ...  ทุกอย่างยังทรงๆเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนเมื่อวานเขาจอดจักรยานขวางหน้าทางเข้าออกประตูรถเราอีกแล้วแต่รอบนี้เราเป็นคนขับรถเอง เราก็โมโหเลยลงจากรถละก็ถ่ายรูปลงเฟสไป โดยใช้แคปชั่นว่า 
" เพื่อนๆคิดยังไงกับการจอดจักรยานแบบนี้หน้าทางเข้าออกรถใหญ่บ้านคนอื่น ? เราพูดก็แล้ว  ยกออกก็แล้ว  เอาไปวางกลางถนนก็แล้วเขาก็ยังทำแบบเดิมเลย  ช่วยคิดวิธีจัดระเบียบหน่อยคร้าบ  #อย่าเรียกว่าใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอันนี้เขาเรียกมักง่าย "
ที่นี้พวกอาในบ้านเราเห็นเขาก็เลยเดินมาคุยกับพ่อเรา โดยตัวอาผู้ชายอีก 2 คนเนี่ยเขาก็ดูงงๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายมากสุดแค่พูดว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่อาผู้หญิงเขาพูดออกมาในทำนองว่าเราไปว่าลุงหรือคนของเขาแบบนั้นได้ยังไงเดี๋ยวต่อไปเขาไม่มาบ้านเราจะทำยังไงล่ะ  (คือเอาตรงๆนอกจากเรื่องอาหารเรื่องอะไรที่เขาชอบเอามาฝากบ้านเราแล้วอ่ะค่ะ  มันก็จะมีเรื่องของเวลาที่เรามีงานอะไรที่วัด เช่น  งานศพ  งานบุญ แล้วบ้านเราต้องประสานงานลุงคนนี้ก็จะช่วยประสานให้อะไรๆมันง่ายขึ้นแหละค่ะ)  พ่อเรากับพี่เลี้ยงเราเขาก็เลยมาคุยกับเราว่าแบบลบเถอะแล้วต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปโพสต์อะไรถึงลุงคนนั้นอีกเดี๋ยวจะไปกันใหญ่เราก็เลยลบ  แล้วพ่อก็บอกว่าถ้าเจอเรื่องแบบเดิมๆอีกโดยเฉพาะเรื่องการจอดรถจักรยานก็ค่อยไปบอกพ่อเราอีกทีนึง  ...  เราเลยบอกกับพ่อว่าให้สิ่งที่เขาทำมันเหมือนคนเห็นแก่ตัวมากเลยนะ  ลองคิดดูว่าวันนึงเราเก็บให้เขาครั้งหนึ่งอ่ะมันอาจจะไม่บ่อยแต่ลองคิดดูว่าปี 1 อ่ะมีตั้ง 360 กว่าวันเราต้องมาเก็บอะไรๆให้เขาปีละ 360 กว่าวันเนี่ยมันก็บ่อยมากเลยนะ  คือมาคอยตามเก็บทุกวันน่ะมันไม่ตายหรอกแต่เขาไม่คิดถึงความลำบากหรือความเบื่อของคนอื่นบ้างเหรอ  พ่อเราก็บอกว่าช่างเขาเอาแค่ว่าเวลาเราเลี้ยวรถเข้าบ้านเนี่ยแล้วก้นรถจักรยานเขาอะ  ไม่กินเลนรถเราเวลาขับเลี้ยวเข้ามาแบบนี้ถือว่าจบ  ส่วนที่เหลือเขาจะไปจอดรถจักรยานขวางทางประตูเข้าออกรถคันอื่นหรือรถใครทีาไม่ใช่ของเรา และเขาจะเก็บอุปกรณ์ไม่เรียบร้อยยังไงตรงนี้พ่อเราทนได้เก็บให้ได้   แต่พ่อเราเห็นสำคัญในเรื่องอะไรที่มันเป็นอันตรายจริงๆมากกว่า  เราก็ ok รับรู้ (ลึกๆก็ขอให้พ่อไม่ลำบากจริงๆด้วยเถิด)
...  แล้วพอมาวันนี่เราเดินลงมาข้างล่างพวกอาผู้ชายก็ยังพูดคุยปกติกับเราเหมือนเดิมค่ะ  มีแค่อาผู้หญิงที่แอบแขวะตอนคุยโทรศัพท์ว่าแบบ  " เออเนี้ยลุงคนนี้เขาเป็นคนดีมากเลยนะ  ไม่มีใครคิดร้ายด้วยเลยยิ่งไอ้ b (นามสมมติลูกของป้าที่ป่วยแล้วมาค้างบ้านเรา) นี้รักมากถ้าใครคิดไม่ดีกับลุงนี้มันตัดพี่ตัดน้องตัดญาติได้เลยนะ  แล้วเอาจริงๆลุงเขารวยมากนะมีที่ผืนใหญ่แต่แกจะแบ่งให้กับเด็กที่แกรักเท่านั้นใครไม่รักแกๆไม่ยุ่งเลย  แกดีเหมือนเทวดาลงมาเกิดจริงๆ " ... แต่โอเคส่วนหนึ่งแล้วก็รู้ว่ามันก็มาจากสิ่งที่เราโพสต์ แต่อีกใจนึงก็รู้สึกรำคาญนิดหน่อย ...  

ซึ่งทางแก้ของเรื่องนี้ก็คือการปล่อยให้เรื่องนี้มันหายไปตามกาลเวลาเพราะว่าอาผู้หญิงที่บ้านเราอะค่ะ  เขาก็จะเป็นคนชอบเม้าท์ชอบแขวะอะไรแบบนี้คนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเพราะคนอื่นก็โดนแต่แค่คนละประเด็นกับเรา  ... เดี๋ยววันต่อไปมีประเด็นอะไรเรื่องคนอื่นเข้ามาเขาก็พูดไปเรื่อยเปื่อยอยู่ดีมากสุดคงจะหงุดหงิดรายวันนิดหน่อยถ้าโดนแขวะ ...  ส่วนอีกเรื่องที่รู้สึกกังวลนิดนึงก็คือพ่อนี่แหละค่ะเราไม่รู้ว่าในใจแล้วพ่อเขาจะรู้สึกหนักใจไหมที่เขาจะต้องอยู่ท่ามกลาง  เรา  น้องๆ (อา)  แล้วก็ลุงคนนั้น แต่ตอนนี้มองภายนอกพ่อยังดูปกติดีนะคะ ...

** ใครมีอะไรแนะนำได้นะคะ  ขอบคุณค่ะ **
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่