โอดมติกพช.ตรึงค่าไฟแค่หาเสียง-โยนภาระอุตฯ หวั่นดันสินค้าสูงขึ้น-เงินเฟ้อพุ่ง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3699844
  
 
ส.อ.ท.โอดมติกพช.ตรึงค่าไฟแค่หาเสียง-โยนภาระอุตฯ หวั่นดันสินค้าสูงขึ้น-เงินเฟ้อพุ่ง
 
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีมติให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ดูแลค่าไฟให้อยู่ในระดับ 4.72 บาทต่อหน่วย พร้อมคงมาตรการช่วยกลุ่มเปราะบางและผู้ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ภายใต้ 3 มาตรการ ว่า มาตรการที่ออกมาเป็นการแก้ปัญหาโดยโยกต้นทุนค่าพลังงานที่สูงมาให้ภาคอุตสาหกรรม แบกรับภาระโดยตรึงราคาค่าไฟฟ้าและค่าไฟผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) ให้กลุ่มเปราะบาง
 
ขณะเดียวกันยังเป็นมาตรการที่ใช้รองรับการเลือกตั้งในช่วงต้นปีที่จะถึง ไม่ได้มีการแก้ไขที่ต้นเหตุของพลังงานที่สูงตามมาตรการที่ ส.อ.ท.เสนอไปเลย สุดท้ายค่าสินค้าจะสูงขึ้นและส่งผลต่อเงินเฟ้ออันเป็นภาระของประชาชนและภาพรวมในที่สุด
 
นายอิศเรศ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอของส.อ.ท.ต่อรัฐบาล มี 3 ประเด็นเร่งด่วนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้เงินงบประมาณอุดหนุน ประกอบด้วย 1.รัฐบาลควรพิจารณาลดค่าความพร้อมจ่ายไฟเข้าระบบ (Availability Payment: AP)ของโรงไฟฟ้า รวมทั้งลดปริมาณสำรองไฟฟ้าโอเวอร์ซัพพลาย ปัจจุบันมากกว่า 50% ซึ่งปกติควรอยู่ที่ 15% โดยเอกชนกลุ่มโรงไฟฟ้าอาจลดกำไรเหลือ 5% จากปกติอยู่ที่ 10-20% หากทำได้โครงสร้างต้นทุนค่าไฟจะถูกลงแน่นอน
 
2.อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาขั้นตอนการอนุญาตติดตั้งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งภาคธุรกิจ และภาคประชาชน
และ 3.รัฐบาลควรเพิ่มอัตราการรับซื้อไฟกลับเข้าระบบของรัฐบาล เพราะปัจจุบันรับซื้อเพียง 2.20 บาทต่อหน่วยเท่ากับอัตราค่าไฟปัจจุบันที่คนไทยต้องจ่ายค่าคือหน่วยละ 4.72 บาทต่อหน่วย

---

ชาวนาระทม ฝนถล่มข้าวเปลือกจน ‘รากงอก’ จะขายหรือเก็บก็ไม่ได้ ต้องหว่านให้ไก่กิน
https://www.matichon.co.th/region/news_3699885

ชาวนาระทมหลังข้าวเปลือกที่ลานตาก ถูกฝนหลงฤดูถล่มใส่จนรากงอก ไม่สามารถนำออกขายหรือเก็บใส่ยุ้งฉางได้
 
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีฝนตกหลงฤดูตกกระหน่ำแทบทุกวันในเขตพื้นที่ ของ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้สร้างผลกระทบและความเดือดร้อนทุกข์ระทมให้แก่เกษตรกรชาวนาในหลายหมู่บ้านของเขตพื้นที่ ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง
 
โดยเฉพาะทำให้ข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวผลผลิตมาตากไว้ตามลานโล่งแจ้งในหมู่บ้าน เพื่อหวังลดความชื้นก่อนนำไปขาย หรือเก็บใส่ยุ้งฉางรอราคาสูงขึ้นและบางส่วนเก็บไว้กินเอง กลับต้องมาถูกฝนตกใส่จนเปียกชื้น เนื่องจากเกษตรกรเก็บไม่ทัน
 
จนทำให้ข้าวเปลือกเปียกชื้นหลังแช่น้ำหรือถูกความชื้น โดยบางส่วนถึงกับรากงอก ไม่สามารถนำไปขายได้ จำเป็นต้องคัดแยกออกจากกองข้าวเปลือก เพื่อนำไปใช้เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่แทน ดีกว่านำไปทิ้ง
 
น.ส.ศิรินภา อายุ 54 ปี ชาวอ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า ข้าวเปลือกที่ตากไว้ทุกปีปกติตากแค่ 3 แดดหรือ 3 วัน ก็สามารถเก็บขึ้นฉางได้ เพื่อเอาไว้กินหรือเตรียมนำออกขาย แต่ปรากฎว่าช่วงนี้มีฝนตกชุก ทำให้ข้าวที่ลานตากไว้หลายวันเกิดรากงอก
 
ที่ผ่านมานำข้าวเปลือกออกตากมา 6 วัน พอมีแดดออกตอนไหนก็เอาข้าวออกตากตอนนั้น ฝนตกตอนไหนก็วิ่งเก็บกันตอนนั้น บางครั้งเก็บไม่ทันทำให้ข้าวเปลือกแช่น้ำฝน เป็นประจำทุกวั วันละ 3 ครั้ง 4 ครั้ง
 
แต่ตอนนี้ต้องเก็บหรือเลือกข้าวเปลือกที่งอกออกมาไว้ให้ไก่กิน ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว้พราะเสียหายไปแล้วจำเป็นต้องเอาต้องหว่านให้ไก่กิน

---

"สมคิด" แนะ "ประยุทธ์" หยุดกู้เพิ่มสร้างภาระให้ประชาชน-รัฐบาลต่อไป
https://siamrath.co.th/n/403364
 
วันที่ 29 พ.ย.65 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบ ว่านายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะบรรจุพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....  เข้าสู่การพิจารณาของสภาเมื่อใด แต่เห็นได้ชัดว่ากฎหมายกัญชา สร้างความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน เพราะความขัดแย้งอันเนื่องมาจากนโยบายกัญชาเสรี เพราะพรรคร่วมรัฐบาลมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันและยังชัดเจนว่าไม่รับนโยบายดังกล่าวแม้จะอ้างว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่เพราะความไม่ชัดเจน ของกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาอีกทั้งเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับภาพรวมของสังคมไทย อย่างไรก็ตามแม้จะมีความขัดแย้งกันในเรื่องของกฎหมายกัญชาแต่ยังคง สร้างภาพให้ดูว่าสมัครสมานกลมเกลียวกัน เพราะถึงอย่างไรพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องกอดคอกันไปจนนาทีสุดท้ายของรัฐบาล
 
นายสมคิด กล่าวว่า ในส่วนของการปรับคณะรัฐมนตรีทั้งนี้กรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ออกมาส่งสัญญาณถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งที่ว่างลง น่าประหลาดใจว่าทำไม นายจุรินทร์ เพิ่งมาทวงเอาตอนนี้ทิ้งเวลาผ่านไปนานเกือบ 2 เดือน แม้การปรับ คณะรัฐมนตรีจะเป็นอำนาจของพลเอกประยุทธ์ คุณจุรินทร์ต้องทวงตั้งแต่ต้น ทั้งนี้การปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นกับพลเอกประยุทธ์เท่านั้น นอกจากนี้กรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐบาลก่อหนี้ผูกพันธ์อีก 1 ล้านล้านบาท หากทำจริงจะส่งผลให้รัฐบาลนี้ก่อหนี้สร้างภาระให้ประเทศสูงถึง 11 ล้านล้านบาท ในความเป็นจริงรัฐบาลไม่ควรส่งกฎหมายกู้เงินเข้ามาสู่สภาอีกแล้ว เนื่องจากเวลาสภาเหลืออีกเพียงแค่ 3 เดือน ควรให้รัฐบาลใหม่เป็นคนพิจารณา ไม่ควรไปสร้างภาระให้กับรัฐบาลในอนาคต พลเอกประยุทธ์ควรที่จะหยุดสร้างภาระผูกพันธ์ที่จะมีผลต่อรัฐบาลครั้งหน้า ไม่สมควรที่จะกู้เงินเพิ่ม ไม่ควรสร้างภาระให้กับรัฐบาลต่อไป