***กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ยาวที่สุดของดิฉันที่เคยตั้งมา
เพียงเพราะคิดว่าการปรึกษาคนที่รู้จักอาจได้คำปรึกษาที่เข้าข้างเรา เกรงใจเรา และหลายครั้งพยายามคิดบวกว่าเป็นบุคลิกเฉพาะบุคคล จนคิดว่าแผนกที่ทำควรมีมากกว่า 2 คน จะได้มีการใช้ประชาธิปไตยเข้ามาช่วยหากตัดสินไม่ได้ 😅 แต่บางทีไม่ไหวจริงๆ อันนี้แค่บางส่วนเท่านั้น เลยอยากขอคำแนะนำจากคนที่ไม่รู้จักบ้างค่ะ
ก่อนอื่นขอบคุณล่วงหน้า สำหรับท่านที่มีความกรุณาในการเข้ามาอ่าน หรือมีคำแนะนำ เนื่องจากดิฉันเองไม่คิดว่าวัยทำงาน (อายุใกล้เลข 4) จะได้มาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้......สือบเนื่องจาก 2 ปีก่อนหน้านี้ดิฉันได้ลาออกจากสายงานที่ทำซึ่งทำงานสายนั้นมาไม่น้อยกว่า 10 ปี พอเปลี่ยนงานใหม่เลือกเพราะอิสระ งานไม่ได้หนักเท่างานเดิม เงินตอนแรกคือสตาร์ทไม่มากแต่สะดวกใจที่จะทำเพราะหลายๆอย่างดีขึ้นจากงานสายเดิมที่หามรุ่งห้ามค่ำ แต่เริ่มพบอุปสรรคตรงที่เพื่อนร่วมงานในที่นี้ขอแทนว่าป้าละกันนะคะ เพราะพี่เค้าอายุเยอะกว่าดิฉัน 10 ปี แน่นอนว่าใกล้ 50 แล้ว เริ่มแรกคืองานต้องไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันพักด้วยกันค่อนข้างเห็นว่าป้าแกเป็นคนพูดกับระดับเดียวกันแบบดูตรงๆ ไม่เกรงใจใคร จนบางครั้งดูเป็นการว่าคนอื่นเกินไปน้องๆวัยรุ่นหน่อยที่เข้ามาพร้อมกันฝึกงานทีมเดียวกันคือ เวลาปลาพูดหรือทำอะไรไม่โอเคน้องจะไม่คุยด้วยเลย ส่วนดิฉันตอนแรกคือก็โอเค เวลา 10 กว่าปีเจอคนที่ทำงานมาเยอะคิดว่าเป็นนิสัยส่วนตัว เราก็คุยกันแค่ในส่วนของงานแต่ปัญหาที่เจอ หากไล่เป็นข้อๆดังนี้
1. ป้าทำตัวคล้ายเป็นศูนย์กลางจักรวาล เอาความคิดเห็นตัวเองเป็นที่ตั้ง ยกตัวอย่างหัวข้อสนทนาเรื่องงานหากเห็นไม่ตรงกันจะพยายามหักล้างความคิดเห็นคนอื่น ฟังแบบขัดคนอื่นซะส่วนใหญ่
2.กรณีงานได้รับมอบหมายมาบางงานออกแนวเป็น Project ร่วมกัน หากเป็นงานคาบเกี่ยวแผนกงานอื่น (จากประสบการณ์ที่ต่างคนต่างผ่านมาบังเอิญมากจากสายงานเดียวกันอีกด้วย) และความคิดเห็นส่วนตัวป้าบอกงานนี้ไม่ควรมอบหมายให้แผนกเราทำ แต่คือที่นี่ระบบงานต่างจากที่เคยเจอ ซึ่งมอบหมายงานมาตามสมควร แต่ป้าออกแนวไม่พอใจ เนื่องจากเป็นงานร่วม เวลาดิฉันทำ ดิฉันจะถามว่าพี่สะดวกเมื่อไหร่คะ คุยงานกันหน่อยไหมคะ แบ่งกันทำอะไรยังไงบ้างตามกำหนดส่งงานจะได้ไม่ล่าช้าทุกครั้งที่ถามป้าแสดงอาการหงุดหงิดตลอด ดิฉันตัดจบที่ทำเองทั้งหมดเรียกว่าทั้งหมดจริงๆ เพราะหน.ก็ถูกตามมาอีกทีเท่ากับงานไม่ใช่แค่2คนแต่ทั้งทีม ก็มองในแง่ดีเราคือทีมเดียวกันให้ผ่านครั้งนี้ไปก่อน สรุปมีอีกก็เป็นแบบเดิมๆอีกค่ะ
3.งานที่ทำเป็นงานตรวจสอบการทำงานของแผนกอื่น ครั้งนึงมีเอกสารที่ดิฉันเป็นคนออกเกณฑ์การตรวจ หน.มอบหมายให้ทำ ส่วนคนนำไปใช้งานคือดิฉันและป้า หลายครั้งป้าจะพูดตลอดขาดตรงนั้น ตรงนี้ น่าจะมีรายละเอียดนี้ (ตอนแรกๆ ดิฉันไม่คิดอะไร เพราะป้าเองตำแหน่งเดิมค่อนค้างสูงกว่า ประมาณว่าป้ามาจาก QMR ดิฉันคือมาจาก Supervisor) พอป้าเอ่ยแบบนี้เลยเสนอว่า พี่คะตรงไหนเห็นว่าควรเพิ่มพี่ทำลิสต์รายการมาเลยคะ เวลามีประชุมจะได้นำมาปรับ หรือไม่งั้นเราส่งขอปรับเปลี่ยนได้คะเผื่อที่หนูทำไม่ครอบคลุม ป้าตอบทันทีว่า "ไม่อ่ะใช้มันไปแบบนี้แหละ ไม่ทำใหม่หรอก" คือแบบไม่อยากหางานเพิ่มให้ตัวเอง ดิฉันเองเริ่มงง ว่าตกลงต้องการอะไร
4.หลายครั้งที่หน.มอบหมายงานดิฉัน ดิฉันทำตามได้รับมอบหมาย เวลาส่งอนุมัติลงชื่อดิฉันเป็นผู้จัดทำและแจ้งผู้เกี่ยวข้องชอบพูดเหมือนประชด ว่าให้พี่ทำแบบเราพี่ทำไม่ได้หรอก (คืองง พูดเพื่ออะไร งานที่ทำก็เป็นงานไม่ซับซ้อนอะไรเทียบกับดีกรี QMR แล้ว ที่ดิฉันทำน่าจะเบสิคมาก) และที่พีคที่สุดงานป้าเคยมีคอมเม้นท์ต้องแก้ และเป็นเอกสารที่ใช้ส่วนร่วมหัวหน้าส่งมาให้ดิฉันช่วยแก้ไข พอดิฉันคอมเม้นท์ส่วนที่ต้องแก้หน.ก็ส่งกลับให้ป้าแก้ ป้ายังพูดกับดิฉันอีกว่า เห็นที่ส่งมาละ แก้เยอะเลยพี่ยังไม่ได้แก้ ตือพูดแบบชิลมาก เอกสารนั้นคนอื่นรอใช้หลายคนคืองง
5.กรณีวันหยุดเข้าใจว่าเป็นสิทธิที่จะไม่คุยไม่ตอบเรื่องงาน โดยป้าไม่มีการเว้นเรื่องเร่งด่วน เพราะคาบเกี่ยวคนอื่น เช่น ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ต้องรีบจองตั๋วเครื่องบิน เพราะราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเทศกาล ก่อนหน้าวันจะหยุดงานคุยแล้วว่าพี่สะดวกเดินทางวันไหนคะ ดิฉันเองก็บอกวันดิฉันไป แต่ป้าให้คำตอบว่าขอเช็คดูวันก่อน ผ่านไป 3 วันก็ยังไม่ตอบ พอมีคำถามในกรุ๊ปไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ป้าก็ไม่ตอบ พอเจอกันป้าบอก พี่เห็นละนะแต่ก็ยังไม่ให้รายละเอียดใด รึร่วมคุยปรึกษาหาข้อสรุป เพราะป้าพักร้อน 1 อาทิตย์พูดกับดิฉันว่ายังไม่ได้อ่าน ไม่ได้ตอบเป็นวันลา แต่ประเด็นคนที่ได้รับมอบหมายออกเอกสารขอดำเนินการซึ่งตอนรับคำสั่งหน.บอกขอเร็วหน่อย สรุปต่ออีก 3 วันจากวันแรกก็ยังไม่แจ้งอะไร กลายเป็นงานดิฉันช้า
ควรรับมือหรือทำอย่างไรกับเพื่อนร่วมงานที่มีพฤติกรรมที่ทำให้เราเซงได้บ่อยๆ เนื่องจากมีผลกระทบกับงานของเรา
เพียงเพราะคิดว่าการปรึกษาคนที่รู้จักอาจได้คำปรึกษาที่เข้าข้างเรา เกรงใจเรา และหลายครั้งพยายามคิดบวกว่าเป็นบุคลิกเฉพาะบุคคล จนคิดว่าแผนกที่ทำควรมีมากกว่า 2 คน จะได้มีการใช้ประชาธิปไตยเข้ามาช่วยหากตัดสินไม่ได้ 😅 แต่บางทีไม่ไหวจริงๆ อันนี้แค่บางส่วนเท่านั้น เลยอยากขอคำแนะนำจากคนที่ไม่รู้จักบ้างค่ะ
ก่อนอื่นขอบคุณล่วงหน้า สำหรับท่านที่มีความกรุณาในการเข้ามาอ่าน หรือมีคำแนะนำ เนื่องจากดิฉันเองไม่คิดว่าวัยทำงาน (อายุใกล้เลข 4) จะได้มาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้......สือบเนื่องจาก 2 ปีก่อนหน้านี้ดิฉันได้ลาออกจากสายงานที่ทำซึ่งทำงานสายนั้นมาไม่น้อยกว่า 10 ปี พอเปลี่ยนงานใหม่เลือกเพราะอิสระ งานไม่ได้หนักเท่างานเดิม เงินตอนแรกคือสตาร์ทไม่มากแต่สะดวกใจที่จะทำเพราะหลายๆอย่างดีขึ้นจากงานสายเดิมที่หามรุ่งห้ามค่ำ แต่เริ่มพบอุปสรรคตรงที่เพื่อนร่วมงานในที่นี้ขอแทนว่าป้าละกันนะคะ เพราะพี่เค้าอายุเยอะกว่าดิฉัน 10 ปี แน่นอนว่าใกล้ 50 แล้ว เริ่มแรกคืองานต้องไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันพักด้วยกันค่อนข้างเห็นว่าป้าแกเป็นคนพูดกับระดับเดียวกันแบบดูตรงๆ ไม่เกรงใจใคร จนบางครั้งดูเป็นการว่าคนอื่นเกินไปน้องๆวัยรุ่นหน่อยที่เข้ามาพร้อมกันฝึกงานทีมเดียวกันคือ เวลาปลาพูดหรือทำอะไรไม่โอเคน้องจะไม่คุยด้วยเลย ส่วนดิฉันตอนแรกคือก็โอเค เวลา 10 กว่าปีเจอคนที่ทำงานมาเยอะคิดว่าเป็นนิสัยส่วนตัว เราก็คุยกันแค่ในส่วนของงานแต่ปัญหาที่เจอ หากไล่เป็นข้อๆดังนี้
1. ป้าทำตัวคล้ายเป็นศูนย์กลางจักรวาล เอาความคิดเห็นตัวเองเป็นที่ตั้ง ยกตัวอย่างหัวข้อสนทนาเรื่องงานหากเห็นไม่ตรงกันจะพยายามหักล้างความคิดเห็นคนอื่น ฟังแบบขัดคนอื่นซะส่วนใหญ่
2.กรณีงานได้รับมอบหมายมาบางงานออกแนวเป็น Project ร่วมกัน หากเป็นงานคาบเกี่ยวแผนกงานอื่น (จากประสบการณ์ที่ต่างคนต่างผ่านมาบังเอิญมากจากสายงานเดียวกันอีกด้วย) และความคิดเห็นส่วนตัวป้าบอกงานนี้ไม่ควรมอบหมายให้แผนกเราทำ แต่คือที่นี่ระบบงานต่างจากที่เคยเจอ ซึ่งมอบหมายงานมาตามสมควร แต่ป้าออกแนวไม่พอใจ เนื่องจากเป็นงานร่วม เวลาดิฉันทำ ดิฉันจะถามว่าพี่สะดวกเมื่อไหร่คะ คุยงานกันหน่อยไหมคะ แบ่งกันทำอะไรยังไงบ้างตามกำหนดส่งงานจะได้ไม่ล่าช้าทุกครั้งที่ถามป้าแสดงอาการหงุดหงิดตลอด ดิฉันตัดจบที่ทำเองทั้งหมดเรียกว่าทั้งหมดจริงๆ เพราะหน.ก็ถูกตามมาอีกทีเท่ากับงานไม่ใช่แค่2คนแต่ทั้งทีม ก็มองในแง่ดีเราคือทีมเดียวกันให้ผ่านครั้งนี้ไปก่อน สรุปมีอีกก็เป็นแบบเดิมๆอีกค่ะ
3.งานที่ทำเป็นงานตรวจสอบการทำงานของแผนกอื่น ครั้งนึงมีเอกสารที่ดิฉันเป็นคนออกเกณฑ์การตรวจ หน.มอบหมายให้ทำ ส่วนคนนำไปใช้งานคือดิฉันและป้า หลายครั้งป้าจะพูดตลอดขาดตรงนั้น ตรงนี้ น่าจะมีรายละเอียดนี้ (ตอนแรกๆ ดิฉันไม่คิดอะไร เพราะป้าเองตำแหน่งเดิมค่อนค้างสูงกว่า ประมาณว่าป้ามาจาก QMR ดิฉันคือมาจาก Supervisor) พอป้าเอ่ยแบบนี้เลยเสนอว่า พี่คะตรงไหนเห็นว่าควรเพิ่มพี่ทำลิสต์รายการมาเลยคะ เวลามีประชุมจะได้นำมาปรับ หรือไม่งั้นเราส่งขอปรับเปลี่ยนได้คะเผื่อที่หนูทำไม่ครอบคลุม ป้าตอบทันทีว่า "ไม่อ่ะใช้มันไปแบบนี้แหละ ไม่ทำใหม่หรอก" คือแบบไม่อยากหางานเพิ่มให้ตัวเอง ดิฉันเองเริ่มงง ว่าตกลงต้องการอะไร
4.หลายครั้งที่หน.มอบหมายงานดิฉัน ดิฉันทำตามได้รับมอบหมาย เวลาส่งอนุมัติลงชื่อดิฉันเป็นผู้จัดทำและแจ้งผู้เกี่ยวข้องชอบพูดเหมือนประชด ว่าให้พี่ทำแบบเราพี่ทำไม่ได้หรอก (คืองง พูดเพื่ออะไร งานที่ทำก็เป็นงานไม่ซับซ้อนอะไรเทียบกับดีกรี QMR แล้ว ที่ดิฉันทำน่าจะเบสิคมาก) และที่พีคที่สุดงานป้าเคยมีคอมเม้นท์ต้องแก้ และเป็นเอกสารที่ใช้ส่วนร่วมหัวหน้าส่งมาให้ดิฉันช่วยแก้ไข พอดิฉันคอมเม้นท์ส่วนที่ต้องแก้หน.ก็ส่งกลับให้ป้าแก้ ป้ายังพูดกับดิฉันอีกว่า เห็นที่ส่งมาละ แก้เยอะเลยพี่ยังไม่ได้แก้ ตือพูดแบบชิลมาก เอกสารนั้นคนอื่นรอใช้หลายคนคืองง
5.กรณีวันหยุดเข้าใจว่าเป็นสิทธิที่จะไม่คุยไม่ตอบเรื่องงาน โดยป้าไม่มีการเว้นเรื่องเร่งด่วน เพราะคาบเกี่ยวคนอื่น เช่น ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ต้องรีบจองตั๋วเครื่องบิน เพราะราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเทศกาล ก่อนหน้าวันจะหยุดงานคุยแล้วว่าพี่สะดวกเดินทางวันไหนคะ ดิฉันเองก็บอกวันดิฉันไป แต่ป้าให้คำตอบว่าขอเช็คดูวันก่อน ผ่านไป 3 วันก็ยังไม่ตอบ พอมีคำถามในกรุ๊ปไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ป้าก็ไม่ตอบ พอเจอกันป้าบอก พี่เห็นละนะแต่ก็ยังไม่ให้รายละเอียดใด รึร่วมคุยปรึกษาหาข้อสรุป เพราะป้าพักร้อน 1 อาทิตย์พูดกับดิฉันว่ายังไม่ได้อ่าน ไม่ได้ตอบเป็นวันลา แต่ประเด็นคนที่ได้รับมอบหมายออกเอกสารขอดำเนินการซึ่งตอนรับคำสั่งหน.บอกขอเร็วหน่อย สรุปต่ออีก 3 วันจากวันแรกก็ยังไม่แจ้งอะไร กลายเป็นงานดิฉันช้า