[CR] รีวิว The Banshees of Inisherin หนังรางวัลมาแรงแห่งปี

หลายคนคงไม่รู้ว่า The Banshees of Inisherin เข้าฉายใน Disney Plus Hot star ผมเองก็ไม่รู้ถ้าไม่บังเอิญเลื่อนไปเจอ  เจ้านี้หนังดังเขาเยอะแต่ชอบย่องเงียบเข้าฉายเสียจริง 😊
 
หนังเรื่องนี้ต้องบอกว่ากำลังมาแรงแซงทุกโค้งในช่วงเทศกาลรางวัลปีนี้เลยทีเดียวโดยเฉพาะรางวัลนำชาย Colin Farrell  แต่เมื่อดูหนังแล้วนักแสดงหลักคนอื่นก็โดดเด่นไม่แพ้กัน  เรียกว่าทีมนักแสดงเรื่องนี้แข็งมากๆ  ทั้ง Kerry Condon น้องสาวของพระเอกในเรื่องที่ออกมาแต่ละฉากดูขึงขังสมจริงมาก  ข่มเธอไม่ลงเลย  Brendon Gleeson เพื่อนพระเอกที่เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเองและ Barry Keoghan เจ้าหนูที่เล่นได้เอ๋อมาก  เหมือนมาก  เนียนมาก  ยอมใจเลยพ่อหนุ่ม
 
ขอพูดถึงโคลิน ฟาเรลอีกสักหน่อย  ดาราคนนี้ต้องบอกว่ามาเป็นช่วงๆหายเป็นยุคๆ  ตอนเล่นเรื่อง Minority Report, Phoneboot และ S.W.A.T เป็นหนุ่มไอริชที่ดูดีและเท่ห์มากๆ  หลังจากอเล็กซานเดอร์มหาราชและหนังต่อๆมาก็ดูจะแป็กไปเลย  ช่วงหลังเหมือนจะกลับเป็นขาขึ้นของเฮียอีกรอบโดยเฉพาะปีที่ผ่านมาฝากผลงานถูกใจนักวิจารณ์ถึงสี่เรื่องด้วยกัน  
After Yang คุณพ่อที่เข้าใจบางอย่างของชีวิตจากการซ่อมหุ่นยนต์ของลูกสาว 
The Batman(2022) รับบทเป็นเพนกวินตัวร้าย
Thirteen Lives  รับบทนักประดาน้ำที่ช่วยชีวิตเด็กๆในถ้ำหลวง
The Banshees of Inisherin หนุ่มชนบทในไอร์แลนด์  กับการแสดงที่เรียกว่าต้องขยี้ตาหลายรอบ  หนุ่มมาดเท่ห์คนเดิมหายไปไหนไม่รู้  เล่นได้บ้านนอกมาก  คำนี้ไม่ได้เหยียดนะแต่หมายถึงเล่นได้ใสซื่อ  เงอะงะ  จริงใจ  งุ่มง่ามมากพี่  เอารางวัลไปเลย  โอกาสจะได้บทที่ตีกระจุยกระจายไม่ใช่มาบ่อย
 


Martin McDonagh 
 
ในฐานะคนเขียนบท  ต้องบอกว่าบทหนังเรื่องนี้โดดเด่นไม่แพ้ Three Billboards outside Ebbing Missouri  ที่ตีแผ่ความเป็นมนุษย์แบบจิกกัดให้แสบๆคันๆ  แล้วค่อยๆบาดลึกลงไปเรื่อยๆจนสุดทาง
 
ในฐานะผู้กำกับ  ถ้าจำได้ใน Three Billboards ดาราเล่นกันได้บ้าระห่ำมาก  เรื่องนี้แต่ละคนก็สุดๆอย่างที่ว่าไปแล้ว  ก็ไม่รู้ว่าผู้กำกับคนนี้ทำได้ไง  กำกับใครก็ดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมาได้สุดคาราเบลจริงๆ  
 
ในเรื่องการคุมโทนผู้กำกับทำให้เห็นว่าเปลือกนอก(surface) แต่ละอย่างดูดีแต่สุดท้ายพาคนดูดิ่งเหวซะงั้น  
- หนังเปิดตัวด้วยวิวที่ต้องมนต์สะกดฝีมือ Ben Davis และภาพก็สวยไปทั้งเรื่องแต่พอถึงช่วงท้ายกลับรู้สึกว่าเป็นความสวยที่ดูวิเวกโหวงเหวงพิกล
- ดนตรีประกอบโดย Carter Burwell ที่ถูกตั้งโจทย์ห้ามใช้เพลงพื้นเมืองของไอริชก็ฟังดูเพราะเข้ากับบรรยากาศ  แต่ถึงท้ายเรื่องกลับรู้สึกโหยหวนยังไงไม่รู้
- ตัวละครในเรื่องดูเป็นคนในชุมชนเล็กๆที่น่าสนใจ  ดูไม่มีพิษมีภัย  ใสซื่อ แต่ท้ายสุดแล้วกลับเผยตัวตนที่เราก็เริ่มไม่แน่ใจว่าอยากเข้าใกล้ไหม
- ชื่อ Inisherin คือ เมืองสมมติในไอร์แลนด์ที่ฟังดูน่าสนใจ  แต่เจอ Banshees ซึ่งเป็นเทพแห่งความตายในนิทานปรัมปราของชาวไอริชที่กรีดร้องโหยหวนกับศพแล้ว  ไปไม่เป็นเลย
จากที่กะว่าจะตลกสักหน่อย  บางช่วงก็รู้สึกเนือยเหมือนกันเพราะวนไปมา  สุดท้ายกลับกลายเป็นหดหู่ซะงั้น  นั่นละที่ผู้กำกับอยากให้เป็น 
ในแง่การดำเนินเรื่อง  ด้วยความที่เรื่องราวไม่ค่อยมีอะไรวนเวียนในชุมชนเล็กๆ  อาจไม่ต้องใช้เทคนิคกำกับพิศดารอะไร  การกำกับที่ถือว่าดีอาจจะไม่โดดเด่นนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น
 


มาว่ากันที่บทภาพยนต์ เราอาจจะมองว่า
@ นี่คือหนังที่ว่าด้วยความแตกต่างทางความคิดของมนุษย์  เพื่อนรักที่คบกันมานานหลายปี  วันดีคืนดีเมื่อความคิดเปลี่ยนก็อยากเลิกคบซะงั้น  ผิดที่ความคิดก็ควรแก้ที่ความคิด  ที่ตลกไม่ออกคือเมื่อถึงจุดบานปลาย 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราอาจจะคิดว่า บ้าไปแล้ว  ตลกสิ้นดี  พล็อตอะไรฟระ  นี่เพื่อนรักกันนะ  มีอะไรค่อยๆพูดไม่ได้หรือ  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถูกนำไปเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแบ็คกราวน์ของหนัง  สงครามกลางเมืองไอริชช่วงปี 1922-1923  เมื่อความคิดทางการเมืองแตกต่างกันหรือใช้คำให้สวยหรูหน่อย อุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน  เรากลับไม่แก้กันที่ความคิดหรือในสภาแต่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตกลงโลกความเป็นจริงและเรื่องแต่งอะไรตลกสิ้นดีหรือบ้ากว่ากัน

@ หรือเราจะมองว่าตัวละครแต่ละตัวแทนกลุ่มคนที่แตกต่างกันในสังคม
- ตำรวจ คือ คนที่บ้าอำนาจและใช้อำนาจในมือข่มเหงคนที่ด้อยกว่า
- เจ้าของร้านชำ คือ คนที่ชอบเผือกเรื่องชาวบ้านและชอบตัดสินคนอื่นว่าดีหรือไม่ดี
- หญิงชราคือ คนที่เห็นทุกอย่าง  รู้ทุกอย่างและลอยตัวเหนือทุกอย่าง
- เพื่อนของพระเอก คือ คนที่มีสมองจริง  ฉลาดจริง  เข้าใจความเป็นไปอะไรได้ดีกว่าคนทั่วไปแต่ยกตัวให้ถอยห่างจากผู้อื่น  ฐานะสูงกว่า  สังคมสูงกว่า  ปัญญาชนกว่า  พวกเขาไม่เหยียด  ไม่ทำร้ายคนที่ด้อยกว่านะแต่ถ้าต้องลงไปขลุกด้วย  คงจะไม่ได้  เพราะพวกเขาสูงส่งกว่า 
- เด็กเอ๋อ คือ ตัวแทนของเยาวชนในสังคม  นี่คือกลุ่มประชากรที่น่าสงสารที่สุด  พวกเขามักถูกผู้ใหญ่เอาเปรียบและถูกใช้เป็นเครื่องมือบางอย่างเสมอโดยที่พวกเขาไม่เข้าใจ  แต่ไม่ว่าพวกเขาจะขมขื่นเพียงใดในแววตาของพวกเขายังมีประกายของความหวังที่อยากรู้อยากลองตามวัยเสมอ
- มาถึงพระเอกของเรา  นี่คือตัวแทนของคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้  คนส่วนใหญ่เริ่มต้นชีวิตตอนอายุ 20 ด้วยความหวังว่าชีวิตจะเดินไปด้วยความสดใสมีความสุข  แต่เมื่อชีวิตต้องฝ่าแรงเสียดทานทุกอย่าง  จากสิ่งที่วาดหวังไว้บางคนอาจจะหันหลังให้กับสังคม  บางคนอาจหันมาตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน  บางคนอาจบอบช้ำไร้เรียวแรง  ผมมองดูเพื่อนหลายคนที่เป็นแบบนี้  พยายามนึกถึงวันแรกที่รู้จักพวกเขา  อยากได้คนคนนั้นคนที่ใสซื้อจริงใจกลับมาแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้
- ถ้าจะมีตัวละครสักตัวที่เป็นความหวังเล็กๆในหนังเรื่องนี้แล้วละก็  คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องสาวของพระเอก  นี่คือคนที่ไม่สนใจความบ้าบอของโลกใบนี้  ไม่พยายามหาเหตุผลหรือเปลี่ยนแปลงใคร  ไม่ตกในเกมส์ของคนอื่นที่เปลี่ยนให้เราเป็นใครที่เราไม่ต้องการเป็น  พวกเขาแสวงหาที่ใหม่ๆหนทางใหม่ๆโลกใหม๋ๆที่นำพาตัวเองให้มีแต่ดีขึ้น
 
มาพูดถึงรางวัลสูงสุด  ถ้าหนังเรื่องนี้ได้ภาพยนต์ยอดเยี่ยมต้องถือว่าสมศักดิ์ศรี  ไม่ติดขัดอะไร  แต่ถ้าจะติดอะไรสักอย่างละก็  เท่าที่สังเกตุสำหรับเวทีออสการ์ผมว่ากรรมการชอบหนังที่มีคุณสมบัติอย่างหนึ่ง คือความ feel good  ซึ่งหนังเรื่องนี้ไม่มี  หากใครจำได้ปีที่แล้วหนังที่เข้าชิงต่างมีโปรดักชั่นที่เลิศหรูกว่า Coda เยอะแต่สื่งหนึ่งที่หนังอื่นไม่มีแต่ Coda มี คือ ความ feel good สุดท้าย Coda ก็คว้าพุงปลาไปกินชนิดที่หลายคนยังตาค้างอ้าปากเหวอจนถึงวันนี้
ชื่อสินค้า:   The Banshees of Inisherin
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่