JJNY : เผ็ซมาก! ร้านส้มตำลมแทบจับ│“อุ๊งอิ๊ง” เร็วไปที่จะพูด “ป้อม” ทอดสะพาน│พิธาโว ยกเลิกเกณฑ์ทหาร│“โรม”จวก“ประวิตร”

เผ็ซมาก! มะละกอราคาพุ่ง ถุงละ 420 บาท มะนาวกระสอบ 1.8 พัน ร้านส้มตำลมแทบจับ
https://www.matichon.co.th/region/news_3777102
 
 
มะละกอราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ถุงละ 420บาท ร้านส้มตำลมแทบจับ
 
เมื่อวันที่ 18 มกราคม  ใกล้ตรุษจีนสินค้าหลายรายการมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ไม่เว้นแม้แต่มะละกอ ที่ใช้ตำส้มตำ ซึ่งตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นสูงมาก ราคาสูงถึงถุงละ 420 บาท พ่อค้าร้านส้มตำถึงกับร้องเรียนผ่านสื่อ เพราะได้รับผลกระทบมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลราคาสินค้า ไม่ใช่แต่เฉพาะมะละกอ แต่วัตถุดิบต่าง ๆ ราคาก็ปรับขึ้นไปตาม ๆ กัน
 
ที่ร้านอู๋แซ่บเวอร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นายเชาวลิต เหล่าสมบัติ เจ้าของร้านอู๋แซ่บเวอร์ กล่าวว่า ตอนนี้ทางร้านได้รับผลกระทบมาก เพราะราคามะละกอดิบ ราคาพุ่งขึ้นสูงมากจริง ๆ จึงอยากให้สื่อช่วยสื่อสารออกไปให้คนทั้งประเทศได้รู้ ไม่ใช่แต่มะนาวแพง วัตถุดิบอื่น ๆ รวมถึง มะละกอราคาก็แพงเช่นเดียวกัน
 
ราคามะละกอ ณ วันนี้ ราคามะละกอดำเนิน เกรดเอ 2 แถว ราคาอยู่ที่ 420 บาท เกรดรองลงมา 3 แถว ราคา 400 บาท ซึ่งถุงนึงน้ำหนักจะอยู่ประมาณ 10 กิโลกรัม เท่ากับว่าตกกิโลกรัมละ 40-42 บาท จากปกติราคาจะอยู่ที่หลักร้อยต้น ๆ หากย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน (ปี65) ช่วงที่มะละกอแพง ๆ ราคาจะอยู่ที่ 280-300 บาท แต่ปีนี้หนักสุด ๆ วันก่อนอยู่ที่ 370 บาท วันนี้ 420 บาทแล้ว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าร้านส้มตำได้รับความเดือดร้อน จากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นมากจริง ๆ
 
ทางร้านค้าส่งก็บอกว่า หนักใจเหมือนกันที่ต้องขายมะละกอในราคาที่สูงแบบนี้ แต่เมื่อของมันมาแพง ก็ต้องขายแพง เราจำเป็นต้องซื้อก็ซื้อเกรดที่ถูกลงมา ซื้อน้อยลง เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ซึ่งก็ไม่ได้ขึ้นแต่มะละกอ ก่อนหน้านั้นก็มีมะเขือเทศ ที่ราคาปรับขึ้นไปถึง 70 บาท ตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือ 50 บาท มะนาวราคาก็ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1,450 บาท หากใช้มะนาวเกรดเอ ราคาก็จะอยู่ที่กระสอบละ 1,600-1,800 บาทเลยทีเดียว
 
ซึ่งปัญหาของร้านตอนนี้คือ วัตถุดิบทุกอย่างราคาแพงขึ้นหมดแล้ว ถึงแม้จะมีข่าวว่าน้ำมันพืชปรับลดราคา หมูราคาลดลง แต่อย่างอื่นขึ้นหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุง ของสด ของทะเล ยกตัวอย่างเช่น ปูอัด จากเดิม 139 บาท ปรับขึ้นเป็น 155 บาท หอยแมลงภู่แช่แข็งจากเดิม 140-150 บาท ปรับขึ้นเป็น 170-180 บาท ไข่ไก่ ไข่เป็ดปรับขึ้นแผงละ 10-20 บาท
 
ถามกว่ากระทบกับเรายังไง เมื่อเราปรุงอาหารสำเร็จรูปเสร็จมาเสริฟ์ให้ลูกค้า หากเราขายแพง เราก็ขายยาก คนทานกำลังซื้อเท่าเดิม แต่ต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ก็ต้องคิดมากขึ้นว่าจะสั่งกินหรือไม่ แต่หากเราขายถูก เราก็แทบจะไม่มีกำไร กำไรไม่เหลือ ตอนนี้ยอมรับว่าต้องขอลดปริมาณมะละกอลงนิดหน่อย ลูกค้าบางคนก็ถามบ้างว่าลดปริมาณลงรึป่าว เราก็บอกลูกไปตรง ๆ ว่าขอโทษด้วยตอนนี้มะละกอแพงมากจริง ๆ ต้องขอลดปริมาณลงเล็กน้อย ซึ่งทางลูกค้าก็เข้าใจ
 
สิ่งที่อยากให้รัฐช่วยเหลือ จริง ๆ ก็อยากให้รัฐช่วยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทราบอยู่แล้วว่าควรจะต้องทำอย่างไร ราคาสินค้าในตลาดทุกคนรู้อยู่แล้วว่าของมันแพง แม่ค้าแม่ค้าไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะของมันแพงตั้งแต่ต้นทาง ต้องหันมาพึ่งสื่อมวลชนให้ช่วยกระตุ้น สื่อสารออกไปให้ทุกคนได้รู้ ให้โลกรู้ว่า ของมันแพงขึ้นจริง ๆ พ่อค้าแม่ค้าต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นจริง ๆ


 
“อุ๊งอิ๊ง” เร็วไปที่จะพูด “บิ๊กป้อม” ทอดสะพาน-ต้องแลนด์สไลด์
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_484141/

“อุ๊งอิ๊ง” บอกเร็วไปที่จะพูด “บิ๊กป้อม” ทอดสะพาน ย้ำอยากให้เกิดแลนด์สไลด์ ยันลงพื้นที่ถี่ไม่มีปัญหาสุขภาพ
 
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทอดไมตรีพร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรคเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ว่า การก้าวข้ามความขัดแย้งเป็นเรื่องดี แต่เรายึดหลักประชาธิปไตยและเราหาเสียงแบบแลนด์สไลด์เพราะต้องการที่จะทำให้นโยบาย ของพรรคเพื่อไทย เกิดขึ้นจริงให้ประชาชน ถ้าต้องจับมือพรรคร่วม อย่างที่บอกนโยบาย หรือแนวคิดต้องเป็นในแนวทางเดียวกันเพราะเป็นทิศทางที่ผ่านประชาชนแล้ว ถึงเลือกเรา เรายึดสิ่งนั้นเป็นหลัก
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพลังประชารัฐ ทอดไมตรี มาหาพรรคเพื่อไทยก่อน มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น 2 พรรคนี้จับมือกันหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปมากที่จะตอบ เราอยากให้เกิดแลนด์สไลด์ ทุกคะแนนเสียงอย่าปันใจให้พรรคอื่นขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพราะประเทศไม่ไหวแล้ว ต้องใช้นโยบายที่จะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น เกมการเมืองคือการเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนเกมการเมืองอย่างอื่นที่เป็นดราม่านั้นไม่สำคัญ และไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือปากท้องของประชาชน
 
ส่วนที่ พรรคพลังประชารัฐได้มีการเปิดนโยบายเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาท น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราพูดและเราสัญญาในสิ่งที่มั่นใจว่าเราทำได้ในส่วนพรรคอื่นก็เป็นเรื่องของพรรคนั้นที่พิจารณากันเอง ซึ่งพรรคเพื่อไทยพิจารณาว่าภายในปี 2570 จะทำให้ได้ตามที่บอกประชาชน ส่วนนโนบายพรรคพลังประชารัฐนั้นเป็นวิธีที่ไม่เหมือนกัน พร้อมทั้งยืนยันว่า หากต้องลงพื้นที่ถี่และบ่อยขึ้น ในช่วงตั้งครรภ์ ก็มั่นใจว่าจะ ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และสุขภาพก็ยังดีเพราะพบแพทย์อยู่ตลอด
  


พิธา โว ก้าวไกล เป็นรัฐบาล ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ลั่นชีวิตทหารจะไม่เหมือนเดิม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7464690
 
พิธา โว ก้าวไกล เป็นรัฐบาล เลิกเกณฑ์ทหาร-วัฒนธรรมอำนาจนิยม แยกทหารออกจากการเมือง ลั่นชีวิตทหารไทยจะไม่เหมือนเดิม หากตนเองเป็นนายกฯ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงวันกองทัพไทยว่า พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดถึงความจำเป็นของการปฏิรูปกองทัพ แน่นอนว่าในมุมหนึ่ง การปฏิรูปกองทัพ เป็นวาระระดับประเทศ ที่หมายถึงตั้งแต่การแยกทหารออกจากการเมือง การยุติวงจรรัฐประหาร การทำให้กองทัพโปร่งใส-ตรวจสอบได้ รวมถึงการทำให้กองทัพมีขนาดและภารกิจที่เท่าทันต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาประชาธิปไตย ส่งเสริมเศรษฐกิจ และปกป้องผลประโยชน์ประชาชนในภาพรวม
 
นายพิธา กล่าวว่า อีกเหตุผลหนึ่ง เราเชื่อว่าการปฏิรูปกองทัพเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อคุ้มครองคุณภาพชีวิตของพลทหารทุกคน ทั้งที่ถูกบังคับเกณฑ์เข้ามา และที่สมัครเข้ามาเพราะรักในอาชีพทหาร แต่กลับถูกกดทับและเอารัดเอาปรียบด้วยค่าตอบแทนที่ไม่เพียงพอ อนาคตที่ไม่มั่นคง ภารกิจงานที่ไม่ตรงปก ชีวิตที่ไม่ปลอดภัยจากการถูกละเมิดสิทธิ และการถูกปฏิบัติโดยผู้บังคับบัญชาบางคนที่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นักการเมืองในคราบทหารในรัฐบาลปัจจุบันและเครือข่ายผลประโยชน์ในกองทัพบางฝ่าย จะพยายามตีตราและตีขลุมว่าพรรคก้าวไกล เป็นปฏิปักษ์ต่อกองทัพ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
 
นายพิธา กล่าวว่า จริงอยู่ เรายืนอยู่ตรงข้ามกับทหารที่ล้มล้างประชาธิปไตย ผ่านการยึดอำนาจจากประชาชนและสืบทอดอำนาจตัวเอง เรายืนอยู่ตรงข้ามกับทหารที่ถืออภิสิทธิ์เหนือประชาชน และใช้อำนาจโดยมิชอบกับคนที่เขาควรปกป้อง และเรายืนอยู่ตรงข้ามกับทหารที่กอบโกยผลประโยชน์จากภาษีประชาชน และปฏิเสธการตรวจสอบ แต่เรายืนยันว่าทั้งหมดที่ทำ เพราะต้องการยืนอยู่เคียงข้างประชาชนและทหารทุกคนที่ให้เกียรติประชาชน
 
เนื่องในวันกองทัพไทยครั้งสุดท้ายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เราขอให้คำมั่นสัญญากับทุกคนว่า ภายใต้รัฐบาลก้าวไกล กองทัพไทยจะถูกปฏิรูปอย่างแน่นอน หากแต่การปฏิรูปกองทัพของเรา จะไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับพวกท่าน แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คุณภาพชีวิตของทุกท่านดีขึ้น มั่นคงขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีอนาคตที่สดใสขึ้น
 
1. ท่านจะไม่ต้องเป็นทหาร ถ้าไม่อยากเป็น เพราะเราจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร 
2. ท่านจะไม่โดนตรวจน้ำ ไม่ต้องโดดบ่อขี้ เพราะเราจะเอาจริงกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของทหาร
3. ท่านจะไม่ถูกธำรงวินัยอย่างป่าเถื่อน เพราะเราจะแก้ไข พ.ร.บ.วินัยทหาร ให้สอดคล้องกับหลักสากล 
4. ท่านจะมีช่องทางอิสระที่ร้องเรียนได้เสมอ เพราะเราจะตั้งผู้ตรวจการกองทัพที่ยึดโยงกับผู้แทนราษฎร
5. ท่านจะไม่ต้องกังวลว่าเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยงจะได้เต็มหรือไม่ เพราะเงินเดือนของท่านจะต้องโอนตรง-โอนครบ-ไม่หัก-ไม่ทอน 
6. ท่านจะไม่ต้องเจอ ผัก 1 ไร่ ไก่ 1 ตัว หรือ วิญญาณหมู เพราะจะไม่มีใครโกงงบสำหรับอาหารของท่าน
7. ท่านจะไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล ไม่ต้องห่วงครอบครัว-ลูกที่บ้าน เพราะเราจะทำให้ทหารทุกคนได้สิทธิประกันสังคม-ประกันชีวิต-ทุนการศึกษาสำหรับลูก 
8. ท่านจะเติบโตเป็น ผบ.ทบ.ได้ โดยไม่ต้องมีเส้นสาย เพราะเราจะรื้อระบบประเมินให้ท่านเลื่อนขั้นได้เร็ว หากผลงานดี
9. ท่านจะไม่ต้องรบกับหญ้า ฆ่ากับมด เพราะเราจะลดภารกิจกองทัพที่เกินจำเป็น และไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง 
10. ท่านจะไม่ต้องซักกางเกงในใคร เพราะเราจะยกเลิกการมีทหารรับใช้
11. ท่านจะได้รับความยุติธรรมเหมือนประชาชนทั่วไป เพราะจะยกเลิกศาลทหารสำหรับคดีทั่วไป
12. ท่านจะภาคภูมิใจที่ได้เป็น “ทหารของประชาชน” เพราะเราจะแยกทหารออกจากการเมือง
 
ภายใต้รัฐบาลก้าวไกล ชีวิตทหารไทยจะไม่เหมือนเดิม ภายใต้นายกฯ พิธา ชีวิตทหารไทยจะต้องดีกว่าเดิม” นายพิธากล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่