ฉายา...มันเป็นแค่เสียงสะท้อน จะสนใจไปใย ที่ควรสนใจคือกรรมของตนเองที่ทำมากกว่า ...แม่นก๊อ.?
..อย่างอาแปะนี่ใครมาเรียกฉายาอย่างนั้นอย่างนี้อาแปะเฉยๆนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้าเรียกตามที่เค้าเห็นใน "อัตลักษณ์ของเรา"..
สมัยเด็กๆ เพื่อนมัธยมอาแปะเรียก "ปู่" อยู่บ่อยครั้ง เพราะอาแปะผมขาวแซมมาตั้งแต่เด๋็ก (ไฟธาตุแรงเว่อร์)..
พอมาเป็นพ่อค้ามีร้านค้าของตนเองแม้จะขับรถเก่าๆ ญาติอาแปะเค้าก็เรียกเสี่ยบ้าง อาเฮียบ้าง (เพราะญาติส่วนมากจน)..
พอมาทำสวน แม่ค้าตลาดนัดชอบเรียก โก๊บ้าง พี่บ้าง (ทำสวนดูหนุ่มขึ้นมั๊ง.?)..
แต่พอเดินห้าง แคชเชียร์ห้างเรียกลุง..(ซะงั้น)
ทั้งหลายทั้งปวง ใครจะเรียกอย่างไร อาแปะก็เฉยๆนะ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นอย่างที่เค้าเรียก ..
ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะลบหรือจะบวกอย่างที่เค้าเรียก เพราะการกระทำของเราสำคัญต่อตัวเรามากกว่าฉายานามที่เค้าตั้งให้..
เมื่อเราทำดีด้วยความดีจากภายในใจจริงๆ ตัวเราย่อมเสวยสุขแห่งผลดีนั้นโดยเป็นอิสระจากเสียงสะท้อนใดๆ..
ตรงกันข้ามหากเราแสแสร้งทำดี แต่ในใจไม่มีความดีตามครรลองของธรรม ผิดทั้งหลักเศรษฐศาสตร์ ผิดทั้งหลักนิติศาสตร์ เราก็ย่อมเสวยผลแห่งกรรมไม่ดีนั้นเอง แม้ไม่มีเสียงสะท้อน กรรมก็ย่อมสะท้อนตัวเองได้ในไม่ช้า...
อาแปะสายขาว ฝากไว้ให้คิด
อมิตพุทธ...
ช่วงนี้อาแปะพยายามเก็บกวาดบ้านให้สะอาด ...เก็บเศษวัสดุก่อสร้างที่มันกองเรี่ยราดรกบ้านนานแล้วมาใช้ให้หมด.. ส่วนไหนที่ไม่ใช้ก็เผาทิ้ง..
มีเศษกระเบื้องเหลือๆกองทิ้งไว้ก็เลยเอามาปูๆแปะๆ เป็นการใช้วัสดุให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด (เศรษฐศาสตร์พื้นฐาน+ผู้นำที่ใส่ใจบริวาร)...
เป็นตัวอย่างของการทำเอง ทำตามฐานาฐานะคนจน สิ่งที่ทำย่อมให้ความสุขและประโยชน์ทั้งแก่ตนและบริวาร... ดังนี้แล..
จนก็สร้างกรรมแบบจนที่ดี..
มีก็สร้างกรรมแบบรวยที่ดี..
ผู้นำพึงสร้างกรรมแบบผู้นำที่ดี..
ดังนี้...สังคมย่อมสงบสุข ตามฐานาฐานะของแต่ละฝ่าย..นั่นแล..
"ฉายา" คือมายา ที่สำคัญกว่าคือการกระทำของตนว่าเหมาะสมตามฐานาฐานะหรือไม่อย่างไร...
..อย่างอาแปะนี่ใครมาเรียกฉายาอย่างนั้นอย่างนี้อาแปะเฉยๆนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้าเรียกตามที่เค้าเห็นใน "อัตลักษณ์ของเรา"..
สมัยเด็กๆ เพื่อนมัธยมอาแปะเรียก "ปู่" อยู่บ่อยครั้ง เพราะอาแปะผมขาวแซมมาตั้งแต่เด๋็ก (ไฟธาตุแรงเว่อร์)..
พอมาเป็นพ่อค้ามีร้านค้าของตนเองแม้จะขับรถเก่าๆ ญาติอาแปะเค้าก็เรียกเสี่ยบ้าง อาเฮียบ้าง (เพราะญาติส่วนมากจน)..
พอมาทำสวน แม่ค้าตลาดนัดชอบเรียก โก๊บ้าง พี่บ้าง (ทำสวนดูหนุ่มขึ้นมั๊ง.?)..
แต่พอเดินห้าง แคชเชียร์ห้างเรียกลุง..(ซะงั้น)
ทั้งหลายทั้งปวง ใครจะเรียกอย่างไร อาแปะก็เฉยๆนะ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นอย่างที่เค้าเรียก ..
ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะลบหรือจะบวกอย่างที่เค้าเรียก เพราะการกระทำของเราสำคัญต่อตัวเรามากกว่าฉายานามที่เค้าตั้งให้..
เมื่อเราทำดีด้วยความดีจากภายในใจจริงๆ ตัวเราย่อมเสวยสุขแห่งผลดีนั้นโดยเป็นอิสระจากเสียงสะท้อนใดๆ..
ตรงกันข้ามหากเราแสแสร้งทำดี แต่ในใจไม่มีความดีตามครรลองของธรรม ผิดทั้งหลักเศรษฐศาสตร์ ผิดทั้งหลักนิติศาสตร์ เราก็ย่อมเสวยผลแห่งกรรมไม่ดีนั้นเอง แม้ไม่มีเสียงสะท้อน กรรมก็ย่อมสะท้อนตัวเองได้ในไม่ช้า...
อาแปะสายขาว ฝากไว้ให้คิด
อมิตพุทธ...
ช่วงนี้อาแปะพยายามเก็บกวาดบ้านให้สะอาด ...เก็บเศษวัสดุก่อสร้างที่มันกองเรี่ยราดรกบ้านนานแล้วมาใช้ให้หมด.. ส่วนไหนที่ไม่ใช้ก็เผาทิ้ง..
มีเศษกระเบื้องเหลือๆกองทิ้งไว้ก็เลยเอามาปูๆแปะๆ เป็นการใช้วัสดุให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด (เศรษฐศาสตร์พื้นฐาน+ผู้นำที่ใส่ใจบริวาร)...
เป็นตัวอย่างของการทำเอง ทำตามฐานาฐานะคนจน สิ่งที่ทำย่อมให้ความสุขและประโยชน์ทั้งแก่ตนและบริวาร... ดังนี้แล..
จนก็สร้างกรรมแบบจนที่ดี..
มีก็สร้างกรรมแบบรวยที่ดี..
ผู้นำพึงสร้างกรรมแบบผู้นำที่ดี..
ดังนี้...สังคมย่อมสงบสุข ตามฐานาฐานะของแต่ละฝ่าย..นั่นแล..