17 มกราคม 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ม.ค.66 มีมติเห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 4 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่ 21 ม.ค.66 จนถึงวันที่ 20 พ.ค.66
.
สำหรับมาตรการทางภาษีครั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และเพื่อไม่ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นราคา เนื่องจากน้ำมันดีเซล และไฟฟ้าเป็นต้นทุนการผลิตและการขนส่งของทุกภาคอุตสาหกรรมอย่างไรก็ตาม ระยะยาวต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันโลก หากราคาน้ำมันโลกปรับลดลงก็พิจารณาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงอีก ทั้งนี้ การต่ออายุมาตรการออกไปอีก 4 เดือนจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท รวม 4 เดือน เสียรายได้ราว 4 หมื่นล้านบาท
.
ทั้งนี้ ตั้งแต่ตั้งต้นปีงบประมาณ 2566 การจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลัง สามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีได้เกินกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ปีงบประมาณ 2566 กระทรวงคลังมั่นใจว่า จะเก็บรายได้เข้ารัฐได้ราว 2.6 ล้านล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.4 ล้านล้านบาท ทำให้รวมทั้งสิ้นปีงบประมาณ 2566 จะมีเงินคงคลังเหลือประมาณ 7.1 แสนล้านบาท ส่งผลให้สถานะเงินคงคลังมีความเข้มแข็ง และไม่กระทบเงินคงคลังของประเทศ
.
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 4 เดือน ว่า ก็ดำรงรักษาไว้ให้ได้ 35 บาท จริงๆราคาควรจะขึ้นไป 40 กว่าบาทไปตั้งนานแล้ว เราดูแลอย่างนี้รู้หรือไม่ว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน เพียงเพราะลดภาษีสรรพสามิตตัวเดียว ซึ่งตอนนี้เห็นว่ายังเดือดร้อนอยู่ก็ต้องทำต่อไปอีก ถ้าต่ออีก 4 เดือนก็เท่ากับ 40,000 ล้านบาทเข้าใจหรือยัง เพราะสถานการณ์น้ำมันติดลบอยู่เดิม เมื่อเราลดภาษีเหล่านี้รายได้ก็ไม่กลับมา รายได้ที่ตรง แก้ปัญหาเฉพาะจุดด้านพลังงานก็ไม่มี ก็ต้องดึงเงินตรงอื่นมา ซึ่งอาจจะมีภาษีสูงขึ้นเก็บรายได้มากขึ้น แทนที่จะเอาไปใช้อย่างอื่นแต่ก็ต้องเอามาดูแลตรงนี้ แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจ เพราะประชาชนเดือดร้อน ซึ่งเรียกว่าการแก้ปัญหาแบบพุ่งเป้าเข้าใจหรือไม่ ไม่มีอะไรที่ได้เปล่าๆ จากนี้เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ภายนอก ซึ่งต้องรับรู้ด้วยสถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไร ราคาค่าน้ำมันเป็นอย่างไร สถานการณ์สู้รบยังมีอีกหรือเปล่า พลังงานมาจากไหนเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญรัฐบาลต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ครบลูปของเขา
ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันและรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้
.
ร่างกฎกระทรวงที่เสนอในครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดำเนินการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนจึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
.
การลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลดูแลมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานของโลกยังคงผันผวนและสูงอยู่
------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.naewna.com/business/704799
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website :
http://www.thailandvision.co
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter :
https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube :
https://www.youtube.com/c/Thailandvision
ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 4 เดือน
.
สำหรับมาตรการทางภาษีครั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และเพื่อไม่ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นราคา เนื่องจากน้ำมันดีเซล และไฟฟ้าเป็นต้นทุนการผลิตและการขนส่งของทุกภาคอุตสาหกรรมอย่างไรก็ตาม ระยะยาวต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันโลก หากราคาน้ำมันโลกปรับลดลงก็พิจารณาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงอีก ทั้งนี้ การต่ออายุมาตรการออกไปอีก 4 เดือนจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท รวม 4 เดือน เสียรายได้ราว 4 หมื่นล้านบาท
.
ทั้งนี้ ตั้งแต่ตั้งต้นปีงบประมาณ 2566 การจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลัง สามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีได้เกินกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ทำให้ปีงบประมาณ 2566 กระทรวงคลังมั่นใจว่า จะเก็บรายได้เข้ารัฐได้ราว 2.6 ล้านล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.4 ล้านล้านบาท ทำให้รวมทั้งสิ้นปีงบประมาณ 2566 จะมีเงินคงคลังเหลือประมาณ 7.1 แสนล้านบาท ส่งผลให้สถานะเงินคงคลังมีความเข้มแข็ง และไม่กระทบเงินคงคลังของประเทศ
.
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 4 เดือน ว่า ก็ดำรงรักษาไว้ให้ได้ 35 บาท จริงๆราคาควรจะขึ้นไป 40 กว่าบาทไปตั้งนานแล้ว เราดูแลอย่างนี้รู้หรือไม่ว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน เพียงเพราะลดภาษีสรรพสามิตตัวเดียว ซึ่งตอนนี้เห็นว่ายังเดือดร้อนอยู่ก็ต้องทำต่อไปอีก ถ้าต่ออีก 4 เดือนก็เท่ากับ 40,000 ล้านบาทเข้าใจหรือยัง เพราะสถานการณ์น้ำมันติดลบอยู่เดิม เมื่อเราลดภาษีเหล่านี้รายได้ก็ไม่กลับมา รายได้ที่ตรง แก้ปัญหาเฉพาะจุดด้านพลังงานก็ไม่มี ก็ต้องดึงเงินตรงอื่นมา ซึ่งอาจจะมีภาษีสูงขึ้นเก็บรายได้มากขึ้น แทนที่จะเอาไปใช้อย่างอื่นแต่ก็ต้องเอามาดูแลตรงนี้ แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจ เพราะประชาชนเดือดร้อน ซึ่งเรียกว่าการแก้ปัญหาแบบพุ่งเป้าเข้าใจหรือไม่ ไม่มีอะไรที่ได้เปล่าๆ จากนี้เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ภายนอก ซึ่งต้องรับรู้ด้วยสถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไร ราคาค่าน้ำมันเป็นอย่างไร สถานการณ์สู้รบยังมีอีกหรือเปล่า พลังงานมาจากไหนเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญรัฐบาลต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ครบลูปของเขา
ส่วนนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันและรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้
.
ร่างกฎกระทรวงที่เสนอในครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดำเนินการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนจึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
.
การลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลดูแลมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานของโลกยังคงผันผวนและสูงอยู่
------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.naewna.com/business/704799
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision