🇹🇭🌼มาลาริน🌼🇹🇭ไม่ต้องกลัวนทท.จีน แนะคนไทยฉีดกระตุ้นวัคซีนโควิด /เตือนเที่ยวปีใหม่" มีอาการตรวจ ATK

เตือนหลังกลับจาก "เที่ยวปีใหม่" มีอาการตรวจ ATK ลดเสี่ยงแพร่ "โควิด" ที่ทำงาน



กรมอนามัย ย้ำหลังกลับท่องเที่ยวปีใหม่ หากมีอาการเสี่ยงให้ตรวจ ATK ติดเชื้อให้แยกรัษา 5 วัน ส่วนกรณีไม่ติดเชื้อแต่กังวล แนะ 5 วิธีปฏิบัติลดเสี่ยงแพร่เชื้อ

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางไปท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา และเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ดังนั้น ก่อนกลับเข้าทำงานขอให้ประชาชนเฝ้าระวังตนเอง สังเกตอาการหากไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ให้ตรวจ ATK เพื่อความมั่นใจและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะประกาศให้โควิดเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังแล้ว แต่หากตรวจพบว่าติดเชื้อก็ยังคงแนะนำให้แยกตัวเพื่อรักษาตนเองเป็นเวลา 5 วัน เพราะหากเกิดการระบาดเป็นวงกว้างอาจส่งผลต่อการทำงาน ผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานจึงสามารถพิจารณาให้พนักงานที่ป่วยหรือเสี่ยงทำงานที่บ้านได้
“กรณีตรวจแล้วพบว่าไม่ติดเชื้อ หากมีความกังวลใจ เพราะเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เมื่อกลับเข้าทำงานก็สามารถป้องกันตนเองและผู้อื่นได้โดย 1. สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่ทำงาน 2.ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ 3.หมั่นทำความสะอาดของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์ โต๊ะทำงาน 4.ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น และ 5) เว้นระยะห่างกับผู้ร่วมงานอย่างเหมาะสม" นพ.สุวรรณชัยกล่าว

นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ส่วนสถานที่ทำงานยังสามารถปฏิบัติตามสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ได้แก่ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการในบริเวณต่างๆ เช่น ทางเข้า-ออก หน้าลิฟต์ ห้องอาหาร ห้องน้ำ มีทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง สำนักงาน อุปกรณ์ เครื่องใช้ ตรวจสอบถังขยะประเภทต่างๆ ให้อยู่ในสภาพดี รวมทั้งทำความสะอาดระบบระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยป้องกันโรคโควิดแล้ว ยังป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ด้วย

https://mgronline.com/qol/detail/9660000000302

ไม่ต้องกลัวคนจีน "หมอมนูญ" แนะคนไทยเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ชี้โควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่เกิดขึ้นได้ทุกประเทศ



นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทประเทศไทย โพสต์ผ่านเพจหมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุข้อความว่า..👇

ข่าวดีรัฐบาลจีนผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 จีนยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทาง เชื่อว่า อีกไม่นานจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยเป็นหลักล้านคน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย

คนไทยไม่ต้องตื่นกลัวข่าวที่อาจมีเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่เกิดในประเทศจีน แล้วคนจีนเอาเชื้อมาแพร่กระจายในประเทศไทย เชื้อไวรัสโควิดมีการกลายพันธ์ต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอดของตัวมัน สามารถเกิดขึ้นในประเทศไหนก็ได้ไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน เราควรปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีน ยินดีต้อนรับเขาเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ

ถึงเวลาเราควรเลิกกลัวไวรัสโควิด เราต้องอยู่ร่วมกับโควิดอย่างมีสติ เตรียมตัวคนไทยเองให้ดี เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิด ในอนาคตคงต้องฉีดวัคซีนหลายๆสายพันธุ์ทุกปีเหมือนไข้หวัดใหญ่ สร้างสุขนิสัยที่ดี สวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเองป่วยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ

เราต้องยอมรับว่า ถึงเราจะทำทุกอย่างก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ เพราะเชื้อไวรัสโควิดแพร่กระจายทางอากาศได้ง่ายกว่าไวรัสทุกชนิดในโลก ติดเชื้อหลักๆทางการหายใจ และหลบหลีกภูมิคุ้มกันไม่ว่าเกิดจากการได้รับวัคซีน หรือจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ เมื่อติดเชื้อก็รักษากันไป ข้อดีของการติดเชื้อคือ เกิดภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ทำให้มีภูมิคุ้มกันลูกผสม hybrid immunity ป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น

https://siamrath.co.th/n/412009



  ......ดอกไม้flowerผีเสื้อflowerพลุต้นคริสต์มาสsantaกระดิ่งลูกโป่ง

 ติดตามข่าวโควิดกันต่อนะคะ....นานาโอเค

มาลารินกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดอำนวยให้เพื่อนสมาชิก พบแต่สิ่งที่ดีๆ มีความสุขตลอดไปค่ะ.....loveredrosepinkrosewhiteroseyellowroseinloveรักเลิฟ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายสัปดาห์
ระหว่างวันที่ 25 -31 ธันวาคม 2565
ผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์)
จำนวน 2,111 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 302 ราย/วัน
ผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์)
จำนวน 75 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 10 ราย/วัน
---------------------
หายป่วยสะสม 2,500,484 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
เสียชีวิตสะสม 11,971 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
---------------------
ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย
ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย
https://web.facebook.com/thaimoph/posts/pfbid0eGZeuVEBahhb8wqmvTDPbTjHwbFNDDoaVRTjR1QB5h78ehqWZrKqybvdyciDe6iWl


กรมอนามัย แนะหลังเที่ยวปีใหม่ ขอให้ประชาชนสังเกตอาการตัวเอง หากเสี่ยงให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน เพื่อความปลอดภัย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางไปท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา และเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ดังนั้น ก่อนกลับเข้าทำงาน กรมอนามัยขอให้ประชาชนเฝ้าระวังตนเอง โดยสังเกตอาการ หากไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ให้ตรวจ ATK เพื่อความมั่นใจและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังแล้ว แต่หากตรวจพบว่าติดเชื้อก็ยังคงแนะนำให้แยกตัวเพื่อรักษาตนเองเป็นเวลา 5 วัน เพราะหากเกิดการระบาดเป็นวงกว้างอาจส่งผลต่อการทำงาน ผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานจึงสามารถพิจารณาให้พนักงานที่ป่วยหรือเสี่ยงทำงานที่บ้านได้

กรณีตรวจแล้ว แต่ขึ้น 1 ขีด หรือผลพบว่าไม่ติดเชื้อ หากมีความกังวลใจเพราะเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เมื่อกลับเข้าทำงานก็สามารถป้องกันตนเองและผู้อื่นได้โดย 1) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่ทำงาน 2) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ 3) หมั่นทำความสะอาดของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์ โต๊ะทำงาน 4) ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น และ 5) เว้นระยะห่างกับผู้ร่วมงานอย่างเหมาะสม

ส่วนสถานที่ทำงานยังสามารถปฏิบัติตามสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ได้แก่ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการในบริเวณต่าง ๆ เช่น ทางเข้า-ออก หน้าลิฟต์ ห้องอาหาร ห้องน้ำ ทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง สำนักงาน อุปกรณ์ เครื่องใช้ ตรวจสอบถังขยะประเภทต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดี รวมทั้งทำความสะอาดระบบระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ด้วย
https://web.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02KosERJuaQvpa1UUhXzdDAQRZrzG1qD6hnEf8Lgrm8zypZU11aGSdNQG22C9T369Ll


คกก.วิชาการ สธ.ยืนยัน ไม่ตรวจโควิดในนักท่องเที่ยวจีน ย้ำใช้มาตรการไม่เลือกปฏิบัติ สร้างสมดุลสุขภาพและเศรษฐกิจ

วันที่ 30 ธ.ค. 2565 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีวาระสำคัญคือการเตรียมรับสถานการณ์เดินทางที่จะเพิ่มขึ้นจากประเทศจีน ที่มีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยจะนำเสนอมติต่อผู้บริหารในระดับกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมรับผู้เดินทางจากประเทศจีนในวันที่ 5 มกราคม 2566 นี้ เพื่อกำหนดเป็นมาตรการของประเทศ

นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการฯ ได้ให้หลักการในการพิจารณามาตรการ ควรคำนึงถึงหลักการเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านวิชาการ ความปลอดภัยสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ

และจากการประเมินสถานการณ์รอบด้าน ในขณะนี้ “ยังไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดให้ตรวจหาเชื้อ โควิด 19 ในผู้เดินทางจากประเทศจีน” สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของ European CDC แต่หากมีข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์หรือสถานการณ์ระบาดที่เปลี่ยนแปลง จะพิจารณาความจำเป็นของการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยอีกครั้ง
โดยสรุปแนวทางและมาตรการดังนี้

1. กำหนดมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ได้แก่ การตรวจเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนโควิด 19 และกำหนดให้ผู้เดินทางซื้อประกันสุขภาพเดินทางระยะสั้นที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด 19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย สอดคล้องกับข้อกำหนดของประเทศจีน ที่กำหนดให้มีการตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง 48 ชั่วโมง
2. สื่อสารประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการของไทยและคำแนะนำต่างๆ ให้กับผู้เดินทางก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย โดยผ่านกลไกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. เสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ของประเทศไทย โดยเฉพาะระบบเฝ้าระวังในผู้เดินทางเข้าประเทศที่ช่องทางเข้าออกประเทศ
4. เตรียมความพร้อมระบบบริการสาธารณสุขให้รองรับผู้ป่วยชาวต่างชาติได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว
5. สื่อสารเน้นย้ำมาตรการป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย
6. ผู้ประกอบการและร้านค้า ดำเนินการตามแนวทาง SHA, SHA Plus
7. สื่อสารไปยังผู้ประกอบกิจการ หรือผู้ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวให้ได้รับวัคซีนโควิด 19 ครบ 4 เข็ม รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคนให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จำนวนรวม 4 เข็ม
https://web.facebook.com/NBT2HDTV/posts/pfbid04DAsJPwdPpX8Trh8FntSajQnpESHEKYwpteRm4KNxdkLgcWfzU6wi4FR6M5Mhu4Vl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่