JJNY : หมอดังยกข้อมูลจากญี่ปุ่น│เพื่อไทยซัดตู่ เหยียบเรือสองแคม│'คนก้าวไกล'เผยร้องถูกขรก.ทร.หลอก│รัสเซีย “ชวนเชื่อ” รัวๆ

หมอดังยกข้อมูลจากญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นว่า ต้องไม่ประมาทโควิด-19 แม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนมากแล้วก็ตาม
https://www.nationtv.tv/news/social/378899057
 
 
หมอธีระ อัปเดตสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 324,196 คน ตายเพิ่ม 745 คน รวมแล้วติดไป 668,619,304 คน เสียชีวิตรวม 6,713,594 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และเม็กซิโก

อีกความเคลื่อนไหวทางด้านวิชาการ ล่าสุดทางด้าน ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ผ่านทางเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โดยระบุว่า

วันที่ 9 มกราคม 2566
 
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...
  
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 324,196 คน ตายเพิ่ม 745 คน รวมแล้วติดไป 668,619,304 คน เสียชีวิตรวม 6,713,594 คน
 
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และเม็กซิโก
 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 92.03 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 86.97
 
...มองสถานการณ์ระบาดในญี่ปุ่น
ระลอกล่าสุดเป็นระลอกที่ 8
 
สะท้อนให้เห็นว่า Omicron ไม่กระจอก เพราะทำให้เกิดการติดเชื้อจำนวนมากกว่าสองแสนคนต่อวัน แม้จะน้อยกว่าระลอก 7 อยู่บ้าง แต่กลับทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันมีสถิติสูงกว่าทุกระลอกที่เคยมีมา
ลองดูสถิติในกรุงโตเกียวเช้านี้
 
โรงพยาบาลรับผู้ป่วยโควิด-19 นอนรักษาตัวไปแล้วกว่า 55%
วันที่ผ่านมาติดเชื้อในโตเกียวไปมากกว่า 15,000 คน โดยเป็นคนสูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปเพียง 1,800 กว่าคนเท่านั้น และเสียชีวิตไป 28 คน
ในขณะที่อัตราการได้รับวัคซีนของประชากรในกรุงโตเกียวนั้น มีคนรับเข็มสามไปราว 66% และได้รับ 1-2 โดสไปราว 78%

...ข้อมูลที่เห็นจากประเทศญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นว่า ต้องไม่ประมาทโควิด-19 แม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนมากแล้วก็ตาม
จะสังเกตว่าข้อมูลจาก Ourworldindata ชี้ให้เห็นว่า อัตราการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นดูจะมากกว่าไทย
การระบาดหนักที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นน่าจะเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ ความหนาแน่นประชากร รวมถึงการเปิดรับการท่องเที่ยวโดยมีคนเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก
  
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตให้ดี จะพบว่า จำนวนการเสียชีวิตส่วนเกินจากทุกสาเหตุ (excess mortality) ของไทยนั้นสูงกว่าญี่ปุ่นมาก อาจสะท้อนให้เราต้องตระหนักถึงสถานการณ์จริงในประเทศว่า จำนวนการติดเชื้อ ป่วย และเสียชีวิตทั้งที่มาจากโควิดโดยตรงและที่ติดเชื้อโควิดร่วมกับการมีโรคประจำตัวนั้นอาจสูงกว่าที่เห็นในรายงานประจำสัปดาห์
 
ยิ่งหากเปิดรับท่องเที่ยวจากประเทศระบาดหนักอย่างเต็มรูปแบบ โอกาสเกิด influx ของผู้ที่ติดเชื้อทั้งที่รู้และไม่รู้ตัว ย่อมทำให้จำนวนการติดเชื้อในพื้นที่สูงขึ้น และจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อภายในประเทศมากขึ้นในระยะเวลาไม่นาน
 
...ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตระหนักถึงสถานการณ์รอบตัว ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ ระหว่างทำงาน เรียน หรือเดินทางท่องเที่ยว จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
  
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02xjUoGGjicrMMtAF6gnKZSavsXTrx9dVoNeDK5WfyyKFMP9phnPjanybnkwFEVN1jl
  


เพื่อไทย ซัด บิ๊กตู่ เหยียบเรือสองแคม แบบอย่างไม่ดี จี้ตัดขาดพปชร. ลาออกนายก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7450229
 
เพื่อไทย ตอก บิ๊กตู่ เหยียบเรือสองแคม เป็นสมาชิก รทสช.ที่เป็นนายกฯของ พลังประชารัฐ แนะลาออก หวั่นเป็นแบบอย่างไม่ดีกับนักการเมืองรุ่นหลัง
 
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2566 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ในวันนี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า การจัดอีเวนต์ใหญ่โตเพียงแค่ต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ เข้าพรรค ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้คะแนนนิยมดีขึ้น
 
ตรงกันข้ามจะเกิดคำถามตามมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการตามครรลองครองธรรมของการเมืองที่ควรจะเป็นหรือไม่ หรือสร้างสิ่งแปลกประหลาดขึ้นมาใหม่ให้ผู้คนติฉินนินทา เหมือนการแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็น เลขาธิการนายกฯ
 
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านขั้นตอนตามปกติ คงเข้ามาเป็นเพียงสมาชิกพรรค ที่มีเลขาฯของตัวเอง เป็นหัวหน้าพรรคตัวเอง จนไม่รู้ใครเป็นหัวหน้าใคร มีระบบพรรคกที่ไหนที่ให้สมาชิกพรรคคนหนึ่ง มีบทบาทเหนือกว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารทุกคน
 
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า เกือบ 4 ปีพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่ถูกเสนอชื่อจากพรรคนี้ให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในทางพฤตินัยย่อมหมายถึงสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความสำคัญยิ่งใหญ่กว่าการเป็นสมาชิก หาก พลังประชารัฐไม่เสนอชื่อ เป็นไปได้หรือที่จะนั่งเก้าอี้นายกฯ
 
มาวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจะมีผลตามกฎหมาย ขณะที่ในทางพฤตินัยยังตัดไม่ขาดจากพรรคพลังประชารัฐ เท่ากับพล.อ.ประยุทธ์ เหยียบเรือสองแคมหรือไม่ ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีทางการเมือง หรือเป็นแบบอย่างของพรรคที่พึงปฏิบัติ
 
เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ควรตัดขาดกับพลังประชารัฐ ด้วยการลาออกจากการเป็นนายกฯ เพื่อไม่ให้มีพันธะผูกพันกับพรรคเดิม จากนั้นจะไปร่วมหัวจมท้ายกับรวมไทยสร้างชาติ อย่างไรก็ทำได้ตามใจชอบ เพื่อไม่สร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีให้กับคนทำงานการเมืองรุ่นต่อไป” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
 

  ถูกขรก.ทร.หลอกเอาเงิน
'คนก้าวไกล' เผยมี ปชช.ร้อง ถูกข้าราชการกองทัพเรือหลอกเอาเงิน อ้างฝากเข้าราชการ ก่อนเบี้ยวเชิดเงินหนี
https://prachatai.com/journal/2023/01/102201

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลาดพร้าวก้าวไกล เผยประชาชนร้องเรียน ถูกข้าราชการกองทัพเรือหลอกเอาเงิน อ้างฝากเข้าราชการ ก่อนเบี้ยวเชิดเงินหนี เชื่อมีหลายคนตกเป็นเหยื่อ พร้อมยกนโยบายก้าวไกลแก้ทุจริต กำจัดปัญห
 
9 ม.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงาน ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง พรรคก้าวไกล เปิดเผยกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการฉ้อโกง โดยมีข้าราชการกองทัพเรือที่ใช้ยศ “ว่าที่นาวาตรี” คนหนึ่ง เรียกรับเงินโดยอ้างว่าสามารถฝากให้คนเข้าทำงานหรือสอบเข้าราชการได้ ต่อมาเมื่อไม่สามารถทำตามที่สัญญา ก็ไม่ยอมจ่ายเงินคืน
 
ธนเดช กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดข้อร้องเรียน กรณีแรก เป็นของบุคคลชื่อ ว. (นามสมมุติ) ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ต้องการสมัครเข้าทำงานที่การไฟฟ้านครหลวง ต่อมามีคนชักชวนว่าสามารถช่วยให้เข้าทำงานดังกล่าวได้ ก่อนพาไปรู้จักกับว่าที่นาวาตรีคนนี้ ซึ่งได้ขอเรียกเงินค่าดำเนินการ 230,000 บาท พร้อมกับทำสัญญากู้ยืมเงิน จนผ่านไปหนึ่งเดือน เมื่อคนชื่อ ว. ทวงถามถึงการพาไปสมัครงาน ก็ถูกว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงเลื่อนนัดมาเรื่อย ๆ จนรู้ตัวว่าถูกโกงเงินเข้าแล้ว และได้ติดต่อไปขอเงินคืน แต่ว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าวเลื่อนบ่ายเบี่ยง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว
 
ธนเดช กล่าวต่อว่า กรณีที่สอง เป็นของบุคคลชื่อ ท. (นามสมมุติ) ซึ่งได้พาหลานชายไปสมัครสอบเข้านักเรียนจ่าทหารเรือเมื่อปี 2564 ระหว่างที่รอสอบอยู่ ว่าที่นาวาตรีคนเดียวกันได้เข้ามาชักจูงว่ามีเส้นสาย สามารถช่วยให้สอบผ่านการคัดเลือกได้ จึงได้ทำสัญญากู้ยืมเงินพร้อมนำเงินสดจำนวน 500,000 บาทมามอบให้ โดยฝ่ายว่าที่นาวาตรีได้ขอเลขประจำตัวผู้เข้าสอบของหลานชายไป อ้างว่าจะดำเนินการให้ แต่เมื่อผลการสอบออกมา ปรากฏว่าหลานชายไม่ผ่านการสอบรอบแรก จึงได้ติดต่อขอเงินคืนจากว่าที่นาวาตรีคนนั้น แต่ถูกบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่ทวงถามจนถึงทุกวันนี้
 
ธนเดช กล่าวว่า ทั้งสองกรณีคล้ายกันมาก ทั้งเรื่องการอ้างว่าช่วยให้เข้าทำงานหรือสอบเข้าหน่วยงานราชการต่างๆ ได้ มีลักษณะการให้ทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อให้เหยื่อไว้วางใจ เมื่อไม่เป็นไปตามสัญญาก็บ่ายเบี่ยงเลื่อนคืนเงินไปเรื่อย ๆ เชื่อว่า 2 กรณีนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผู้ที่ถูกหลอกหลวงโดยว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าว น่าจะยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยร้องเรียนกับใคร ซึ่งตนพร้อมเป็นตัวกลางนำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงระบบในระยะยาวโดยนโยบายของพรรคก้าวไกล เช่น นโยบาย ‘แฉโกง ปลอดภัย ได้เงิน’ ที่จะเพิ่มรางวัลแก่ประชาชนที่ชี้เบาะแสการทุจริต หรือ นโยบาย ‘คนโกงวงแตก’ ที่ทำให้คนที่คิดจะร่วมกันโกง เช่น คนจ่ายกับคนรับสินบน ระแวงกันจนไม่มีใครกล้าร่วมกันโกง เพราะนโยบายนี้จะออกกฎคุ้มครองคนที่ออกมาแฉหรือให้ข้อมูลก่อน ด้วยการกันไว้เป็นพยาน
 
ขบวนการที่อ้างว่าฝากบุคคลเข้าทำงานและสอบเข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ แลกกับเงินในลักษณะนี้ ไม่ได้มีแค่ว่าที่นาวาตรีคนนี้แน่ ๆ สะท้อนถึงช่วงโหว่ในระบบราชการที่ทำให้ระบบฝากคนเข้ากลายเป็นเรื่องปกติ มีข้าราชการแสวงหาผลประโยชน์ จึงอยากฝากพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อหรือส่งเสริมระบบเช่นนี้ เพราะเป็นสิ่งที่กัดกินระบบราชการให้เต็มไปด้วยการทุจริต ผมคิดว่าปัญหานี้ต้องทำให้หมดไปในอนาคต หากเราอยากเห็นประเทศไทยที่ดีขึ้น ทุกคนต้องยุติระบบนี้ร่วมกัน” ธนเดชระบุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่