ธุรกิจที่มีปัญหา และพ่อสามีที่มีสองครอบครัว

เราก็เป็นคนปกติทั่วไปแต่งงานมีครอบครัว และย้ายมาอยู่กับครอบครัวสามี ซึ่งเป็นโรงงานแห่งหนึ่ง
แต่โรงงานมีปัญหาเรื่องการเงิน ต้องขอหยิบยืมเพื่อมาหมุน ซึ่งครอบครัวเค้าก็ได้ยืมเงินเราไปจำนวนหนึ่ง
ซึ่งก็เป็นจำนวนที่มากสำหรับเรา และยังไม่ได้คืน เนื่องจากการเงินมีปัญหา ซึ่งเราก็พยายามเข้าใจ
เพราะก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และต่อมาก็ได้ขอลดเงินเดือนสามีเรา เพราะไม่ไหวกับการต้องหาเงิน ไม่เพียงพอ
ซึ่งพี่น้องสามี ก็มีการช่วยเหลือให้หยิบยืมเช่นกันนะคะ แต่ทุกคนออกไปมีธรุกิจการงานตัวเองด้านนอก และได้บ้านอยู่อาศัย
ถึงอาจจะติดธนาคารอยู่ แต่โรงงานก็เป็นผู้ผ่อนชำระให้ จนทุกคนตั้งตัวกันได้หมดแล้ว เหลือแค่สามีเรา เพราะสามีเราไม่อยู่
ธุรกิจก็ต้องล้มเลิก ด้วยพ่อแม่ที่อายุเยอะแล้ว ทำให้เราซึ่งอยากออกเหมือนคนอื่นๆ อยากได้บ้านตั้งหลักเหมือนใครๆ
มันก็ไม่มีเหลือให้เราแล้ว ก็ต้องพยายามทำกันต่อไป และหวังว่าอนาคตธุรกิจถ้าผ่านช่วงวิกฤตเราจะสบายขึ้น

แต่ในขณะที่การเงินยังมีปัญหา พ่อสามีที่จริงๆ มีปัญหาเรื่องเมียน้อย ให้แม่สามีมาบ่นให้ฟัง วันนึงจับได้ว่า
เค้ามีลูกกับเมียน้อย ซึ่งที่ทราบมา มีแบบตั้งใจ เพราะไม่อยากให้เมียน้อยหายไปไหน มิหนำซ้ำ ยังบอกว่าอยากมีคนที่สอง
เพราะอยากมีลูกสองคน แม่สามีตอนแรกบอกว่าถ้ามีคนที่สอง ยังไงก็ไม่เอา ไม่ช่วยเหลือแล้ว แต่สุดท้าย...
ใช่คะ... เค้ามีคนที่สอง และใช่คะ... แม่สามีก็ยอม เพราะรัก แม่สามีเรารักพ่อสามีมากนะคะ รักแบบมากๆ ซึ่งที่ผ่านมา
ก็ยอมทุกอย่าง ทำให้เรื่องนี้สุดท้ายเค้าก็ยอม และสิ่งที่เราให้เราอึ้งไปคือ เค้าให้เมียน้อยออกจากงาน
(อดีตเมียน้อยเคยเป็นคนงานในโรงงานค่ะ แต่ต่อมาก็ออกไป โดยพ่อสามีแอบส่งเสียให้เรียนจนจบป.ตรี และได้ไปทำงานที่อื่น)
เราแค่ งง ว่า การเงินมีปัญหามาก ทำไมถึงให้ออกงานจาก ทำไมไม่ให้เค้าทำงานหาเลี้ยงลูก
ซึ่งแม่สามีบอกว่า เมียน้อยบอกว่า ถ้าต้องทำงาน เค้าจะทิ้งลูกไว้ ให้แม่สามีดู ซึ่งแม่สามีไม่โอเคที่จะดูเด็กตลอดเวลา
เลยให้ออกมาเลี้ยงลูก แต่เราก็คุยกับสามีว่ามันแค่ตอนเด็กยังเล็กนะ วันนึงเด็กเข้าเรียน เค้าก็ต้องกลับไปทำงานหาเงินเลีย้งลูก
ไม่ใช่ขอเงินโรงานแบบนี้ ขณะที่ทุกคนยังเจอปัญหาการเงิน และต้องให้หยิบยืมเงินกันอยู่เลย แม้แต่เงินเราก็ไม่คืน
เราเองก็ยังต้องทำงานหาเงิน และขณะเดียวกันก็เลี้ยงลูก ทำงานบ้านทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว
ถ้ามันจำเป็นเราเข้าใจได้ เพราะถ้าเค้าออกจากงานเลี้ยงลูก ขณะลูกเล็ก ก็ต้องมีเงินกินเงินใช้ แม้แต่ส่วนของเมียน้อยเอง
เวลาผ่านมา เค้าก็อยู่กันแบบ เหมือนคนครอบครัวเดียวกัน ลูกเมียน้อยก็มาอยู่ร่วมไปๆมาๆ และค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โรงงานออก
ค่าเทอม ค่าให้เงินเด็กคนโตไปโรงเรียน ค่ากิน ไปหาหมอ ค่าใช้จ่ายต่างๆ และให้เงินเดือนที่เค้าบอกว่าเงินเดือนพ่อสามีให้กับเมียน้อย
เวลาผ่านมา จนคนเล็กใกล้เข้าเรียน เราเลยท้วงถามสามีเรา แต่คำตอบจากแม่สามีกลับบอกว่า เค้าจะไม่ทำงานหรือทำงานเราบังคับเค้าไม่ได้
แต่เงินเดือนเราก็ต้องให้เค้า ซึ่งความคิดเรา เด็กควรรับผิดชอบกัน 50 50 และถ้าให้เงินเดือนเมียน้อย เค้าอยู่ได้ เค้าจะไปทำงานทำไม
และเมียน้อยเอง ก็ไม่ใช่คนดีอะไร ขณะที่ตัวเองทำผิดแย่งสามีคนอื่น เค้าช่วยเลี้ยง ส่งเสีย แต่ด้วยการเงินมีปัญหา
เลยมีการจ่ายเงินเดือนช้า ค้าง และแม่สามีจะคิดเป็นเงินค้างนะคะ แล้วจะทะยอยจ่าย เมียน้อยด่าแม่ด้วยคำหยาบคาย และรู้มาถึงที่บ้าน
หลังจากนั้นสามีเรา และพี่น้องบอกห้ามเข้าโรงงาน แต่เด็กๆ ก็เข้าได้ปกตินะคะ และเมียน้อยไม่ได้ทำหมัน เราบอกสามีว่า
เราควรให้เมียน้อยรู้จักหน้าที่นะ ไม่งั้นจะมีปัญหา ถ้าวันนึงเค้ามีสามีใหม่ เค้าไม่ได้ทำหมัน และถ้าวันนึงเค้าลำบาก
ต้องหาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แล้วเกิดทิ้งลูกขึ้นมา จะทำยังไง เพราะพ่อสามีอายุเยอะมากแล้วค่ะ ซึ่งถ้าเกิดเหตุการนั้น 
เราก็ไม่อยากรับผิดชอบเด็กๆแทน เพราะเราก็มีลูกสอง ที่ต้องรับผิดชอบ สิ่งที่เราทำได้คือพยายามทำให้แม่เด็กรู้จักหน้าที่
ความลำบากของคนเป็นแม่ ที่ทำให้ลูกตัวเองบ้าง เพราะที่สังเกตมา เมียน้อยพื้นฐานไม่ได้ดีจนทำให้มั่นใจว่ารักลูกแบบแน่ใจว่าไม่ทิ้ง
เพราะเราดูจากการพยายามทำเพื่อลูก ไม่มี แต่จะเรียกร้องและด่าเวลาไม่ได้มากกว่า 

ปัญหาตอนนี้คือแม่สามีรักพ่อสามีมาก และอาจจะเพราะเวลาที่ผ่านมา เลี้ยงดูเด็ก ก็เกิดความรัก
ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเตือนแล้ว ว่าการอยู่รว่มกันมันไม่โอเคนะ แต่ว่าพ่อสามีไม่ยอม แม่สามีก็กลัวว่าพ่อจะไม่อยู่
เพราะเค้าก็ต้องเลือกลูกเล็กมากกว่า การอยู่รว่มกัน เวลาผ่านไป จะเกิดเป็นความเคยชิน และจะมีปัญหาตามมา
แต่ใช่ ตอนนี้เค้ากลับมองว่าเราผิด บอกเราใจแคบ ที่จะให้เมียน้อยไปทำงาน และไม่ให้เงิน
เรางง ในความคิดเราว่าเราอยู่ตรงกลาง เพราะจริงๆ เราอยากให้ต่างคนต่างอยู่ แต่ด้วยความสุขพ่อสามี
แต่เราว่า มันก็ควรมีความพอดี โดยเฉพาะในสถานะการที่การเงินมีปัญหาแบบนี้ ในขณะที่ลูกฝั่งแม่ยังดิ้นรนหาเงิน
ทำไมเด็กถึงรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50 50 ไม่ได้ โดยการที่ให้เค้าทำงานหาเงินเอง ตอนที่ลูกเข้าเรียน
ซึ่งครอบครัวปกติเค้าก็ทำกัน ทำไมกลับมองว่าเราใจแคบ พูดเหมือนเราเป็นคนผิด และตอนนี้สามีที่เป็นคนกลาง
เค้าก็หนักใจ เพราะเราช่วย แต่สุดท้ายเราก็ต้องรักลูกเรา เงินเรายังไม่คืน การเงินมีปัญหา บอกให้เราเข้าใจ
แต่ทำไมถึงเลี้ยงดูอีกครอบครัวแบบ 100% ไม่ให้ทำงานหาเงิน และรับผืดชอบค่าใช้จ่ายลูกตัวเองส่วนนึง
กลายเป็นสามีกับเราทะเลาะกัน เพราะเราก็ต้องมองอนาคตให้ลูกเราเช่นกัน และเป็นเรื่องที่เคยตกลงกันแล้ว
ทำไมสุดท้าย ถึงเลือกตามความพอใจตัวเอง และกลับคำพูด และกลายเป็นพูดเหมือนเราผิด

สรุปเราผิดใช่ไหมคะ เราพยายามคิดแล้ว และมองหลายๆมุม เราก็คิดไม่ตกจริงๆ ว่าเราผิดอะไร
แค่บอกให้คนเป็นแม่ หาเลี้ยงลูกตัวเองส่วนนึงแค่นั้นเอง หรือเพราะเราคิดเข้าข้างตัวเอง เราเลยมาตั้งกระทู้
อยากรู้ในมุมคนอื่นๆ บ้าง ว่าถ้าเจอสถานะการประมาณนี้ จริงๆ มันควรทำอย่างไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่