เพื่อนๆคงจะเจอปัญหาว่าเราจะใช้พื้นที่ที่เป็นมุม เป็นจุดตัดของด้าน2ด้านมาชนกัน ทางหนึ่งก็ปิดการใช้งานไปเลย ถ้าเสียดายพื้นที่ก็ต้องตัดใจเอาเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้งานไปอยู่ในนั้นเสีย วันนี้ผมจะมาแชร์IDEAการใช้งานตู้บริเวณมุมตู้ให้ใช้งานง่ายๆ ไม่งั้นเสื้อผ้าที่ถูกแขวนอยู่ในสุดนั้นจะถูกลืมใช้งานกันไปเลยครับ
ตู้เสื้อผ้ามี2แบบแยกเป็น
หนึ่ง แบบไม่มีหน้าบาน การจะจัดการการใช้พื้นที่ที่มุมตู้ให้ใช้งานได้ประโยชน์เกิดจากการจัดการกับราวแขวนเสื้อครับ แบบแรกราวแขวนเป็นสเตนเลสที่สั่งทำให้วิ่งเป็นเส้นมุมฉากไปตามตู้เลย ที่มุมอย่าลืมจุดSUPPORTการรับน้ำหนักนะครับ ตรงมุมจะค่อนข้างอ่อนไม่แข็งแรง หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากจะใช้ราวแขวนแบบสำเร็จรูปที่เป็นหน้าตัดรูปวงรี หรือวงกลม ต้องใช้ขารับแบบหิ้วยึดเข้ากับแผงด้านบนครับ ขารับชนิดนี้ปรับหมุนระยะได้ ถ้าช่วงการแขวนยาวๆ เกรงว่าราวจะแอ่นกลางรับน้ำหนักไม่ได้ ขารับแบบนี้มีแบบรับตรงกลางด้วย ขารับราวแขวนแบบนี้หาซื้อได้ที่บางโพครับ
แบบที่สอง แบบมีหน้าบานครับ จุดตัดที่มุมนั้นทำเป็นตู้ที่หน้าบานเอียง45องศาครับ หน้าบานอาจDESIGNเป็นกระจกเงาส่องตัว เป็นบานกระจกใสเพื่อสร้างความแตกต่าง ภายในทำชั้นวางของรูปตัว L ไว้เก็บกระเป๋า เครื่องนอน
อีกIDEAที่ผมมักทำเป็นประจำ แล้วยังรักษาDESIGNเดิมที่เป็นมุมฉาก คือออกแบบการเปิดบานเสียใหม่ครับ แบบนี้บานเปิดจะซ้อนทับกันอยู่ เราต้องเปิดบานใดบานหนึ่งก่อน แนะนำให้เพื่อนๆใช้บานพับแบบเปิดได้กว้างถึง 175องศาทั้งสองบาน พอเราเปิดบานทั้งคู่ออกมากว้างๆแล้ว ก็ไม่ยากใช้มั้ยครับที่จะเลือกหาเสื้อผ้าแบบไม่มีจุดอับอีกต่อไป
ถ้าบานไม่ซ้อนทับกัน ข้อดีคือเราจะเปิดบานไหนก่อนก็ได้ตามใจเรา แต่ข้อเสียคือ ช่องว่าระหว่างสองบานจะเยอะครับ ฝุ่นจะเข้าไปได้ เคยเห็นบางแบรนด์ใช้แผ่นยางเป็นตัวกันฝุ่นเอาครับ
ในกรณีที่เป็นบานเลื่อนก็ทำได้เช่นกันครับ บานก็ควรจะซ้อนกันเพื่อป้องกันฝุ่น และจุดที่น่าเป็นห่วงเรื่องความแข็งแรงก็ที่มุมนี่ละครับ ต้องเสริมความแข็งแรงภายในโดยใช้เสาสเตนเลสช่วยครับ
เพื่อนๆก็ลองเลือกใช้ดูนะครับ งานออกแบบเป็นงานแก้ปัญหาครับ ทางเลือกมีได้หลายทางครับตามความชอบ ตามประสบการณ์ หากมีIDEAดีๆก็แนะนำกันมานะครับ เราจะได้มีงานดีๆรับใช้สังคมกันในแบบของเราครับ
จะใช้ประโยชน์จากมุมตู้เสื้อผ้าอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ตู้เสื้อผ้ามี2แบบแยกเป็น
หนึ่ง แบบไม่มีหน้าบาน การจะจัดการการใช้พื้นที่ที่มุมตู้ให้ใช้งานได้ประโยชน์เกิดจากการจัดการกับราวแขวนเสื้อครับ แบบแรกราวแขวนเป็นสเตนเลสที่สั่งทำให้วิ่งเป็นเส้นมุมฉากไปตามตู้เลย ที่มุมอย่าลืมจุดSUPPORTการรับน้ำหนักนะครับ ตรงมุมจะค่อนข้างอ่อนไม่แข็งแรง หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากจะใช้ราวแขวนแบบสำเร็จรูปที่เป็นหน้าตัดรูปวงรี หรือวงกลม ต้องใช้ขารับแบบหิ้วยึดเข้ากับแผงด้านบนครับ ขารับชนิดนี้ปรับหมุนระยะได้ ถ้าช่วงการแขวนยาวๆ เกรงว่าราวจะแอ่นกลางรับน้ำหนักไม่ได้ ขารับแบบนี้มีแบบรับตรงกลางด้วย ขารับราวแขวนแบบนี้หาซื้อได้ที่บางโพครับ
แบบที่สอง แบบมีหน้าบานครับ จุดตัดที่มุมนั้นทำเป็นตู้ที่หน้าบานเอียง45องศาครับ หน้าบานอาจDESIGNเป็นกระจกเงาส่องตัว เป็นบานกระจกใสเพื่อสร้างความแตกต่าง ภายในทำชั้นวางของรูปตัว L ไว้เก็บกระเป๋า เครื่องนอน
อีกIDEAที่ผมมักทำเป็นประจำ แล้วยังรักษาDESIGNเดิมที่เป็นมุมฉาก คือออกแบบการเปิดบานเสียใหม่ครับ แบบนี้บานเปิดจะซ้อนทับกันอยู่ เราต้องเปิดบานใดบานหนึ่งก่อน แนะนำให้เพื่อนๆใช้บานพับแบบเปิดได้กว้างถึง 175องศาทั้งสองบาน พอเราเปิดบานทั้งคู่ออกมากว้างๆแล้ว ก็ไม่ยากใช้มั้ยครับที่จะเลือกหาเสื้อผ้าแบบไม่มีจุดอับอีกต่อไป
ถ้าบานไม่ซ้อนทับกัน ข้อดีคือเราจะเปิดบานไหนก่อนก็ได้ตามใจเรา แต่ข้อเสียคือ ช่องว่าระหว่างสองบานจะเยอะครับ ฝุ่นจะเข้าไปได้ เคยเห็นบางแบรนด์ใช้แผ่นยางเป็นตัวกันฝุ่นเอาครับ
ในกรณีที่เป็นบานเลื่อนก็ทำได้เช่นกันครับ บานก็ควรจะซ้อนกันเพื่อป้องกันฝุ่น และจุดที่น่าเป็นห่วงเรื่องความแข็งแรงก็ที่มุมนี่ละครับ ต้องเสริมความแข็งแรงภายในโดยใช้เสาสเตนเลสช่วยครับ
เพื่อนๆก็ลองเลือกใช้ดูนะครับ งานออกแบบเป็นงานแก้ปัญหาครับ ทางเลือกมีได้หลายทางครับตามความชอบ ตามประสบการณ์ หากมีIDEAดีๆก็แนะนำกันมานะครับ เราจะได้มีงานดีๆรับใช้สังคมกันในแบบของเราครับ