อนามัยโพลชี้คนไทย 94% กังวลเปิดปท. เชื่อมั่นแผนคุมโรคแค่ 28%
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3008139
  
 
อนามัยโพลชี้คนไทย 94% กังวลเปิดปท. เชื่อมั่นแผนคุมโรคแค่ 28% ย้ำ! สถานประกอบการ-นทท.เข้มมาตรการลดเสี่ยงโควิด
 
​ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ภายหลังที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)มีคำสั่งกำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการการเดินทางเข้าออกประเทศและ การดูแลคนไทยในต่างประเทศ อนุมัติประเทศและพื้นที่ที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นั้น ซึ่งจากผลการสำรวจของกรมอนามัยระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคม 2564 เกี่ยวกับความคิดเห็น ต่อประเด็น “คิดเห็นอย่างไรกับการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564” พบว่า 
 
คนไทยร้อยละ 94 มีความกังวลกับการเปิดประเทศ โดยมีความเชื่อมั่นต่อการควบคุมป้องกันโรคร้อยละ 28 ในขณะที่ร้อยละ 72 มีความคิดเห็นว่า ควรเพิ่มมาตรการที่จะทำให้เชื่อมั่นว่า หากเปิดประเทศแล้วจะปลอดภัยด้วยการเร่งฉีดวัคซีนให้ทุกคนทั่วประเทศ ครบตามเกณฑ์ครอบคลุมทุกจังหวัด ร้อยละ 70 ขึ้นไป ให้มีการคุมเข้มการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนร้อยละ 60 และมีการกำกับ ติดตาม การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของสถานประกอบการ และประชาชนอย่างเคร่งครัดร้อยละ 55 ตามลำดับ
 ​
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับสถานประกอบกิจการต่างๆ ขอให้เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานทุกคนที่ใกล้ชิด กับนักท่องเที่ยว ควรได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ราชการกำหนด หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน มีการคัดกรองพนักงานด้วย “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากพบว่ามีอุณหภูมิเกินกว่าที่กำหนดและมีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อให้ตรวจด้วย ATK ทันที สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม ให้ประเมินตนเองตามหลักเกณฑ์ของ Thai Stop COVID Plus ทุกเดือน และติดใบรับรอง Certificate ในบริเวณที่ผู้รับบริการและที่เจ้าหน้าที่สามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบได้ รวมทั้งผ่านเกณฑ์การประเมิน SHA Plus ที่เน้นการระบายอากาศที่ดี เพียงพอ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ควบคุม จำนวนพนักงานและลูกค้า 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร และทำความสะอาดจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสร่วม โดยเพิ่มความถี่ เมื่อมีผู้รับบริการมากขึ้น อย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง
 
​“นอกจากนี้ ต้องจัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% มีมาตรการควบคุม แรงงานต่างด้าว และกำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ สมาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยจะต้องไม่มีอาการเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ที่ราชการกำหนด หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด พร้อมคัดกรอง ตัวเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” และแสดงให้ผู้รับบริการตรวจสอบก่อนเข้าสถานประกอบการ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องไม่มีอาการเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง คัดกรองไม่พบเชื้อ และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ RT-PCR ตามระยะเวลาที่กำหนดด้วย” นพ.สุวรรณชัย กล่าว
 

---

 
หมอเตือน “ติดยกครัวทุกวัน”แนะมีอาการ “หวัด ไอ เจ็บคอ”ตรวจATKก่อนเลย
https://www.dailynews.co.th/news/407538/
 
หมอเตือน "ติดยกครัวทุกวัน" แนะมีอาการ "หวัด ไอ เจ็บคอ" ตรวจ ATK ก่อนเลย ถ้าติดเชื้อแยกรักษา ช่วยจำกัดวงการแพร่เชื้อได้

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise ระบุว่า 
 
ณ จุดนี้ “หวัด ไอ เจ็บคอ” ตรวจ ATK ก่อนเลยครับ ถ้าเป็นบวกจะได้
แยกและรักษา ช่วยจำกัดวงการแพร่เชื้อ
#ติดยกครัวทุกวัน
 
https://www.facebook.com/jiraruj/posts/5021053821255634
 

---

 
จีนจำกัดเดินทางสกัดเดลตา หลังแพร่ในกรุ๊ปทัวร์
https://www.nationtv.tv/news/378848337

จีนเผชิญการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่จากสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายใน 11 มณฑลและเขตปกครองเชื่อมโยงกรุ๊ปทัวร์ 13 กลุ่ม ทำให้หลายแห่งต้องระงับกิจกรรมการท่องเที่ยว และออกมาตรการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวด
 
สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมาธิการสาธาณสุขแห่งชาติของจีน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่กระจายของโควิด-19 ใน 11 มณฑลและเขต ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว โดยพบผู้ติดเชื้อรวม 133 คน ซึ่งอย่างน้อย 106 คนเชื่อมโยงจากกรุ๊ปทัวร์ 13 กลุ่ม ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตา แต่ยังอยู่ระหว่างการสืบหาต้นตอของเชื้อ
 
นอกจากนี้คณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะ โดยเบื้องต้นพบว่าเป็นเชื้อที่มาจากต่างประเทศ และแพร่กระจายรวดเร็วมาก โดยพบผู้ติดเชื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรุ๊ปทัวร์เพิ่มขึ้น และคาดว่าตัวเลขจะสูงยิ่งขึ้นอีก รวมถึงจะแพร่กระจายไปอีกหลายพื้นที่
 
ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อใน 11 มณฑลและเขต เช่น เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย, เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน,  มณฑลส่านซี, มณฑลยูนนาน, มณฑลกุ้ยโจว และกรุงปักกิ่ง และกรุ๊ปทัวร์ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลกานซู่ และเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
 
มณฑลกานซู่สั่งระงับกิจกรรมการท่องเที่ยว กิจกรรมด้านวัฒนธรรม และการรวมกลุ่มต่างๆ ทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวทุกคนในเมืองหลานโจว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ จะต้องกักตัวในสถานที่พัก และตรวจหาโควิด-19 อย่างน้อย 2 ครั้งในระยะเวลาห่างกันไม่เกิน 24 ชม.ผู้มีผลตรวจเป็นลบจึงอนุญาตให้ออกจากมณฑลได้
 
มาตรการนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงวั ฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่ประกาศเมื่อวันเสาร์ให้บริษัท่องเที่ยวทั้งหลายระงับการเดินทางท่องเที่ยวข้ามมณฑลในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางและสูง

 
ส่วนกรุงปักกิ่งประกาศมาตรการควบคุมการระบาดเมื่อวานว่า คนจากประเทศที่มีการระบาดระลอกใหม่ หรือ นักเดินทางที่ไปท่องเที่ยวในประเทศที่มีการระบาดใหม่ภายใน 14 วันจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าปักกิ่ง นอกจากนี้ปักกิ่งยังยกเลิกการจัดวิ่งมาราธอนในวันที่ 31 ต.ค.แล้ว และประชาชนในเมืองอื่นที่พบการติดเชื้อใหม่จะไม่สามารถเข้าปักกิ่งได้ในช่วงนี้
 
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ประกาศว่า ระบบขนส่งสาธารณะเข้าออกในพื้นที่เสี่ยงปานกลางและสูงถูกระงับ แต่บริการฉุกเฉิน และการขนส่งสิ่งของจำเป็น เช่น วัคซีน และอาหารจะยังดำเนินได้ภายใต้การควบคุมเคร่งครัด