รีวิว ประสบการณ์ทำตาสองชั้น
 

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวประสบการณ์การทำตาสองชั้นของเรา ซึ่งครั้งนี้นับว่าเป็นการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเลย ปกติเราเป็นคนไม่ทนเจ็บ ไม่ชอบความรู้สึกว่าจะต้องเจ็บ ถอนฟันยังไม่เคยทำเลย555555 ตอนตัดสินใจว่าจะทำตาเลยลองหาข้อมูลก่อนว่าเจ็บแค่ไหน สรุปว่าไม่มีใครสามารถเล่าให้เรารู้สึกได้ว่ามันเจ็บแค่ไหน เนื่องจากได้ไปประสบพบเจอเองมาแล้ว วันนี้เราจะเน้นพูดถึงเรื่องความรู้สึกระหว่างทำนะคะว่าเป็นยังไง เจ็บแค่ไหนบ้าง
 

ตอนแรกก็มีการพูดคุยกับคุณหมอก่อนเข้าไปทำว่าต้องการชั้นตาประมาณไหน มีการเปิดเรฟให้หมอดูว่าเราอยากได้แบบนี้ๆ นะ คือเรามีชั้นตาอยู่แล้วแต่มีน้อยแล้วก็ไม่ชัด คุณหมอก็จัดการมาร์คตาเราเรียบร้อย ก่อนที่เราจะไปล้างหน้ากัน และกินยาพารากับยาลดการแข็งตัวของเลือด รอยาออกฤทธิ์ซักพักก็พร้อมเข้าห้องเชือดแล้ว
 

ตอนแรกเราไม่ได้รู้สึกกลัวเลย ปกติมาก แต่พอได้เข้าไปนอนบนเตียงเท่านั้นแหละ รู้เลยว่ากลัวมาก เครียดมาก เครียดจนรู้สึกคลื่นไส้เลย กลัวอย่างเดียวว่าจะเจ็บ คือคุณหมอยังไม่ทันเริ่มทำอะไร แค่วัดตา จัดผ้า จัดเตียงเตรียมอุปกรณ์ แต่เรานี่นอนจิกเท้านิ่งเลย ถึงจะกลัวแค่ไหน แต่มาอยู่ตรงนี้แล้วก็ต้องผ่านไปให้ได้! แนะนำว่าพยายามทำใจให้สงบนะคะ พอเครียดเยอะมันจะแอบกดดันทั้งตัวเองทั้งคูณหมอเลย หายใจเข้า หายใจออกยาวๆ ไว้ 
 

ก่อนจะเริ่มผ่าตัด คุณหมอมีการเจาะปลายนิ้วตรวจ HIV ให้ด้วย ก็รู้สึกว่าเป็นคลินิคที่ปลอดภัยดี แต่ประเด็นคือเข็มที่คุณหมอใช้เจาะปลายนิ้วมันไม่ใช่เข็มเล็กๆ แบบที่เจาะเบาหวาน หรือว่าที่เคยเจาะในโรงพยาบาล แต่เป็นเข็มใหญ่แบบเข็มเจาะเลือดเลย คุณหมอบอกว่าอันนี้เจ็บนะ เจ็บมาก แล้วก็จึ้กเข้ามาเลย รู้สึกว่าเป็นการแทงที่ลึกมาก คือแทงเข็มตรงๆ ลงมาที่นิ้วเลย ยังไม่ทันเริ่มโดนตาก็เจ็บขนาดนี้แล้ว ชั้นจะรอดมั้ยยย
 

ทีนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว เริ่มทุกอย่างด้วยการฉีดยาชา คุณหมอบอกว่าเป็นขั้นตอนที่เจ็บที่สุดแล้ว นี่ก็เครียดเลย รู้สึกเลยว่ากำมือแน่นมาก หมอบอกว่าเจ็บเหมือนที่เจาะปลายนิ้ว นี่อุทานในใจเลยว่าตายแน่ชั้น เพราะปลายนิ้วเมื่อกี้เจ็บมาก แล้วนี่มาอยู่ที่ตา แต่ยังไม่จบ หมอบอกว่าเจ็บเหมือนเจาะปลายนิ้วเมื่อกี้ แต่เพิ่มเติมคือมีความแสบของยาชาด้วย พอได้ยินแบบนี้ในใจตอนนั้นคืออยากจะลุกแล้ว ไม่เอาแล้ว ชั้นมาทำอะไรที่นี่ ความมุ่งมั่นตั้งใจดุดันไม่เกรงใจใครตะกี้หายไปหมดเกลี้ยง แต่ทุกอย่างมันพร้อมหมดแล้ว หนีไม่ได้แล้วจ่ะ
 

หมอบอกว่าจะฉีดแล้วนะ โมเม้นที่เข็มแทงเข้าตาคือแย่มากทุกคน อยากจะกรี้ด มันเจ็บแบบจี๊ด เหมือนเจาะเลือดแต่เป็นที่ตาอ่ะ เสียวไปทั้งหน้า แต่แค่แทงเข็มเข้ามามันยังไม่จบ เพราะโมเม้นที่ยาชาไหลเข้าตาคือแสบจริง จี๊ดทั้งตา ชาไปทั้งหน้า คือรู้สึกได้ สัมผัสได้ถึงยาที่กระชายตัวไปรอบๆ อ่ะ มันร้อนวูบว้าบ จี๊ดไปหมด น้ำตาแทบไหลเลย จนหมอดึงเข็มออก นึกว่าจะจบแล้วแต่ยัง เพราะเราต้องฉีดสองข้าง อีกข้างนึงพอรู้ว่าจะรู้สึกยังไงคือแย่กว่าเดิมอีก เป็นขั้นตอนที่ทรมานจิตมาก
 

จากนั้นคุณหมอก็กดๆ ดันๆ ตา อันนี้ก็เจ็บ แค่ว่าต้องกดตาเราไว้ให้ยาชากระจายไปทั่วตา ซึ่งต้องกดแรงมากๆ หมอแทบจะทุ่มน้ำหนักใส่ตาเราแล้ว ทิ้งไว้ซักพักนึงความวูบวาบก็หายไป แล้วคุณหมอก็ทำท่าเหมือนจะไปขั้นตอนต่อไปต่อ แต่ทางนี้ยังรู้สึก คือเวลาที่หมอจับตาหรืออะไรก็ยังรู้สึกได้ว่าหมอจับเราอยู่นะ อยางงี้มันจะเรียกชาได้เหรอ แล้วมันจะเจ็บมั้ย หมอจะเริ่มเลยเหรอ คือเราเป็นคนนึงที่ไม่เคยเข้าใจความหมายของยาชาว่ามันทำให้ชาได้ขนาดไหน แบบจับแล้วไม่รู้สึกเลยใช่มั้ย แต่ ณ ตอนนี้เรายังรู้สึกอยู่ แปลว่ามันยังไม่ชารึเปล่า
 

หมอจับตาเรา (โดยที่เรารู้สึกว่าหมอจับ) แล้วหมอก็บอกว่าเริ่มเลยนะ จากนั้นหมอก็ใช้เครื่องจี้ ที่คิดว่าน่าจะจี้กรีดตา (คิดว่าใช่) เราคือแบบฮึบแล้ว ต้องรู้สึกเจ็บแน่เลย แต่ความอัศจรรย์คือเรารู้ทุกอย่างว่าเค้ากำลังจะทำอะไร แต่เราไม่รู้สึกอย่างเดียวคือไม่รู้สึกเจ็บ แปลกมาก เป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะไปหาที่ไหน คือสัมผัสได้หมดเลยนะว่าตอนนี้จี้แล้ว ตอนนี้ดึงแล้ว ตอนนี้หมอคงชำแหละตาเราเห็นไปถึงลูกตาแล้วรึยังก็ไม่รู้ แต่เราไม่เจ็บ อยากจะขอให้หมอถ่ายคลิปไว้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง 
 

จริงๆ จะบอกว่าไม่เจ็บก็ไม่เชิง ด้วยความที่เราหลับตาอยู่ ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเส้นประสาทตาเราถูกรบกวนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน คือตอนหลับตาไฟที่หมอส่องมามันก็เหลืองๆ นวลๆ แต่พอหมอจับนู่นนี่นั่นในตาเรา เราเห็นแสงนวลๆ นั้นเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ อ่ะทุกคน แบบจากเหลืองกลายเป็นฟ้า เขียว ม่วง ชมพู ส้ม แดง ในขณะที่หลับตา แสงในความมืดมันเปลี่ยนสีได้ เหมือนทีวีที่โดนช่างไฟสะกิดสายไฟจนจอมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อ่ะ เป็นความรู้สึกที่แปลกและอัศจรรย์มาก เลยถามหมอวามันปกติมั้ย หมอเลยให้ลองลืมตา เราลืมตามาแบบตึงๆ ก็ยังเห็นภาพอยู่เลยโอเคว่าอย่างน้อยก็ตาไม่บอด หลับตาให้หมอทำต่อได้
 

ระหว่างทำคือมันรู้สึกนะ มันไม่ใช่นอนชิลไม่รู้สึก ถึงจะไม่เจ็บแต่ก็รู้สึกนิดนึงว่าตาเราโดนกระทำชำเราอยู่ ระคายเคืองหน่อย แต่ก็ทนไหว ไม่นานหมอก็ขยับมาทำอีกข้างนึง ฟิลเดียวกันเป๊ะ จะบอกว่าตอนใช้เครื่องจี้มีกลิ่นด้วยนะ นอนอยู่แล้วหมอยิงเครื่องจี้ปี๊ดนึง กลิ่นแบบกุ้งเผาลอยมาเลย หิว5555555
 

ทำไปซักพักก็เหมือนจะกรีดเสร็จแล้ว ถึงขั้นตอนการเย็บ กลับมาเย็บข้างแรกที่ทำก่อน เรารู้สึกได้ถึงเข็มที่จิ้มแล้วก็ไหมที่ถูกดึงผ่านตาเราอ่ะทุกคน ฟังดูขนลุกแต่มันไม่เจ็บจริงๆ นะ เป็นความรู้สึกเสียวๆ ลึกๆ บอกไม่ถูก หมอก็ค่อยๆ ดึงไหม มัดปมทีละเส้นๆๆ พอเสร็จก็มาอีกฝั่งนึง ทีนี้ตอนจิ้มเข็มลงฝั่งนี้เราเริ่มรู้สึกมากขึ้นมาเข็มมันจิ้มเข้าตาเรามาแล้วนะ เลยบอกหมอว่าเอ้ย มันรู้สึกแล้วอ่ะ หมอเลยบอกวางั้นเดี๋ยวฉีดยาชาเพิ่มให้  ครั้งนี้พอเข็มยาชาจิ้มก็ยังเจ็บอยู่ แต่เจ็บน้อยกว่าครั้งแรกมากเพราะยังพอมีชาชาเหลืออยู่ จากนั้นหมอก็เย็บต่อไม่รอแล้วนะ ชิลขึ้นกว่าตะกี้เยอะเลย
 

จะบอกว่าตอนฉีดยาชามันชามาถึงฟันเลยนะ55555 เหมือนพอเรากลัวเราก็กัดฟันตัวเองใช่มั้ย ความรู้สึกมันแบบนัวๆ เบลอๆ ในฟันอ่ะ เหมือนคนเสียวฟันเบาๆ แล้วมันจะซ่าๆ ฟิลนั้นเลย ซึ่งระหว่างทำบอกได้เลยว่ากลัวมาก ถึงไม่เจ็บแล้วแต่มันเสียวมากๆ นอนกำมือแน่นตลอดการทำเลย
 

พอเสร็จ คุณหมอก็ให้ลองลืมตา แล้วก็มาดูว่าโอเคมั้ย เท่ากันมั้ย หมอบอกว่าน่าจะเอาไขมันออกอีกหน่อย เลยจี้อีกรอบ เพื่อดึงไขมันตรงเปลือกตาออก โมเม้นนี้อ่ะทุกคน มันแบบรู้สึกได้เลยว่าอะไรในตาเรามันถูกฉุดออกมา แล้วหมอก็บอกผู้ช่วยว่าตัดเลย แล้วเราก็ได้ยินเสียง ฉับ คือน่าจะกรรไกรตัดก้อนไขมันอันนั้นออก ซึ่งแบบ เสียงมันอยู่ใกล้มาก จริงมาก เหมือนส่วนหนึ่งของตาถูกตัดออกโดยที่เราไม่รู้สึกเจ็บ
 
แล้วคุณหมอก็จัดการเย็บอีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อยยย ลืมตามาด้วยความหน่วงๆ ตึงๆ แต่มองเห็นทุกอย่างปกติ นั่ง MRT กลับบ้านได้เองอย่างสบายใจ
 
สรุปว่า การทำตาสองชั้นเนี่ยมันก็เจ็บแหละ เจ็บที่สุดคือตอนฉีดยาชา ส่วนหลังจากนั้นมันจะเป็นความรู้สึกที่เหมือนจะไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวสบายตาซะมากกว่า เราเคยเห็นภาพคนที่ทำตาสองชั้นพึ่งเสร็จ มันดูน่ากลัว ดูบวมเยอะ ดูเจ็บมากๆ แต่ในความจริงถึงสภาพจะดูเป็นแบบนั้นแต่ความรู้สึกคนโดนแทบไม่เจ็บเลยนะคะ ใครที่มีแพลนจะไปทำแล้วยังกลัวๆ หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยได้ไม่มากก็น้อยน้า
 
ใครที่เคยทำตาสองชั้นมาแล้ว มีประสบการณ์อะไรอยากมาแชร์ สามารถแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะคะ เราก็อยากอ่านประสบการณ์ของคนอื่นเหมือนกันว่าะเป็นยังไงบ้าง555555
 
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ