ทำไม?

ปัญหามักเป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกันของคนหลายคน โดยพื้นฐานสถาบันครอบครัวคือที่แรกที่ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น เป็นพี่คนโตค่ะตอนนี้เรียนม.ปลายแล้วที่บ้านไม่ได้มีตังค์แต่ก็พอมีพอใช้ มีน้องคนหนึ่งเรียนอยู่ม.ต้น เรา2คนต่างกันมากแต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนคือการมีความคิดเป็นของตัวเอง ที่บ้านเลี้ยงต่างกันมากต้วยความที่เป็นลูกคนแรกพ่อแม่เลี้ยงแบบลองผิดลองถูก ในตอนเด็กการสอนของเขาหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจเลย เป็นพี่ทำไมอย่างงั้นอย่างงี้ จนทำให้เราเกลียดการเป็นพี่ไปเลยค่ะ ด้วยตอนนั้นเด็กมากแค่อนุบาลเราไม่รู้อะไรที่เขาคิดหรือต้องการจะบอก อย่างน้องไปเล่นจนเย็นแล้วพึ่งกลับบ้านแม่ก็จะเรียกมาหาทั้งคู่แล้วตีเรากับน้องแต่น้องก็วิ่งหนีตลอดไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดอะไรจำความรู้สึกไม่ได้เลยเรายอมโดนตีทุกครั้งไม่เคยที่จะหนีเลยไม่รู้ทำไม คิดหาแค่ทำไมๆๆๆๆ จนกลายเป็นว่าบ่อยครั้งที่โดนตีเป็นเพราะน้อง ทำให้เกลียดมันไปเลยจะบอกว่าตอนเด็กน้องติดเรามากแต่ตอนนั้นเกลียดมันไปแล้วจะชอบพูดแรงใส่ประมาณว่า อย่ามาใกล้ ไม่ชอบ รำคาญ อย่ามายุ่งกับกู กูไม่เคยอยากได้เป็นน้องหรอก ไม่รู้ว่าถ้าตอนนั้นเราสนใจความรู้สึกน้องมันกว่านี้ตอนนี้อาจจะเป็นพี่น้องที่รักกันมากก็ได้ ตอนแรกก็ไม่คิดจะมาเขียนอะไรแบบนี้หรอกแต่ตตอนนี้ที่บ้านน้องกับแม่ทะเลาะกัน คือทำไมถึงต้องรู้สึกผิดก็ไม่รู้เหมือนกัน น้องมันบอกกับแม่ว่า แล้วมีทำไมแต่แรกไม่ได้อยากเกิดมาหรอก ถ้าระหว่างอดตายกับขายยาแล้วมีตังค์ใครมันจะยอมอดตาย ถ้าเลือกได้คงเกิดเป็นลูกคนรวยเรียนจบสูงแล้วยังจนอยู่ทำไมไม่เรียนแค่ม.1 นี่เป็นคำพูดของคนที่เป็นลูกจริงๆ ทุกคนทำทุกอย่างย้อนแย้งกับสิ่งที่พูด ทั้งที่บอกให้อีกฝ่ายคิดก่อนพูดแต่ก็พูดไม่คิดทั้งคู่ เลี้ยงลูกยังไงถึงสันดานแบบนี้ โตมายังไงถึงทำตัวแบบนี้ ไม่ได้มองหรือตัดสินจากคนทั้งสองฝ่ายแต่เป็นมุมมองจากคนในครอบครัว เวลาทะเลาะทีไรแม่ชอบพูดไม่ดีใส่ แบบ โตขนาดนี้แล้วยังคิดไม่ได้ทำไมไม่ตายไปเลยล่ะ หัวสมองหัดคิดบ้าง โตมาไร้ประโยชน์ ทุกๆครั้งก็จะตอบโต้กลับไปจนโตขึ้นมาเรื่อยๆ เราเลือกที่จะเงียบเพราะเราไม่เข้าใจ การที่อยากจะใช้ชีวิตแบบเด็กน้อยคนหนึ่ง ตอนที่เรียนช่วงประถมเป็นช่วงที่ทรมานสุดในชีวิตเลยแหละ เราไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านหลัง5โมงเย็น ไปเรียนเสร็จกลับบ้านทำการบ้านเรียนพิเศษเสาร์อาทิตย์ ตั้งแต่ป.1-6สอบได้ที่1ตลอด  เหนื่อยมากค่ะเหนื่อยมากๆตอนนั้นไม่ใช่แค่เรื่องเรียนใหนจะกิจกรรม ยิ่งช่วงใกล้จบตอนนั้นเป็นประธานนักเรียนวุ่นวายมากยิ่งต้องไปเรียนต่อคือเรามาเรียนไกลบ้านแต่ก็ไปกลับระยะทางไกลพอสมควร พอได้มาอยู่ไกลๆเราทำตัวแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนตั้งใจเรียนน้อยมาก ตั้งแต่เด็กก็ทำอะไรเองมาโดยตลอดเลยไม่ได้มีปัญหากับการเข้าเรียนกับสังคมใหม่ๆเท่าไหร่  น้องเรียนคนละที่กับเราน้องเรียนรร.ประจำอำเภอเราเรียนรร.ประจำจังหวัด พ่อแม่ค่อนข้างตั้งความหวังกับความสำเร็จเรามากๆโดยเฉพาะแม่ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต้องพยายามแค่ไหนถึงจะทำในสิ่งที่แม่ต้องการ เราตั้งใจเรียนเข้าร่วมกิจกรรมหลายๆอย่างช่วงประถมเพราะคิดว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะได้รับความสนใจ แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ได้รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวัง วันนั้นสอบมิดเทอมเราสอบแล้วเอาคะแนนมาบอกกับแม่ คะแนนเราค่อนข้างดีเลยค่ะ19/20 แม่บอกกลับมาว่าก็ดีนี่ดูน้องสิสอบได้16/30ผ่านมาได้แบบฉิวเฉียวแล้วแม่ก็พูดไปขำไป ตอนนั้นน้อยใจจนต้องเก็บมาร้องไห้เลยค่ะพราะเคยได้คะแนนแค่ผ่านแล้วคำพูดที่ได้รับกลับมามันต่างกันมากจริงๆ ถามความฝันอยากเป็นนั้นเป็นนี่มั้ยแต่พอกับน้องแม่บอกแค่ว่าอยากเรียนอะไรก็เรียนไปเถอะ ตอนนี้เราโตพอที่จะคิดได้แล้วแต่ก็ยังคิดน้อยใจกับเรื่องพวกนี้ โดนยัดเยียดความฝันโดนตั้งความคาดหวังตอนนี้ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็นอยากจะเรียนคืออะไรกันแน่เพราะมัวแต่ทำตามความคาดหวังของคนอื่นมาตลอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่