1.เรา คือผู้เช่าได้เช่าที่จากนาย ก. เพื่อสร้างร้านค้า(สร้างเองเช่าที่ดินเปล่า)โดยทำสัญญากันทุก 3 ปี

2.นาย ก. เช่าที่ดินเปล่าจากนาย ข.มาอีกทีเพื่อมาแบ่งล๊อคปล่อยให้เช่า นาย ก.ทำสัญญาเช่าจากนาย ข. ปีต่อปี(อันนี้มารู้ภายหลังจากที่นายข. มาที่ดินตัวเองเพื่อขอโทษร้านค้าที่เขาขอยกเลิกสัญญา แต่เขาได้แจ้งนาย ก. มาตั้งแต่ปีที่แล้ว)

3.นาย ข. เจ้าของที่ดิน

สิ้นปีนี้เจ้าของที่ดินต้องการที่ดินคืน ในสัญญาระบุว่าเราต้องส่งมอบพื้นที่เปล่าไม่มีสิ่งปลูกสร้างตอนหมดสัญญา **แต่สัญญาเรากับนาย ก. หมดสิ้นเดือนธันวาคมปี 2566 นาย ก. ได้เสนอให้เราลื้อร้านทั้งหมดก่อนสิ้นปี โดยจ่ายค่าลื้อร้าน 5000 บาทเขาเอาหนังสือยกเลิกสัญญามาให้เราเซ็นยอมรับ เราว่ามันน้อยไป เราทำร้านนี้ประมาณ 150,000 กับราคาวัสดุเมื่อ 8 ปีก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจ่ายค่าเช่าตรงมาตลอด นาย ข. บอกว่าได้แจ้งนาย ก.มาตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะไม่ต่อสัญญานะ แต่นาย ก. เลือกที่จะไม่บอก จนประมาณ พ.ค. 2565 นาย ก.มาบอกปากเปล่าว่าร้านอยู่ได้แค่สิ้นปีนะ มาด่า นาย ข. ว่ารังแกคนจนแบบเรา ร้องไห้ร้องห่มขอความเห็นใจ บอกถูกฉีกสัญญา บอกโดนโกง และด่าให้เราเกลียดเจ้าของที่สารพัด เริ่มบอกร้านค้าที่ต้องการย้ายออกสามารถย้ายออกได้เลยโดยไม่ต้องอยู่จนครบสัญญาก็ได้ แต่เลือกที่จะบอกเป็นบางร้าน สำหรับร้านที่ขายไม่ดีอยู่แล้ว เจอข้อเสนอนี้ก็ยอมลื้อร้านออกแต่โดยดี เพราะร้านค้าเองเงียบมาตั้งแต่โควิดระบาด ก็จะเหลือแค่ร้านที่ขายได้และมีลูกค้าประจำอยู่ที่ยังไม่ย้ายออก มาตอนนี้ นาย ก. ก็ไม่ได้เรียกร้านค้าประชุมแต่อย่างใด ได้แต่บอกว่าเห็นใจเขาเถอะถือว่าช่วยๆกัน นี่จะสิ้นปีแล้ว

แบบนี้เรารู้ว่าเราต้องย้ายออกแหละแต่เราจะเรียกร้องอะไรกับนาย ก. ได้มั่งไหมจะไปหาที่ทำร้านใหม่ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น ค่ามัดจำล่วงหน้า ค่าสร้างร้านอีก เราเองก็เจ็บมาจากโควิดหนักเหมือนกัน ตอนนี้ไม่รู้จะทำไง

ปล.นาย ก. เป็น ผญบ มีแต่คนเตือนว่าให้ระวังอำนาจมืด ส่วนร้านที่เหลือส่วนใหญ่เป็นคนให้หมู่บ้านก็เลยเหมือนจะยอม กลายเป็นเราร้านเดียวที่เหมือนจะมีปัญหากับเขา

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่พอจะมีแนวทางแก้ไขให้นะคะ