ทำงานมาเกือบจะ 5 ปี ในวันนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่

ทำงานมาเกือบจะ 5 ปี วันนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ เงินเดือนขึ้นไม่ถึง 5 พัน

ต้องบอกก่อนว่าเราเข้ามาทำงานที่บริษัทปัจจุบันตั้งแต่ปี 18 เป็นบริษัทใหญ่มาก ๆ บริษัทหนึ่ง เราเป็นเด็กจบใหม่ ปวส. และได้มาอยู่สายงานปฏิบัติการ (ตำแหน่งที่เราทำรับทั้ง ปวส. และ ป.ตรี ทำงานเหมือนกันทุกอย่าง) ซึ่งกว่าจะเข้ามาได้คือสัมภาษณ์โหดมาก พี่ ๆ ทุกคนก็บอกว่าเราเก่งมาก ๆ ที่ผ่านเข้ามาได้ ซึ่งตอนแรกเราก็รู้สึกดีและภูมิใจมาก แต่พอเราอยู่ไป ๆ เราเริ่มเกิดคำถาม เกิดข้อเปรียบเทียบ

คือเราทำงานเพื่อองค์กรเยอะมาก เราได้ประเมินสิ้นปีในระดับสูงกว่าพนักงานส่วนใหญ่ทุกปี หัวหน้าทุกคนที่เราได้ไปอยู่ด้วยก็ชมตลอด (มีการหมุนเวียนเปลี่ยนหัวหน้าทุกปี) ทุกคนก็ชมว่าเราเก่ง เราทำงานเหนืองานที่ได้รับมอบหมายเยอะมาก เราทำงานที่เราได้รับมอบหมายได้สมบูรณ์และเราก็ทำงานอื่นในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ และทุกคนทราบว่าเราทำงานนั้นและมันเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในบริษัท หลาย ๆ งานที่เป็นงานของระดับพี่ ๆ ที่อายุงาน 20+ ปี เราทำแทนได้โดยไม่มีที่ติ เรายังร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่แผนกต่าง ๆ ในบริษัทจัดอยู่เสมอจนชื่อเราขึ้นติดอยู่ในผู้ที่ได้รับรางวัลและผู้ร่วมกิจกรรมอยู่บ่อย ๆ จนเราโดนแซวอยู่บ่อย ๆ ว่าได้ของรางวัลบ่อยเกินไปนะ หัวหน้าเคยพูดกับเราว่าอย่างเราสามารถไปได้ไกลกว่าเค้ามาก แค่ต้องรอเวลา คือเราสามารถทำงานแทนหัวหน้าได้เลย ขาดแค่ประสบการณ์และอายุงาน

อย่างที่บอกเราทำงานมายังไม่ครบ 5 ปี ซึ่งมันก็จริงว่าอายุงานน้อยแบบเราไม่สามารถแหกวิถีเดิม ๆ ของบริษัทได้ที่จะก้าวข้ามพี่ ๆ ที่อายุงานเหนือกว่า ถึงแม้พี่ ๆ หลายคนจะทำงานไปวัน ๆ ซึ่งเราก็เข้าใจ ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา เรารอให้ถึงเวลาของเราได้ ถ้าเรารู้สึกว่าเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นคุ้มค่ากับความสามารถของเราที่เพิ่มขึ้นตาม แต่นั้นแหละที่มาของกระทู้นี้คือเราไม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว

เงินเราปรับน้อยมาก ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยนอกใจบริษัทเลยคือเรารักมาก เพราะบริษัทก็ดูแลเราดีในหลาย ๆ เรื่อง ตอนโควิดบริษัทก็ดูแลเราไม่ขาดเงินเราได้เงินเต็มทุกเดือน แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เราเริ่มเกิดคำถามต่าง ๆ เราได้ไปถามเพื่อนที่อยู่บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกัน เริ่มงานปีเดียวและเราเรียนจบที่เดียวกัน ก็พบว่า เพื่อนเงินนำเราไปสองหมื่นกว่า เพราะในหน้างานที่เรารับผิดชอบเยอะขนาดนี้เราก็คิดว่าเราควรได้เงินมากกว่าปัจจุบัน

บริษัทของเพื่อนคือสามารถขอสอบได้ทุกปีปีละครั้ง ถ้าสอบผ่านก็เลื่อนขั้นทันทีและอัพเงินเดือนทันทีไม่ต้องรอปีใหม่(ในตำแหน่งเดียวกับเรา) ตรงข้ามกับบริษัทเรา เราสอบปีละ 2-3 ครั้งทุกปี ทุกครั้งที่สอบคือมีความกดดันตลอดคล้ายตอนสัมภาษณ์งาน แต่เมื่อสอบผ่าน ก็แค่ผ่านไปเฉย ๆ ไม่มีการปรับขั้นหรือเงินอะไรทั้งสิ้น บริษัทถือว่าเป็นการสอบวัดความรู้ความสามารถตามปกติ ถึงเค้าจะรู้ว่าเราทำงานได้เหนือกว่าที่เราสอบไปนานแล้ว เราก็ต้องสอบตามเวลาที่เค้าได้วางไว้ ถึงจะขอสอบก่อน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

โดยในตำแหน่งของเรามีการปรับขั้นทุก 2 ปี ตามเวลา แต่ไม่ว่าเราจะปรับขั้นในเดือนไหนของปี เงินเราก็จะขึ้นปีหน้าอยู่ดี มันทำให้เราไม่มีแรงบันดาลใจในเรื่องนี้ เราทำงานมา 4 ปีปรับขั้นไปสองรอบ เราเคยเข้าใจว่าปีที่ปรับขั้นเราควรได้เงินเพิ่มกว่าปีที่เราไม่ได้ปรับ แต่เปล่าเลย แทบไม่มีความแตกต่าง เรามาทราบทีหลังว่าก่อนหน้านี้บริษัทเคยปรับขั้นและเงินขึ้นทันทีในเดือนต่อมา แต่บริษัทมองว่าตรงนี้เป็นภาระในอนาคตเลยตัดออกพนักงานรุ่นหลังเลยโดนตัดผลประโยชน์ส่วนนี้ออกทั้งหมด เหลือเพียงพนักงานที่อายุงาน 10+ ปีที่ยังได้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้

ซึ่งยังมีผลประโยชน์อีกหลายอย่างที่พนักงานรุ่นหลังโดนตัดออก แต่เรายกให้ข้อข้างบนเป็นเรื่องที่เราไม่โอเคที่สุด และอีกข้อที่เราไม่คิดว่าบริษัทจะเก็บเป็นความลับต่อพนักงานคือเรื่องกระบอกเงินเดือน ค่ากลาง ค่า mid low max ต่าง ๆ บริษัทไม่มีข้อมูลตรงนี้ให้ เราต้องโทรไปถามฝ่าย HR เค้าให้วิธีมาแล้วก็ให้เรามาบวกลบคูณหารเอาเองว่ากระบอกของเราอยู่ระดับไหน ปรับเงินเท่าไหร่อะไรยังไง ซึ่งเพื่อนอีกบริษัทคือในระบบบอกทุกอย่างมีประวัติการปรับแต่ละปีตามเกรดประเมินที่ได้สามารถดูได้ในระบบของบริษัท และอีกหลายอย่างที่ทำให้เราเกิดคำถามมากขึ้น ๆ ทุกวัน

และวันนี้เราได้ตัดสินใจยื่นใบสมัครไปที่บริษัทใหม่เรียบร้อยแล้ว กำลังรอเรียกสัมภาษณ์ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้งานมั้ย แต่ถ้าเราไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะทุกวันนี้ที่เราทำงานบริษัทปัจจุบัน เราทำเต็มที่ทุกวันไม่เคยขาดตกบกพร่อง ถึงจะเกิดคำถามต่าง ๆ แต่เราก็เก็บไว้ เราทำงานของเราเต็มที่เสมอ มีแค่น้องที่ทำงานเราคนเดียวที่รู้ว่าเราไปสมัครงานใหม่ ซึ่งถ้าเราไม่ได้งานใหม่ขึ้นมาจริง ๆ ถึงแม้เราจะรู้ว่ามี % สูงมากที่จะได้ เราก็เต็มใจที่จะยู่บริษัทนี้ต่อ เรายังสามารถมองเห็นข้อดีต่าง ๆ ที่บริษัทมีให้และไปลบกับด้านที่แย่ ๆ ออกไปได้ เราอาจแค่รอให้ถึงเวลาของเรา แต่วันนี้ในวันที่เรายังสามารถสร้างโอกาสที่ดีกว่าให้กับตัวเราได้ เราคิดว่าเราควรคว้าโอกาสนั้นไว้และเต็มที่กับมัน ถ้าสุดความสามารถแล้วเราพลาดเราก็คงรู้สึกโอเคกว่าการที่เราไม่คว้าโอกาสนั้นไว้และไม่ได้ลองพยายามในวันที่เรายังมีโอกาสนั้นอยู่ในมือ

จบ... แค่อยากจะมาแชร์เรื่องราว(บ่น)ชีวิตมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งครับ ถ้าให้บอกตรง ๆ ก็ยังรักบริษัท รักงาน รักเพื่อนร่วมงาน รักสังคมการทำงานของบริษัทปัจจุบันอยู่นะครับ แต่เราแค่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว และเราอาจจะต้องเลือกทางใหม่ที่ดีกว่า
มีใครเพื่อน ๆ คนไหนเคยประสบอยู่กับเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ มาแชร์หรือพูดคุย ให้คำแนะนำผมหน่อย จะน้อมรับไปพิจารณาดูครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่