.
โดย : ชลัน
๑๓
__________________________
เมื่อทุกคนทราบว่าพี่ใหญ่ฟื้นแล้วก็แวะเวียนกันมาเยี่ยมไม่ขาด ทั้งญาติ ๆ และก็เพื่อน ๆ ของพี่ใหญ่เอง ฉันอยู่เฝ้าพี่ใหญ่ครบสามวันตามที่ได้ลาพักร้อนไว้ จึงเปลี่ยนเป็นคุณยายที่มาอยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่แทนฉัน
คุณยายไม่ยอมให้คุณแม่จ้างพยาบาลพิเศษดูแล อาสาเฝ้าเอง แม้คุณยายจะเกลียดบรรยากาศของโรงพยาบาลมากแค่ไหนก็ตาม ก็ยังอาสาอยู่เฝ้าไข้หลานชาย ส่วนฉันกลับมาทำงานดังเดิม สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ฉันจะไปเปลี่ยนคุณยายเฝ้าพี่ใหญ่ตามเดิม
"พี่ชายเราเป็นยังไงบ้างกัญตา ใกล้ได้กลับบ้านยัง" พี่แนนถามฉันระหว่างเก็บของกลับบ้าน
"ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะได้กลับบ้านวันไหน วันนี้ตาก็ว่าจะไปเฝ้าเปลี่ยนกับคุณยาย" ฉันพูดและยิ้มให้กับรุ่นพี่ พี่ก้อยกับพี่อ้อมที่คอยฟังด้วยก็พยักหน้า ทุกคนทราบข่าวพี่ใหญ่ต่างก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยผ่านฉัน เพราะเคยเจอพี่ใหญ่อยู่บ้าง พี่แนนอายุเท่าพี่ใหญ่ รู้จักกับพี่ใหญ่เพราะเรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทกันเท่าที่ควร
"ฝากความห่วงใยไปหาด้วยนะ ในฐานะเคยเรียนร่วมชั้นกัน ครั้นจะไปเยี่ยมก็รู้สึกยังไงไม่รู้ ไม่ใช่เพื่อนสนิทเขา" พี่แนนว่า ยิ้มระเรื่อแลดูน่ารักที่สุด ถึงว่าพี่อาร์มแผนกกองช่างหลงใหล เที่ยวแวะเวียนมาขายขนมจีบอยู่รำไรฉันมองพี่แนนแล้วนึกในใจ "ไม่รู้จำพี่ได้หรือเปล่า ตั้งแต่จบ ม.6 ก็แยกย้ายกัน"
"จำได้! พี่ใหญ่ยังเคยพูดถึงพี่แนนให้ตาฟังเลย ว่าสมัยเรียนโก๊ะ ๆ เฉิ่ม ๆ เด็กเรียน" ฉันพูดแล้วก็หัวเราะพี่แนนที่ทำตาโต คงเขินที่โดนพี่ใหญ่ว่า "เดี๋ยวตาบอกให้นะว่าพี่แนนฝากความห่วงใยมาให้"
"กิ๊กเก่าสมัยวัยละอ่อนเหรอจ๊ะแนนนี่" พี่ก้อยแซวพี่แนนอีกคน ฉันกับพี่อ้อมยิ้มขำให้ทั้งสองคนที่กำลังล้อเลียนกัน
"ไม่ใช่ค่ะพี่ก้อย เพื่อนร่วมรุ่นน่ะ เรียนคนละห้องกัน แค่รู้จักเฉย ๆ" พี่แนนว่า
"ตาว่าเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ วันนี้ตารีบ ขอกลับตรงเวลาเป๊ะ ๆ นะ" พอฉันพูดแบบนี้ทุกคนก็ขำอีก ปกติจะล่วงเวลากันนิด ๆ พี่ก้อยเองถ้าไม่มีเรื่องพี่ทีรุฒน์กับพี่อุ่น พี่ก้อยก็น่ารักกับฉันมาก ๆ อย่างตอนนี้
ระหว่างที่ฉันกุลีกุจอเก็บของ พี่ทีรุฒน์ก็ออกมาจากห้องทำงานพอดี ฉันไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามาคุยด้วยหรือสอบถามอะไร อีกทั้งไม่อยากเจอสายตาค้อนของพี่ก้อยด้วย ฉันจึงรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป ทำเหมือนว่ารีบมาก ๆ
"ไม่รู้จะรีบอะไรนักหนานะกัญตา" ฉันได้ยินแว่ว ๆ ตามหลัง พี่อ้อมบ่นฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้หันไปมองเลยว่าพี่ทีรุฒน์จะมีท่าทางแบบไหน
กลับมาถึงบ้านฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวเก็บกระเป๋าไปเฝ้าไข้พี่ใหญ่ วันอาทิตย์ตอนเย็นฉันถึงจะกลับมา เก็บกระเป๋าเสร็จก็รีบบึ่งรถไปโรงพยาบาลทันที
"กัญตามาแล้ว แม่กับยายจะกลับบ้านแล้วนะคราวนี้ คุณยายบ่นอยากกลับบ้านจะแย่" คุณแม่พูดกับลูกชาย "ให้เฝ้าแล้วทำบ่น ทีบอกให้จ้างพยาบาลไม่ยอม" คุณแม่ทำเป็นต่อว่าคุณยายไปอีก แต่ปนไปด้วยอารมณ์ขบขัน
"ไม่จ้างหรอก เดี๋ยวดูแลหลานฉันไม่ดี" คุณยายว่า ฉันกับคุณแม่ยิ้มกับท่าทางของคุณยาย
"คุณแม่แล้วกัญญาจะกลับบ้านมั้ยศุกร์นี้" ฉันถามถึงน้องสาว พักนี้เรื่องงานยุ่ง ๆ บวกกับเรื่องพี่ใหญ่ฉันไม่ค่อยได้คุยกับน้องสาวนัก ปกติกัญญาจะต้องกลับมาบ้านเย็นวันศุกร์แล้วโทรบอกให้ฉันไปรับ ทว่าศุกร์นี้กลับเงียบสนิท
"เมื่อเช้าโทรมาบอกแม่ว่าจะมาพรุ่งนี้เช้าน่ะ เห็นว่าที่มหาวิทยาลัยมีกิจกรรม" คุณแม่ตอบ ฉันพยักหน้าเข้าใจ "งั้นแม่กับยายกลับแล้วนะ สองคนพี่น้องดูแลกันดี ๆ" คุณแม่เอ่ยขอตัว เพราะนี่ก็จวนจะค่ำแล้ว ขืนยังทำโอ้เอ้มีหวังมืดก่อนถึงบ้านแน่ ๆ
"แข็งแรงเร็ว ๆ นะใหญ่ ยายเบื่อโรงพยาบาลจะแย่" คุณยายพูดกับหลานชาย
"ครับ... ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องเฝ้าก็ได้"
"ไม่ได้หรอก ยายเป็นห่วง" คุณยายว่า
"ห่วงแต่หลานชาย หลานสาวไม่เห็นห่วงเลย" ฉันแกล้งงอนคุณยาย
"หลานสาวยายก็ห่วง แต่ห่วงคนละแบบไม่เหมือนกัน"
"อ้าวแล้วหลานสาวห่วงยังไงอ่ะ" ฉันถามปนหัวเราะ จะแกล้งให้คุณยายจนมุมให้ได้
"จะมาถามอะไรเซ้าซี้ ยายจะกลับแล้ว ปะละมุนกลับ มัวแต่ชวนยายคุยอยู่นั่นล่ะ" คุณยายรบเร้าเร่งคุณแม่ ไม่ยอมตอบคำถามที่ฉันถามเลย
"โถ่... เดินทางดี ๆ ขับรถดี ๆ นะคะ" ฉันอวยพร
"แม่กลับแล้วนะใหญ่ จะเอาอะไรให้น้องโทรบอก พรุ่งนี้แม่จะเอามาให้" คุณแม่กล่าวลาพี่ใหญ่อีกรอบ พี่ใหญ่พยักหน้า จากนั้นคุณแม่กับคุณยายก็ออกจากห้องไป เหลือเพียงฉันกับพี่ชายสองคน
เช้าวันเสาร์ฉันตื่นนอนแต่เช้ารีบจัดการตัวเอง เผื่อมีใครมาเยี่ยมพี่ใหญ่จะได้ไม่ดูน่าเกียจ และเช็ดตัวเปลี่ยนชุดให้พี่ใหญ่ วันนี้ไม่รู้ใครจะแวะมาบ้าง ส่วนคุณพ่อตั้งแต่พี่ใหญ่ฟื้นก็เว้นระยะมาเยี่ยม ไม่มาถี่เหมือนช่วงแรก ๆ
ฉันก็อยากให้คุณพ่อเว้นระยะเหมือนกัน เป็นห่วงท่านที่ต้องเดินทางมาไกล ๆ เพราะบ้านของคุณพ่อไม่ได้อยู่ที่นี่ ถึงจะใกล้กันแต่ระยะทางขับรถไปกลับก็ไม่ใช่น้อย ๆ เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน ฉันเป็นห่วงท่าน
ฉันปรับเตียงนอนให้พี่ใหญ่อยู่ในท่าเอนหลัง กึ่ง ๆ นั่ง จะได้สบายตัว จากที่นอนมาทั้งคืน แปดโมงมีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอก ฉันกับพี่ใหญ่เราหันไปมองที่ประตู เดาว่าจะเป็นใครมา จากนั้นฉันก็เดินไปส่องดูว่าใครมา ปรากฏว่าคนที่มาเยี่ยมพี่ใหญ่คนแรกคือกัญญากับนายภีม ฉันกะแล้วเชียว ที่กัญญาไม่กลับบ้านวันศุกร์คงจะด้วยสาเหตุนี้ อยากกลับมาพร้อมนายภีม
ก่อนเปิดประตูฉันหันไปมองพี่ชาย "กัญญามา" ฉันบอกพี่ใหญ่ เขาพยักหน้ารับทราบ "กับนายภีมนะ" ฉันเว้นวรรคพูด ฉันยิ้มบางให้กับพี่ชาย นาทีนี้ถึงไม่พอใจก็คงทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามา
"พี่ใหญ่สวัสดีครับ พี่ตาสวัสดีครับ" ญาติผู้น้องของฉันกล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้ ตามด้วยกัญญาที่เอ่ยทักทายอีกคน ก่อนจะเอากระเช้าผลไม้ไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว พี่ใหญ่ไม่ได้มีท่าทีอะไร คงเหนื่อยที่จะต่อล้อต่อเถียง ด้วยสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยด้วย ถึงกระนั้นก็ยังมีแรงประชดน้องสาวคนเล็กได้
"นี่เหรอเหตุผลที่ไม่กลับบ้านเย็นวันศุกร์น่ะ" พี่ใหญ่ถามกัญญา
"เปล่า! ญามีกิจกรรมจริง ๆ หลักฐานก็มี ญารู้อยู่แล้วว่าทุกคนต้องไม่เชื่อ ก็เลยถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จะดูมั้ย" กัญญาค้านพี่ใหญ่
"ไม่อ่ะ...ไม่ดู" พี่ใหญ่ปฏิเสธ ขณะที่กัญญายื่นโทรศัพท์ให้ ฉันขำเบา ๆ เจ็บขนาดนี้ยังจะหาเรื่องคนอื่นอีก นายภีมก็ยิ้มขำไปกับฉันด้วย
"ผมเปล่านะ! วันนี้ผมตั้งใจจะมาเยี่ยมพี่อยู่แล้ว เราไม่ได้มาด้วยกันหรอกพี่ใหญ่สบายใจได้ เรานัดมาเจอกันที่โรงพยาบาลแทน วันศุกร์ผมกลับบ้านก่อนกัญญา ไม่ได้ทำกิจกรรม" นายภีมอธิบายบ้าง
"ฉันเชื่อพวกแกมากมั้ง" พี่ใหญ่ว่า
"ตามใจ..." ญาติผู้น้องของฉันพูดลอยหน้าลอยตา "แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง ใกล้จะได้กลับบ้านยัง เมื่อไหร่จะหาย นอนแต่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เบื่อตายชัก"
"อือ ก็ดีขึ้นมากแล้ว นี่ฉันรถคว่ำนะไม่ได้หกล้มที่จะหายวันสองวัน อีกอย่างฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก ยังจะอยู่ขัดขวางพวกแกได้อีกนาน" พี่ใหญ่ว่านายภีม ฉันแอบค้อนพี่ชายที่พูดแบบนั้น คนเขามีน้ำใจมาเยี่ยม ยังไม่วายลดทิฐิ นายภีมหัวเราะ ไม่ถือสากับคำพูดของพี่ใหญ่เลย
"ดีเลย รับรองพี่ใหญ่ได้เห็นงานแต่งของผมกับกัญญาแน่ ๆ"
"ภีม..." กัญญาปรามญาติผู้น้องของฉัน "พูดอะไร" กัญญาทำตัวให้นิ่งและเงียบที่สุด มีเพียงนายภีมที่ต่อปากต่อคำกับพี่ชายของฉัน
"แล้วทานอะไรมาหรือยังล่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มาเยี่ยมฉัน" พี่ใหญ่พูด แบบนี้สิถึงจะดูน่ารัก
"โถ่ ก็พี่แฟน เอ้ย! พี่ชายผมนอนโรงพยาบาลทั้งคนนี่นาจะไม่ให้มาเยี่ยมได้ไง" นายภีมก็ยังไม่เลิกยั่วโมโหพี่ใหญ่ คงเห็นว่าตอนนี้ได้เปรียบ เพราะพี่ใหญ่ลุกมาเล่นงานไม่ได้ "ผมน่ะทานมาจากบ้านแล้ว ส่วนกัญญาน่าจะยัง เอ่อคุณย่าบอกตอนเย็น ๆ จะแวะมาหาพี่ด้วย"
"อือ" พี่ใหญ่พยักหน้า แล้วเงียบไป คงเหนื่อยและอยากพักผ่อน ฉันลดระดับหัวเตียงลงให้เป็นแนวขนานกับพื้นห้อง พี่ใหญ่จะได้นอนสบาย "กัญญาหิวก็หาอะไรทานเลยนะ ในตู้เย็นมีอะไรบ้าง"
"กัญญาจะทานอะไร ภีมจะทานอะไรเดี๋ยวพี่สั่งให้" ฉันถาม
"ผมไม่ต้องก็ได้ ทานมาแล้ว กัญญาเถอะจะทานอะไร" กัญญาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจได้ว่าจะทานอะไรในมื้อเช้า ทว่านายภีมอาสาเป็นคนลงไปซื้อให้ ไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวมากมาย
ระหว่างวันนายภีมกับกัญญาก็เป็นคนปรนนิบัติพี่ใหญ่แทนฉัน ไม่ว่าจะเช็ดตัวหรือทำอะไรก็แล้วแต่ พี่ใหญ่ไม่ได้ปฏิเสธเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ฉันอยากให้ความสัมพันธ์ของพี่ใหญ่กับนายภีมกลับมาเป็นเหมือนตอนเด็ก ๆ แต่ก็เข้าใจว่านายภีมรักกัญญา ยากที่จะสั่งให้ตัดใจ อีกทั้งคนของฉันด้วย กัญญาเองก็คงยากที่จะตัดใจเหมือนกัน ทั้งสองคนรักกัน รักมานานมาก อยากให้คุณแม่และพี่ใหญ่เปิดใจเหลือเกิน
นายภีมกับกัญญาบอกพี่ใหญ่ว่าจะอยู่ด้วยทั้งวัน พี่ใหญ่ก็ไม่ขัด ระหว่างนั้นจู่ ๆ ก็มีคนมาเยี่ยมพี่ใหญ่อีกคน ซึ่งเป็นคนที่ฉันไม่คาดว่าจะมา แม้เขาอาจจะเคยพูดเอาไว้ก็ตาม นั่นคือพี่ทีรุฒน์ ฉันเกรงใจพี่ชายมากกว่าการมาของนายภีมเสียอีก ฉันถอนหายใจก่อนที่จะเปิดประตูเชิญเขาเข้ามา ก็ยังดีที่พี่ทีรุฒน์มาคนเดียว พี่อุ่นไม่ตามมาด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงทำตัวไม่ถูก
จบบทที่ ๑๓
เท่าที่ใจจะรักได้ (13)
.
โดย : ชลัน
๑๓
__________________________
เมื่อทุกคนทราบว่าพี่ใหญ่ฟื้นแล้วก็แวะเวียนกันมาเยี่ยมไม่ขาด ทั้งญาติ ๆ และก็เพื่อน ๆ ของพี่ใหญ่เอง ฉันอยู่เฝ้าพี่ใหญ่ครบสามวันตามที่ได้ลาพักร้อนไว้ จึงเปลี่ยนเป็นคุณยายที่มาอยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่แทนฉัน
คุณยายไม่ยอมให้คุณแม่จ้างพยาบาลพิเศษดูแล อาสาเฝ้าเอง แม้คุณยายจะเกลียดบรรยากาศของโรงพยาบาลมากแค่ไหนก็ตาม ก็ยังอาสาอยู่เฝ้าไข้หลานชาย ส่วนฉันกลับมาทำงานดังเดิม สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ฉันจะไปเปลี่ยนคุณยายเฝ้าพี่ใหญ่ตามเดิม
"พี่ชายเราเป็นยังไงบ้างกัญตา ใกล้ได้กลับบ้านยัง" พี่แนนถามฉันระหว่างเก็บของกลับบ้าน
"ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะได้กลับบ้านวันไหน วันนี้ตาก็ว่าจะไปเฝ้าเปลี่ยนกับคุณยาย" ฉันพูดและยิ้มให้กับรุ่นพี่ พี่ก้อยกับพี่อ้อมที่คอยฟังด้วยก็พยักหน้า ทุกคนทราบข่าวพี่ใหญ่ต่างก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยผ่านฉัน เพราะเคยเจอพี่ใหญ่อยู่บ้าง พี่แนนอายุเท่าพี่ใหญ่ รู้จักกับพี่ใหญ่เพราะเรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทกันเท่าที่ควร
"ฝากความห่วงใยไปหาด้วยนะ ในฐานะเคยเรียนร่วมชั้นกัน ครั้นจะไปเยี่ยมก็รู้สึกยังไงไม่รู้ ไม่ใช่เพื่อนสนิทเขา" พี่แนนว่า ยิ้มระเรื่อแลดูน่ารักที่สุด ถึงว่าพี่อาร์มแผนกกองช่างหลงใหล เที่ยวแวะเวียนมาขายขนมจีบอยู่รำไรฉันมองพี่แนนแล้วนึกในใจ "ไม่รู้จำพี่ได้หรือเปล่า ตั้งแต่จบ ม.6 ก็แยกย้ายกัน"
"จำได้! พี่ใหญ่ยังเคยพูดถึงพี่แนนให้ตาฟังเลย ว่าสมัยเรียนโก๊ะ ๆ เฉิ่ม ๆ เด็กเรียน" ฉันพูดแล้วก็หัวเราะพี่แนนที่ทำตาโต คงเขินที่โดนพี่ใหญ่ว่า "เดี๋ยวตาบอกให้นะว่าพี่แนนฝากความห่วงใยมาให้"
"กิ๊กเก่าสมัยวัยละอ่อนเหรอจ๊ะแนนนี่" พี่ก้อยแซวพี่แนนอีกคน ฉันกับพี่อ้อมยิ้มขำให้ทั้งสองคนที่กำลังล้อเลียนกัน
"ไม่ใช่ค่ะพี่ก้อย เพื่อนร่วมรุ่นน่ะ เรียนคนละห้องกัน แค่รู้จักเฉย ๆ" พี่แนนว่า
"ตาว่าเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ วันนี้ตารีบ ขอกลับตรงเวลาเป๊ะ ๆ นะ" พอฉันพูดแบบนี้ทุกคนก็ขำอีก ปกติจะล่วงเวลากันนิด ๆ พี่ก้อยเองถ้าไม่มีเรื่องพี่ทีรุฒน์กับพี่อุ่น พี่ก้อยก็น่ารักกับฉันมาก ๆ อย่างตอนนี้
ระหว่างที่ฉันกุลีกุจอเก็บของ พี่ทีรุฒน์ก็ออกมาจากห้องทำงานพอดี ฉันไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามาคุยด้วยหรือสอบถามอะไร อีกทั้งไม่อยากเจอสายตาค้อนของพี่ก้อยด้วย ฉันจึงรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป ทำเหมือนว่ารีบมาก ๆ
"ไม่รู้จะรีบอะไรนักหนานะกัญตา" ฉันได้ยินแว่ว ๆ ตามหลัง พี่อ้อมบ่นฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้หันไปมองเลยว่าพี่ทีรุฒน์จะมีท่าทางแบบไหน
กลับมาถึงบ้านฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวเก็บกระเป๋าไปเฝ้าไข้พี่ใหญ่ วันอาทิตย์ตอนเย็นฉันถึงจะกลับมา เก็บกระเป๋าเสร็จก็รีบบึ่งรถไปโรงพยาบาลทันที
"กัญตามาแล้ว แม่กับยายจะกลับบ้านแล้วนะคราวนี้ คุณยายบ่นอยากกลับบ้านจะแย่" คุณแม่พูดกับลูกชาย "ให้เฝ้าแล้วทำบ่น ทีบอกให้จ้างพยาบาลไม่ยอม" คุณแม่ทำเป็นต่อว่าคุณยายไปอีก แต่ปนไปด้วยอารมณ์ขบขัน
"ไม่จ้างหรอก เดี๋ยวดูแลหลานฉันไม่ดี" คุณยายว่า ฉันกับคุณแม่ยิ้มกับท่าทางของคุณยาย
"คุณแม่แล้วกัญญาจะกลับบ้านมั้ยศุกร์นี้" ฉันถามถึงน้องสาว พักนี้เรื่องงานยุ่ง ๆ บวกกับเรื่องพี่ใหญ่ฉันไม่ค่อยได้คุยกับน้องสาวนัก ปกติกัญญาจะต้องกลับมาบ้านเย็นวันศุกร์แล้วโทรบอกให้ฉันไปรับ ทว่าศุกร์นี้กลับเงียบสนิท
"เมื่อเช้าโทรมาบอกแม่ว่าจะมาพรุ่งนี้เช้าน่ะ เห็นว่าที่มหาวิทยาลัยมีกิจกรรม" คุณแม่ตอบ ฉันพยักหน้าเข้าใจ "งั้นแม่กับยายกลับแล้วนะ สองคนพี่น้องดูแลกันดี ๆ" คุณแม่เอ่ยขอตัว เพราะนี่ก็จวนจะค่ำแล้ว ขืนยังทำโอ้เอ้มีหวังมืดก่อนถึงบ้านแน่ ๆ
"แข็งแรงเร็ว ๆ นะใหญ่ ยายเบื่อโรงพยาบาลจะแย่" คุณยายพูดกับหลานชาย
"ครับ... ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องเฝ้าก็ได้"
"ไม่ได้หรอก ยายเป็นห่วง" คุณยายว่า
"ห่วงแต่หลานชาย หลานสาวไม่เห็นห่วงเลย" ฉันแกล้งงอนคุณยาย
"หลานสาวยายก็ห่วง แต่ห่วงคนละแบบไม่เหมือนกัน"
"อ้าวแล้วหลานสาวห่วงยังไงอ่ะ" ฉันถามปนหัวเราะ จะแกล้งให้คุณยายจนมุมให้ได้
"จะมาถามอะไรเซ้าซี้ ยายจะกลับแล้ว ปะละมุนกลับ มัวแต่ชวนยายคุยอยู่นั่นล่ะ" คุณยายรบเร้าเร่งคุณแม่ ไม่ยอมตอบคำถามที่ฉันถามเลย
"โถ่... เดินทางดี ๆ ขับรถดี ๆ นะคะ" ฉันอวยพร
"แม่กลับแล้วนะใหญ่ จะเอาอะไรให้น้องโทรบอก พรุ่งนี้แม่จะเอามาให้" คุณแม่กล่าวลาพี่ใหญ่อีกรอบ พี่ใหญ่พยักหน้า จากนั้นคุณแม่กับคุณยายก็ออกจากห้องไป เหลือเพียงฉันกับพี่ชายสองคน
เช้าวันเสาร์ฉันตื่นนอนแต่เช้ารีบจัดการตัวเอง เผื่อมีใครมาเยี่ยมพี่ใหญ่จะได้ไม่ดูน่าเกียจ และเช็ดตัวเปลี่ยนชุดให้พี่ใหญ่ วันนี้ไม่รู้ใครจะแวะมาบ้าง ส่วนคุณพ่อตั้งแต่พี่ใหญ่ฟื้นก็เว้นระยะมาเยี่ยม ไม่มาถี่เหมือนช่วงแรก ๆ
ฉันก็อยากให้คุณพ่อเว้นระยะเหมือนกัน เป็นห่วงท่านที่ต้องเดินทางมาไกล ๆ เพราะบ้านของคุณพ่อไม่ได้อยู่ที่นี่ ถึงจะใกล้กันแต่ระยะทางขับรถไปกลับก็ไม่ใช่น้อย ๆ เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน ฉันเป็นห่วงท่าน
ฉันปรับเตียงนอนให้พี่ใหญ่อยู่ในท่าเอนหลัง กึ่ง ๆ นั่ง จะได้สบายตัว จากที่นอนมาทั้งคืน แปดโมงมีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอก ฉันกับพี่ใหญ่เราหันไปมองที่ประตู เดาว่าจะเป็นใครมา จากนั้นฉันก็เดินไปส่องดูว่าใครมา ปรากฏว่าคนที่มาเยี่ยมพี่ใหญ่คนแรกคือกัญญากับนายภีม ฉันกะแล้วเชียว ที่กัญญาไม่กลับบ้านวันศุกร์คงจะด้วยสาเหตุนี้ อยากกลับมาพร้อมนายภีม
ก่อนเปิดประตูฉันหันไปมองพี่ชาย "กัญญามา" ฉันบอกพี่ใหญ่ เขาพยักหน้ารับทราบ "กับนายภีมนะ" ฉันเว้นวรรคพูด ฉันยิ้มบางให้กับพี่ชาย นาทีนี้ถึงไม่พอใจก็คงทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามา
"พี่ใหญ่สวัสดีครับ พี่ตาสวัสดีครับ" ญาติผู้น้องของฉันกล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้ ตามด้วยกัญญาที่เอ่ยทักทายอีกคน ก่อนจะเอากระเช้าผลไม้ไปวางไว้บนโต๊ะทานข้าว พี่ใหญ่ไม่ได้มีท่าทีอะไร คงเหนื่อยที่จะต่อล้อต่อเถียง ด้วยสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยด้วย ถึงกระนั้นก็ยังมีแรงประชดน้องสาวคนเล็กได้
"นี่เหรอเหตุผลที่ไม่กลับบ้านเย็นวันศุกร์น่ะ" พี่ใหญ่ถามกัญญา
"เปล่า! ญามีกิจกรรมจริง ๆ หลักฐานก็มี ญารู้อยู่แล้วว่าทุกคนต้องไม่เชื่อ ก็เลยถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จะดูมั้ย" กัญญาค้านพี่ใหญ่
"ไม่อ่ะ...ไม่ดู" พี่ใหญ่ปฏิเสธ ขณะที่กัญญายื่นโทรศัพท์ให้ ฉันขำเบา ๆ เจ็บขนาดนี้ยังจะหาเรื่องคนอื่นอีก นายภีมก็ยิ้มขำไปกับฉันด้วย
"ผมเปล่านะ! วันนี้ผมตั้งใจจะมาเยี่ยมพี่อยู่แล้ว เราไม่ได้มาด้วยกันหรอกพี่ใหญ่สบายใจได้ เรานัดมาเจอกันที่โรงพยาบาลแทน วันศุกร์ผมกลับบ้านก่อนกัญญา ไม่ได้ทำกิจกรรม" นายภีมอธิบายบ้าง
"ฉันเชื่อพวกแกมากมั้ง" พี่ใหญ่ว่า
"ตามใจ..." ญาติผู้น้องของฉันพูดลอยหน้าลอยตา "แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง ใกล้จะได้กลับบ้านยัง เมื่อไหร่จะหาย นอนแต่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เบื่อตายชัก"
"อือ ก็ดีขึ้นมากแล้ว นี่ฉันรถคว่ำนะไม่ได้หกล้มที่จะหายวันสองวัน อีกอย่างฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก ยังจะอยู่ขัดขวางพวกแกได้อีกนาน" พี่ใหญ่ว่านายภีม ฉันแอบค้อนพี่ชายที่พูดแบบนั้น คนเขามีน้ำใจมาเยี่ยม ยังไม่วายลดทิฐิ นายภีมหัวเราะ ไม่ถือสากับคำพูดของพี่ใหญ่เลย
"ดีเลย รับรองพี่ใหญ่ได้เห็นงานแต่งของผมกับกัญญาแน่ ๆ"
"ภีม..." กัญญาปรามญาติผู้น้องของฉัน "พูดอะไร" กัญญาทำตัวให้นิ่งและเงียบที่สุด มีเพียงนายภีมที่ต่อปากต่อคำกับพี่ชายของฉัน
"แล้วทานอะไรมาหรือยังล่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มาเยี่ยมฉัน" พี่ใหญ่พูด แบบนี้สิถึงจะดูน่ารัก
"โถ่ ก็พี่แฟน เอ้ย! พี่ชายผมนอนโรงพยาบาลทั้งคนนี่นาจะไม่ให้มาเยี่ยมได้ไง" นายภีมก็ยังไม่เลิกยั่วโมโหพี่ใหญ่ คงเห็นว่าตอนนี้ได้เปรียบ เพราะพี่ใหญ่ลุกมาเล่นงานไม่ได้ "ผมน่ะทานมาจากบ้านแล้ว ส่วนกัญญาน่าจะยัง เอ่อคุณย่าบอกตอนเย็น ๆ จะแวะมาหาพี่ด้วย"
"อือ" พี่ใหญ่พยักหน้า แล้วเงียบไป คงเหนื่อยและอยากพักผ่อน ฉันลดระดับหัวเตียงลงให้เป็นแนวขนานกับพื้นห้อง พี่ใหญ่จะได้นอนสบาย "กัญญาหิวก็หาอะไรทานเลยนะ ในตู้เย็นมีอะไรบ้าง"
"กัญญาจะทานอะไร ภีมจะทานอะไรเดี๋ยวพี่สั่งให้" ฉันถาม
"ผมไม่ต้องก็ได้ ทานมาแล้ว กัญญาเถอะจะทานอะไร" กัญญาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจได้ว่าจะทานอะไรในมื้อเช้า ทว่านายภีมอาสาเป็นคนลงไปซื้อให้ ไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวมากมาย
ระหว่างวันนายภีมกับกัญญาก็เป็นคนปรนนิบัติพี่ใหญ่แทนฉัน ไม่ว่าจะเช็ดตัวหรือทำอะไรก็แล้วแต่ พี่ใหญ่ไม่ได้ปฏิเสธเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ฉันอยากให้ความสัมพันธ์ของพี่ใหญ่กับนายภีมกลับมาเป็นเหมือนตอนเด็ก ๆ แต่ก็เข้าใจว่านายภีมรักกัญญา ยากที่จะสั่งให้ตัดใจ อีกทั้งคนของฉันด้วย กัญญาเองก็คงยากที่จะตัดใจเหมือนกัน ทั้งสองคนรักกัน รักมานานมาก อยากให้คุณแม่และพี่ใหญ่เปิดใจเหลือเกิน
นายภีมกับกัญญาบอกพี่ใหญ่ว่าจะอยู่ด้วยทั้งวัน พี่ใหญ่ก็ไม่ขัด ระหว่างนั้นจู่ ๆ ก็มีคนมาเยี่ยมพี่ใหญ่อีกคน ซึ่งเป็นคนที่ฉันไม่คาดว่าจะมา แม้เขาอาจจะเคยพูดเอาไว้ก็ตาม นั่นคือพี่ทีรุฒน์ ฉันเกรงใจพี่ชายมากกว่าการมาของนายภีมเสียอีก ฉันถอนหายใจก่อนที่จะเปิดประตูเชิญเขาเข้ามา ก็ยังดีที่พี่ทีรุฒน์มาคนเดียว พี่อุ่นไม่ตามมาด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงทำตัวไม่ถูก
จบบทที่ ๑๓