มีเรื่องจะมาขอความคิดเห็นกันครับ
เรื่องพึ่งเกิดสดๆร้อนๆเลยครับวันนี้
เกี่ยวการซักผ้าที่ร้านซักผ้า พอดีว่าวันนี้ฝนตกผมก็เลยต้องออกไปซักที่ร้านซักผ้าพร้อมกับจะอบผ้าด้วย ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน พอเข้าไปในร้าน ไม่มีใครสักคนอยู่เลย แต่ละตู้เต็มทุกตู้ แต่มีอยู่ตู้นึงมีเสื้อผ้าอยู่แต่ไม่ปิดตู้ ผมก็คิดว่ามันซักเสร็จแล้วแต่ยังไม่มีคนมาเอาออก พอไปจับเสื้อผ้าก็พบว่ายังแห้งอยู่ ก็คิดว่าอาจจะซักผ้าอุณหภูมิร้อน หรือน้ำอุ่น เพราะผมก็ไม่ได้มาซักบ่อยเท่าไหร่ ตอนแรกก็ไม่กล้าเอาผ้าออกหรอกครับ เราก็ดูตามป้ายที่ร้านเขาแนะนำ ว่ามีป้ายแนะนำเขียนว่า หากถ้าไม่มีเจ้าของสามารถนำมาใส่ตะกร้าพักไว้ก่อนได้ เราก็เลยตัดสินใจทำตาม เพราะเห็นว่ายังไม่มีคนมาดำเนินการต่อ จากนั้นผมก็นำผ้าที่ยังไม่ได้ซักของผมเข้าตู้ เติมน้ำยาซักน้ำยาปรับผ้านุ่มเรียบร้อยเหลือเพียงแค่หยอดเหรียญ ตู้ที่ผมซักมันเป็นตู้ขนาด 20 กิโลนะครับ ผมทำทุกอย่างเสร็จแล้วเหลือแค่หยอดเหรียญปรากฏว่าเจ้าของภาพโผล่ออกมา บอกว่าเอาผ้าของเขาออกมาทำไม เขายังไม่ได้ซักเลย โดยอ้างเหตุผลว่าเขาแค่ออกไปซื้อน้ำยาซักผ้าแค่แป๊บเดียว ไม่เห็นหรอว่าผ้ามันยังไม่ได้ซัก คุณจะเอาออกมาอย่างนี้ไม่ได้ ผมก็ให้เหตุผลเขาไปว่า ผมไม่รู้ว่าผ้ายังไม่ได้ซัก แล้วก็เห็นว่าไม่ได้มีเจ้าของคอยเฝ้าอยู่ ซึ่งทุกคนก็ควรจะรู้นะครับว่า การที่ผ้ายังไม่ได้ซักแต่เอาเข้าตู้ไปแล้วก็ต้องมีคนคอยดำเนินการอยู่ตลอดนะครับ แต่เขาก็เถียงไปอย่างนั้นบอกว่าเขายังไม่ได้ซักเขาแค่ไปซื้อน้ำยาจากร้านสะดวกซื้อและกำลังจะกลับมา แล้วอย่างนี้ผมควรทำยังไงผมบอกเขาไป เขาบอกให้ผมเอาผ้าออกเขาจะซักผ้า ผมบอกเขาว่าผมใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มและน้ำยาซักไปแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่รู้แต่เขาบอกว่าผมต้องเอาผ้าออกเพราะเขายังไม่ได้ซัก เถียงกันไปเถียงกันมา ผมก็บอกว่าผมไม่อยากมีปัญหา ก็เลยโทรแจ้งเจ้าของร้าน โดยที่เจ้าของร้านก็เหมือนไม่อยากมีปัญหาเช่นกันก็เลยบอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผมแทน ซึ่งผมก็ไม่อยากมีปัญหาเหมือนกันก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรก็ได้ แล้ววันนี้ผมก็ได้เสียทั้งเวลาไปอีก 1 ชั่วโมงแล้วก็เสียทั้งเงินไปอีก 100 กว่าบาท เพราะต้องจ่ายค่าน้ำยาซักและน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ต่อมาได้รู้ทีหลังว่า แต่ละตู้ที่ไม่ว่างนั้นก็เป็นเสื้อผ้าของเขาเช่นกันแต่ ยังไม่ได้หยอดเหรียญดำเนินการเลย ผมจึงถามเขา เขาก็ให้เหตุผลว่าเขาจะรอหยอดเหรียญพร้อมกันเพื่อที่จะได้เสร็จพร้อมกัน ทุกคนว่าการกระทำแบบนี้ของคนๆหนึ่งเป็นการเอาเปรียบคนอื่นมากไปหรือเปล่าครับ แล้วคนที่มีปัญหากับผมก็อายุน่าจะราวสัก 50+ได้คงจะเป็นพ่อคนหรือเป็นคุณตาคุณปู่ได้แล้วนะครับส่วนผมอายุแค่ 20 เอง
ทุกคนว่ายังไงกันครับขอความเห็นหน่อย
มีเรื่องอยากจะถามทุกคนครับ ขอความเห็นของทุกคนเกี่ยวกับการซักผ้าในร้านสะดวกซัก
เรื่องพึ่งเกิดสดๆร้อนๆเลยครับวันนี้
เกี่ยวการซักผ้าที่ร้านซักผ้า พอดีว่าวันนี้ฝนตกผมก็เลยต้องออกไปซักที่ร้านซักผ้าพร้อมกับจะอบผ้าด้วย ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน พอเข้าไปในร้าน ไม่มีใครสักคนอยู่เลย แต่ละตู้เต็มทุกตู้ แต่มีอยู่ตู้นึงมีเสื้อผ้าอยู่แต่ไม่ปิดตู้ ผมก็คิดว่ามันซักเสร็จแล้วแต่ยังไม่มีคนมาเอาออก พอไปจับเสื้อผ้าก็พบว่ายังแห้งอยู่ ก็คิดว่าอาจจะซักผ้าอุณหภูมิร้อน หรือน้ำอุ่น เพราะผมก็ไม่ได้มาซักบ่อยเท่าไหร่ ตอนแรกก็ไม่กล้าเอาผ้าออกหรอกครับ เราก็ดูตามป้ายที่ร้านเขาแนะนำ ว่ามีป้ายแนะนำเขียนว่า หากถ้าไม่มีเจ้าของสามารถนำมาใส่ตะกร้าพักไว้ก่อนได้ เราก็เลยตัดสินใจทำตาม เพราะเห็นว่ายังไม่มีคนมาดำเนินการต่อ จากนั้นผมก็นำผ้าที่ยังไม่ได้ซักของผมเข้าตู้ เติมน้ำยาซักน้ำยาปรับผ้านุ่มเรียบร้อยเหลือเพียงแค่หยอดเหรียญ ตู้ที่ผมซักมันเป็นตู้ขนาด 20 กิโลนะครับ ผมทำทุกอย่างเสร็จแล้วเหลือแค่หยอดเหรียญปรากฏว่าเจ้าของภาพโผล่ออกมา บอกว่าเอาผ้าของเขาออกมาทำไม เขายังไม่ได้ซักเลย โดยอ้างเหตุผลว่าเขาแค่ออกไปซื้อน้ำยาซักผ้าแค่แป๊บเดียว ไม่เห็นหรอว่าผ้ามันยังไม่ได้ซัก คุณจะเอาออกมาอย่างนี้ไม่ได้ ผมก็ให้เหตุผลเขาไปว่า ผมไม่รู้ว่าผ้ายังไม่ได้ซัก แล้วก็เห็นว่าไม่ได้มีเจ้าของคอยเฝ้าอยู่ ซึ่งทุกคนก็ควรจะรู้นะครับว่า การที่ผ้ายังไม่ได้ซักแต่เอาเข้าตู้ไปแล้วก็ต้องมีคนคอยดำเนินการอยู่ตลอดนะครับ แต่เขาก็เถียงไปอย่างนั้นบอกว่าเขายังไม่ได้ซักเขาแค่ไปซื้อน้ำยาจากร้านสะดวกซื้อและกำลังจะกลับมา แล้วอย่างนี้ผมควรทำยังไงผมบอกเขาไป เขาบอกให้ผมเอาผ้าออกเขาจะซักผ้า ผมบอกเขาว่าผมใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มและน้ำยาซักไปแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่รู้แต่เขาบอกว่าผมต้องเอาผ้าออกเพราะเขายังไม่ได้ซัก เถียงกันไปเถียงกันมา ผมก็บอกว่าผมไม่อยากมีปัญหา ก็เลยโทรแจ้งเจ้าของร้าน โดยที่เจ้าของร้านก็เหมือนไม่อยากมีปัญหาเช่นกันก็เลยบอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผมแทน ซึ่งผมก็ไม่อยากมีปัญหาเหมือนกันก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรก็ได้ แล้ววันนี้ผมก็ได้เสียทั้งเวลาไปอีก 1 ชั่วโมงแล้วก็เสียทั้งเงินไปอีก 100 กว่าบาท เพราะต้องจ่ายค่าน้ำยาซักและน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ต่อมาได้รู้ทีหลังว่า แต่ละตู้ที่ไม่ว่างนั้นก็เป็นเสื้อผ้าของเขาเช่นกันแต่ ยังไม่ได้หยอดเหรียญดำเนินการเลย ผมจึงถามเขา เขาก็ให้เหตุผลว่าเขาจะรอหยอดเหรียญพร้อมกันเพื่อที่จะได้เสร็จพร้อมกัน ทุกคนว่าการกระทำแบบนี้ของคนๆหนึ่งเป็นการเอาเปรียบคนอื่นมากไปหรือเปล่าครับ แล้วคนที่มีปัญหากับผมก็อายุน่าจะราวสัก 50+ได้คงจะเป็นพ่อคนหรือเป็นคุณตาคุณปู่ได้แล้วนะครับส่วนผมอายุแค่ 20 เอง
ทุกคนว่ายังไงกันครับขอความเห็นหน่อย