คิดอย่างไรที่ปัจจุบันมีการรณรงค์ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ

ปัจจุบันสถานประกอบการในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต่างให้ความสนใจกับการจ้างงานผู้สูงอายุกันมากขึ้น เนื่องมาจากการเข้าสู่สัคมผู้สูงอายุ (Aging Society)  ของทั่วโลก โดยได้ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของแรงงานผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนาน จึงเพียบพร้อมไปด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิ สามารถช่วยให้ผลผลิตของงานออกมาอย่างมีคุณภาพ  ลดความผิดพลาดและความเสียหายของงาน
 
- ประเทศที่จ้างงานผู้สูงอายุสูงสุด 10 อันดับ ปี 2563
   อันดับ 1. ไอร์แลนด์
   อันดับ 2. ญี่ปุ่น
   อันดับ 3. อินโดนีเซีย
   อันดับ 4. นิวซีแลนด์                      
   อันดับ 5. เกาหลี
   อันดับ 6. อิสราเอล
   อันดับ 7. เอสโตเนีย
   อันดับ 8. สวีเดน
   อันดับ 9. นอร์เวย์
   อันดับ 10. เนเธอร์แลนด์                                                                                                                                                                                                                              (ที่มา : https://www.oecd-ilibrary.org)
 
- จ้างงานผู้สูงอายุดีอย่างไร?
  1. ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากค่าจ้างผู้สูงอายุเป็นจำนวน 2 เท่า ทำให้สถานประกอบการมีกำไรเพิ่มมากขึ้น โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
       (1) ผู้สูงอายุที่จ้างต้องมีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
       (2) ผู้สูงอายุเป็นลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างอยู่ก่อนวันที่ 2 มีนาคม 2560 หรือเป็นผู้สูงอายุที่ได้ขึ้นทะเบียนหางานไว้กับกรมการจัดหางาน
       (3) ผู้สูงอายุต้องไม่เป็นและไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน
       (4) ค่าจ้างผู้สูงอายุไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท กรณีที่จ้างเกินเดือนละ 15,000 บาท ไม่สามารถหักภาษีได้ 2 เท่า แต่ยังคงนำค่าจ้างไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้ตามปกติ   
       (5) จำนวนผู้สูงอายุที่จะนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมดของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
       (6) จัดทำรายงานเกี่ยวกับการจ้างงานผู้สูงอายุที่จะนำมาใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามแบบที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 โดยให้เก็บรักษารายงานดังกล่าวไว้ ณ สถานประกอบการ
       (7) แจ้งข้อมูลของผู้สูงอายุที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะนำมาใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ภายใน 150 วัน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ตามแบบแจ้งการใช้สิทธิบนเว็บไซต์ http://www.rd.go.th
                                                                                              (รายละเอียดดูพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 และ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290 และ 379)ฯ)
  2. ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานของสถานประกอบการ
  3. ได้ผู้ที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และประสบการณ์การทำงานไปช่วยทำงาน
  4. ไม่ลางานบ่อย
  5. ตรงต่อเวลา
  6. ใส่ใจในการทำงาน
  7. ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร 
  8. ได้ข้อคิดจากประสบการณ์ชีวิตของผู้สูงอายุ
 
- ปัจจุบันมีสถานประกอบการใดบ้างที่จ้างงานผู้สูงอายุ?
  1. บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด
  2. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) 
  3. บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (บิ๊กซี)
  4. บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส)
  5. บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)
  6. บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด
  7. บริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซส อัลไลแอนซ์ จำกัด (คาเฟ่ อเมซอน)
  8. บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (KFC)
                                 ฯลฯ
 
- หาผู้สูงอายุมาทำงานได้จากที่ไหนบ้าง?
  1. สถานประกอบการประกาศรับสมัครงานสำหรับผู้สูงอายุโดยตรงผ่านช่องทางของสถานประกอบการ
  2. สถานประกอบการลงประกาศรับสมัครงานผู้สูงอายุผ่านเว็บไซต์ https://thaimengaantam.doe.go.th ของกรมการจัดหางาน
  3. ติดต่อศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด
 
- ผู้สูงอายุสมัครงานได้จากที่ไหนบ้าง?
  ผู้สูงอายุที่ประสงค์จะทำงานสามารถสมัครงานได้ตามช่องทางที่สถานประกอบการประกาศรับสมัครงาน (ดูหัวข้อ “หาผู้สูงอายุมาทำงานได้จากที่ไหนบ้าง”)
 
 
ที่มา : กองพัฒนาระบบบริการจัดหางาน กรมการจัดหางาน 
          สายด่วนโทร 1694
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่