6 เหตุผลที่เราไม่ควรซื้อหุ้นตามเซียน
ดูแบบละเอียดใน VDO ได้เลยครับ kak The Richest Duck
1. เรื่องของเวลาซื้อขาย ทำให้ไม่รู้ราคาซื้อขายเค้า
เราไม่รู้ว่าเค้าซื้อตอนไหน หรือขายตอนไหนเป๊ะๆ ซึ่งก็แปลว่าเราไม่รู้ราคาซื้อขายเค้าแบบแม่นยำพอ
รายงานของตลาดมัน delay เยอะมากเกินไป
2. สัดส่วนของหุ้นตัวนั้นต่อ portfolio
เซียนถือหุ้น a 3% ของ port ซึ่งไม่มีนัยยะสำคัญเท่าไหร่
เรา 15%
แบบนี้การทนทานต่อความเสี่ยง และขาลงก็ต่างกันแล้ว
3. Net worth ของเซียนกับเราต่างกันมาก
ขาดทุนจากหุ้น a 50% ของ net worth เท่ากัน
เซียนยังเหลือเงินใช้ชีวิตสบายๆ เพราะรวยมากๆ
แต่จองเราอาจจะเป็น คชจ ครอบครัว
4. หุ้นตัวนั้นคือหุ้นประเภทไหนใน port เซียน
เช่น อาจจะเป็นหุ้น growth แต่เค้ามีหุ้นมั่นคงอยู่อีกเยอะ แต่เราซื้อเป็นหุ้นมั่นคงพยุง port เมื่อจุดประสงค์ต่างกัน ความหมายก็ต่างกัน
5. เซียนก็เป็นคน ผิดพลาดได้
แต่เค้ารับความเสี่ยงเค้าได้ เพราะได้ประเมินไว้หมดแล้ว
เรารับได้ไหม
6. Portfolio การลงทุน
ณ ช่วงเวลาหนึ่งต่างกัน ทำให้รับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
เซียนอาจจะถือหุ้นสามัญ 50% หุ้นกู้ 50%
ณ เวลานั้น ทำให้เค้ารับความเสี่ยงจากหุ้นได้สูงกว่า
THE RICHE$T DUCK
6 เหตุผลที่เราไม่ควรซื้อหุ้นตามเซียน
เราไม่รู้ว่าเค้าซื้อตอนไหน หรือขายตอนไหนเป๊ะๆ ซึ่งก็แปลว่าเราไม่รู้ราคาซื้อขายเค้าแบบแม่นยำพอ
รายงานของตลาดมัน delay เยอะมากเกินไป
2. สัดส่วนของหุ้นตัวนั้นต่อ portfolio
เซียนถือหุ้น a 3% ของ port ซึ่งไม่มีนัยยะสำคัญเท่าไหร่
เรา 15%
แบบนี้การทนทานต่อความเสี่ยง และขาลงก็ต่างกันแล้ว
3. Net worth ของเซียนกับเราต่างกันมาก
ขาดทุนจากหุ้น a 50% ของ net worth เท่ากัน
เซียนยังเหลือเงินใช้ชีวิตสบายๆ เพราะรวยมากๆ
แต่จองเราอาจจะเป็น คชจ ครอบครัว
4. หุ้นตัวนั้นคือหุ้นประเภทไหนใน port เซียน
เช่น อาจจะเป็นหุ้น growth แต่เค้ามีหุ้นมั่นคงอยู่อีกเยอะ แต่เราซื้อเป็นหุ้นมั่นคงพยุง port เมื่อจุดประสงค์ต่างกัน ความหมายก็ต่างกัน
5. เซียนก็เป็นคน ผิดพลาดได้
แต่เค้ารับความเสี่ยงเค้าได้ เพราะได้ประเมินไว้หมดแล้ว
เรารับได้ไหม
6. Portfolio การลงทุน
ณ ช่วงเวลาหนึ่งต่างกัน ทำให้รับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
เซียนอาจจะถือหุ้นสามัญ 50% หุ้นกู้ 50%
ณ เวลานั้น ทำให้เค้ารับความเสี่ยงจากหุ้นได้สูงกว่า
THE RICHE$T DUCK