The wonder (2022) Netflix ใครดูแล้วมาคุยกันค่า (มีสปอยด์เด้อหญิง!!!)

สวัสดีค่ะ คือเราพึ่งดูเรื่องนี้จบ มีนัยบะหลายๆอย่างในเรื่องนี้ที่อยากหาเพื่อนคุย ไม่รู้จะไปคุยที่ไหน มาโพสลงที่นี่แทนละกันค่ะ อันนี้คือที่เราพิมพ์ลงไว้ในเพจหนังของเราค่ะ มีทั้งรีวิวแบบไม่สปอยด์และไม่สปอยด์ ใครสะดวกอ่านแค่ไหนก็ตามสะดวกเลยค่ะ อ่านจบแล้วมาเม้าๆกันค่า

ใครใจดีอยากตามไปกดไลค์เพจก็ฟ้อนแง้นอัญเชิญเจ้าค่ะ 
https://www.facebook.com/kornunghod/

คำเตือน เพื่ออรรถรสในการรีวิว อาจมีการใช้คำไม่สุภาพไปบ้างนะคะ ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ

The wonder

8.5/10

เมื่อพยาบาลมือโปรชาวอังกฤษ อลิซาเบท ต้องเดินทางมาถึงไอร์แลนด์ เพื่อรับจ็อบเฝ้าไข้เคสพิเศษ แอนนา โอดอลเนล เด็กหญิงอายุ11ปี เด็กผู้หญิงคนนี้ป่วยอะไรรึก็เปล่า แค่นางบ่กิ๋นเข้ากิ๋นปลามาสี่เดือนจ้าหญิง ไม่กินคือไม่แม้แต่จะเอาลิ้นแตะอาหารเลย แถมยังดูกระฉับกระเฉงแข็งแรงดีอีกต่างหาก เอาสิ ถ้าอยู่ไทยคือมีคนผูกผ้าเจ็ดสี ลงแป้งขอหวยกันแล้วนา แล้วคิดว่าคนไอร์แลนด์ยุคปีพันแปดร้อยกว่าๆจะเหลือมะ ก็ประโคมข่าวเด็กหญิงศักดิ์สิทธิ์มันไปเลยสิจ๊ะ ทีนี้เลยเป็นหน้าที่ของอลิซาเบท ที่จะต้องคอยผลัดกันเฝ้าแอนนา กับแม่ชีอีกหนึ่งคน เพื่อสังเกตการณ์รายละเอียดต่างๆ และส่งรายงานความคิดเห็นว่าเด็กหญิงคนนี้คือตัวจริงหรือแค่จ้อจี้กันแน่

ปูเรื่องมาขนาดนี้ก็กดชมสิจ๊ะรออะไร นางเอกคือพยาบาลสาว ตัวแทนของผู้มีความรู้ความเข้าใจในการแพทย์แผนปัจจุบัน ตัวแทนฝั่งโลกวิทยาศาตร์สมัยใหม่ ต้องมางัดกับแอนนา เด็กสาวที่มีความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าแบบถึงพริกถึงขิง งานนี้ต้องมาน็อคเอาท์สั่งฝั่งแหละแม่ อินวลนี่รีบรับชมแทบไม่ไหว

ติหน่อยตอนครึ่งเรื่องแรกที่ดูเอื่อยเฉื่อยเป็นเพลงกล่อมเด็ก พาเอาหนังตาหนักไปบ้างเหมือนกัน แต่พอพลิกเข้าครึ่งหลังแม่เอ้ย เต็มคาราเบล คือมันไม่ได้เล่าเรื่องแบบโฉ่งฉ่างจัดจ้านอะไรนะ แต่อินวลว่ามันเป็นไปแบบที่เข้าที่เข้าทางไม่หยอก เอาเป็นว่าซื้อค่ะ เรื่องนี้ ห่อกลับบ้านให้ด้วยเลย ติดหัวกุกลับไปนอนคิดตีความเรื่องอีกหลายคืน ยิ่งสายตีความ สายนัยยะนะ หึๆๆ ไม่ต้องนอนค่ะ นอนคิดไปถึงเช้า เพราะอินวลขอบตาคล้ำมาแล้ว55555 

ฟลอเรนซ์ พิวจ์ฝีมือการแสดงไม่ผิดหวัง ช่างเป็นธรรมชาติ แบบไม่ต้องเอะอ่ะมาก นางมาแบบเรียบๆ นิ่งๆ แต่ดูโคตรจริง โคตรเรียล คือคนเป็นพยาบาลยิ้มเป็นแบบนี้จริงๆเว่ยไม่จกตา ลงเวรก็กินๆๆชดเชยความเหนื่อยตอนขึ้นเวร ไม่ใช่!!! ความห่วงใยคนไข้ การสังเกตุสังกาคนไข้โดยให้พื้นฐานความรู้เป็นตัววัด คือเป๊ะมาก พยาบาลคนนี้คอนเฟิร์ม5555 

ส่วนน้องหญิงที่เล่นเป็นแอนนาก็มาน้อยแต่มาก ท่ายากแต่ได้ว่ะ นังหนูนี่มีของใช้ได้เลย มีอนาคตในวงการหนังอีกยาววววว

โดยรวมชอบบทมาก ดีไปหมด มันกลมกล่อมเข้มข้น เป็นหนังที่เอาเรื่องความเชื่อและวิทยาศาสตร์ และความขัดแย้งต่างๆมาคุยได้แบบดูเรียล ดูจริง และไม่เว่อร์เกินไป แถมฉากและอุปกรณ์ต่างๆคือโคตรดี อุปกรณ์หลายๆอย่างคือทำถูกต้องเป๊ะสำหรับนวัตกรรมการพยาบาลในสมัยนั้น ทีมอัพสิจ๊ะ รออะไร

ใครยังไม่ได้ดู รีบไปกดดูค่ะหญิง ละมานอนคิดไม่ตกเหมือนอินวลทั้งคืนกัน5555

พาร์ทถัดไปเป็นสปอยด์ สำหรับคนที่ดูแล้ว ใครยังไม่ได้ดูอย่าหาทำมาอ่านข้างล่างเด้อ ถ้ากดอ่านละมาด่าอินวลว่าสปอยด์ทำไม กุจะแช่งให้สิวขึ้นขอบตูดให้ดู!!!! 
.
.
.
.
.
.
.
.
อ่ะ เริ่มพาร์ทสปอยด์!

ใครดูแล้วละอยากเม้ามอย มาเม้ามอยกัน!!! 

ว่าด้วยสัญญะในเรื่องและปมต่างๆ

คือเป็นความกล้าหาญที่จะหยิบเอาประเด็นความงมงายในศาสนา การคุกคามทางเพศเด็ก สังคมปิตาธิปไตย ความปิดหูปิดตาของคน การเลือกเส้นทางในชีวิตของตนเอง และความครอบครัวยิ้มไม่ใช่เซฟโซนมาเล่าแบบครบถ้วนในเรื่องเดียวได้แบบไม่พยายามอ่ะ ยิ้มผู้กำกับเก่งที่เบลนดิ้งเรื่องทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันได้แบบนวลเนียนมาก เอาเป็นเรื่องๆ

1. ปมในอดีตของอลิสซาเบท ชี้ให้เห็นว่าลึกๆแล้วนางอ่ะ รู้สึกผิดมาตลอดที่ไม่สามารถรักษาชีวิตลูกไว้ได้ แถมยังทำให้ชีวิตคู่พังเละเทะอีกด้วย พอมาเจอแอนนา เด็กหญิงที่อิแม่เวงกดดันให้ฆ่าตัวตายด้วยความเชื่อไร้สาระแบบนี้ องค์แม่ก็ลงสิคะรออะไร จังหวะสุดท้ายของเรื่องที่อิแม่สบตากับอลิซาเบทข้างโลงศพลูกตัวเอง ผู้กำกับอยากปล่อยให้คนคิดต่ออ่าแหละ ว่าอิแม่มันรู้รึเปล่าว่านางเอกขโมยลูกนางหนีรอดไปได้ แต่อินวลว่าแววตาแข็งปั๋งแบบนั้น กุว่าแม่มันรู้ว่ะ แถมยังแค้นนางเอกด้วยที่ทำให้ลูกชายนางไม่ได้ขึ้นสวรรค์สมใจ แต่ก็น้ำท่วมปากโวยวายไม่ได้จ้า ไม่งั้นอาจขิตทั้งครอบครัว โดนคนที่มาบริจาคเงินให้รุมฟาดก่อนละหนึ่ง ซึ่งชอบการจบแบบนี้มาก หางานไม่สร้างรายได้ให้ลูกสาวแล้ว สุดท้ายโดนย้อนเข้าทางตัวเอง ลงไปกกลูกชายเมิงในนรกเถอะอิแม่เวง มัวแต่เสียดายคนที่ตายไปแล้ว แล้วจะมาฆ่าลูกอีกคนที่เหลือแบบนี้มันเวงงงงงง เป็นแม่แบบนี้อย่าเป็นดีกว่านี่มองว่านางไม่ได้เป็นแม่นะ แต่เป็นแม๊!!!!!

2. ตัวลุงนักข่าวจอนดก(ย้ำว่าจอนผมที่ดก)เองเนี่ย ก็มีปมที่เคยปล่อยให้ครอบครัวต้องตายอย่างน่าอนาถมาก่อน ถึงตอนนี้จะมีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้อีก แถมที่จริงนางเป็นคนมองโลกตามความเป็นจริง เลยมองเรื่องราวทุกอย่างออก พอมีนางเอกมาเป็นแรงบวกให้ เลยยอมที่จะช่วยเด็กน้อยในที่สุด ถือเป็นการแก้ปมของนางด้วยไปในตัว วินๆ

3. ตัวแอนนาเองก็คือนางเด็กอ่ะ  นางเด็กมากตอนเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้น นางจะหลงเชื่อว่าการล่วงละเมิดของพี่ชายเป็นความรักที่บริสุทธิ์ จะเลื่อทุกอย่างตามที่แม๊กรอกหูก็ไม่แปลก คือจินตนาการนะ ถ้าโตขึ้นมาแบบวันๆแทบไม่เจอใคร เจอแต่พี่ชายกับแม่ตัวเองที่กรอกหูความเชื่อผิดๆอยู่ทุกวัน เป็นไม่หลงเชื่อเหรอ เด็กสมัยนั้นยิ้มไม่มีกูเกิ้ลให้เสิร์ชว่าอิแบบนี้มันคือคดีล่วงละเมิดทางเพศในครอบครัวนะ หรือรายการเม้าๆเรื่องเพศของติ๊ช่าก็ยังไม่มีให้ดู จะมาเอาอะไรกับเด็กที่โตมาให้สภาวะการรับรู้ที่แคบแบบนั้น ใครมาด่าแอนนาว่าโง่นี่ตบเลยนะ นางอ่ะ น่าสงสารที่สุดในเรื่อง ต้องมาโดนพี่ชายข่มขืน หลอกว่ามันคือความรัก แถมยังโดนแม๊บังคับให้ฆ่าตัวตายเพื่อให้ลูกชายนางได้ขึ้นสวรรค์(สวรรค์โพ่งสิ อิเวง) สุดท้ายถึงจะถูกเทคนิคของอลิซาเบทหลอกล่อจนกลับมากินข้าวกินปลาได้ แต่แผลใจยิ้มมันไม่หายไปง่ายๆหรอก ฉากท้ายๆเรื่องที่น้อนชอบนั่งเหม่อเหมือนลอยไปไหนสักที่ อินวลว่านางเองก็คงยังหลงวนเวียนคิดอยู่อ่าแหละ ว่าเอ๊ะ นี่สรุปกุเกิดใหม่จริงหรือกุโดนอำวะ สรุปกุมุฟออนได้จริงๆป่าววะ หรือกุควรชดใช้บาปกรรมตามเดิมดี สภาพจิตน้อนอาจจะแปลกๆไปเลยแหละ เจอเรื่องแบบนี้มา แต่สุดท้ายถ้าอลิซาเบทเลี้ยงดูอย่างดี วันหนึ่งข้างหน้าน้องคงก้าวต่อไปได้แบบไม่ลังเลอะไรอีกแล้วจริงๆ ขอใฟ้น้องเติบโตเป็นแนนที่น่ารักสดใส หมดทุกข์หมดโศกนะลูกกกก

4. ปมสังคมชายเป็นใหญ่นี่ตีแผ่ออกมาแบบชัดเลยจากคู่ของอิพี่ชายเวงกับแอนนา คือแม๊ก็น่าจะรู้ ว่าเด็กเก้าขวบอ่ะ โดนพี่ชายข่มขืน ยิ้มไม่รู้เรื่องหรอก เด็กเก้าขวบที่ไหนจะมาคิดเรื่องเยกะพี่ชายตัวเอง แต่แม๊ก็ยังเลือกที่จะโทษลูกสาวมากกว่าลูกชาย แถมยังยอมสละเลือดเนื้อของลูกสาวได้เพื่อให้ลูกชายตัวเองไปสวรรค์ คือจะว่าแม่ลำเอียงก็ส่วนนึงแหละ และอีกส่วนมันก็มาจากสังคมชายเป็นใหญ่ที่สามารถทำอะไรก็ได้กับเพศหญิงด้วย ทำให้เรื่องทั้งหมดยิ้มฟักอัพหนักกว่าเดิม แม่อาจจะไม่เป็นแม๊ก็ได้นะ ถ้าแม๊ไม่ได้เกิดในยุคนั้น

5. การแบทเทิลกันระหว่างวิทยาศาสตร์และความเชื่อนี่ก็ทำได้โคตรดี ตัวอย่างของวิทยาศาตร์ด้านดีก็คืออลิซาเบทที่ชั่งตวงวัดเหตุการณ์นี้ด้วยสายตาของวิทยาศาสตร์ว่าเด็กไม่กินข้าวสี่เดือน ยังไงยิ้มก็เป็นไปไม่ได้สู เอาตาปลาที่ส้งติงคิสก็ไม่ด๊ายยยยย แต่พอเจ้แกค้นพบปมของการกระทำนี้แล้ว อลิซาเบทก็เลือกที่จะรักษาชีวิตของคนๆนึงเอาไว้มากกว่าที่จะเอาชนะ ส่วนตัวอย่างด้านตำบอนของวิทยาศาตร์ก็นะ อิหมอเวงที่เอาแต่จะพิสูจน์ทฤษฎีของตัวเองจนลืมมองแอนนาเป็นมนุษย์ไปแล้ว สุดท้ายพอเดือดร้อนถึงตัวยังมีหน้ามาปัดความผิดให้อลิซาเบทอีก หืม ช้างดาวในมือสั่นมาก ถ้าไม่เสียดายทีวีจอ75นิ้วที่บ้านคือฟาดแตะใส่อิหมอนี่ไปแล้ว ยิ่งทีมความเชื่อความศรัทธายิ่งแล้วใหญ่ ทำมาจีบปากจีบคอพูดเรื่องมรณะศักขี พูดเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าหอยหลอดดด ไม่ได้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าที่ไหนอยากให้เด็กผู้หญิงอายุ11อดตาย คิสสิ คิสสสสสสแค่อยากให้สิ่งที่เชื่ออ่ะ มันถูก แค่นั้นเลย คือตานี้พวกเมิงทั้งก๊กอ่ะ ทำได้หมดแหละ แค่ไม่ให้ตัวเองหน้าแตก ไม่ให้โป๊ะว่าแอนนายิ้มไม่ใช่ของจริง เมิงไม่ได้เห็นแอนนาเป็นคนด้วยซ้ำ เมิงมองแค่ว่านี่คือหลักฐานที่จะเอาไปอวดคนอื่นเฉยๆว่ากุคิดถูกเว่ย เป็นบทเรียนสอนใจนะหญิง ศรัทธาในพระเจ้า ในสิ่งศักดิ์ หรือในสิ่งใดๆก็ได้ไม่ติด ใครอยากศรัทธาเบคอนก็ศรัทธาไป แต่พวกเมิงอย่างมงายจนลืมความเป็นคนของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเว่ย ยิ้มประวัติศาสตร์โลกยังบอกเมิงไม่ชัดพออีกเหรอ ว่าอิ๊บอ๋ายกันมากี่รอบแล้วเพราะพวกเมิงเอาแต่ศรัทธานำหน้า แล้วทิ้งความเป็นมนุษย์ตกพื้นหายไป ไหนจะครูเสด นาซี เขมรแดง สงครามอีรัก ต้องให้วายป่วงกันอีกกี่รอบห๊าาาาาาา โอ๊ยยยยย ของกุสิขึ้นเด้!!!

6. อยากมอยอีกเรื่อง เรื่องการก้าวข้ามความเจ็บปวดของนุ้งแอนนา น้อนคือตัวแทนของคนที่ต้องเผชิญความชีวิตพังที่เชื่อว่ามาจากน้ำมือของตัวเอง เหมือนคนที่เจอปัญหาหนักๆเพราะน้ำมือตัวเองอ่ะ คือมันคงเกลียดตัวเองเกลียดแบบเกลียดมากๆ เกลียดจนไม่รู้จะทำยังไง ยอมปล่อยให้ตัวเองตายไปเลยดีกว่า สาสมดี รู้สึกตัวเองไม่มีค่า ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อด้วยซ้ำ แกมันตัวปัญหาของครอบครัว แกควรชดใช้ด้วยชีวิต แมร่มรู้ไรมะ มันคือความคิดของคนที่ซึมเศร้า คนที่โทษตัวเอง จนเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย การที่จู่ๆคนจะเดินมาบอกว่าแกร มุฟออนนะ ต้องให้อภัยตัวเอง ต้องก้าวต่อไป สู้สิวะอิหญิง ยิ้มมันไม่ได้ทำได้ง่ายเลยเว่ย คนที่ดิ่งอยู่ในหลุมของตัวเองอ่ะ ใช่ว่าพอคนมาบอกปุ๊บ กุปีนขึ้นมาได้ปั๊บ แล้วสะบัดบ็อบฟูลเทิร์นเดินต่อไปอ่ะ มันไม่ง่ายแบบน้านนนนนนนน้อนแอนนายังโชคดีที่เจ้อลิซาเบทแกมอมยาแมร่ม ให้นุ้งเชื่อแบบเมาๆว่าอ้อ กุตายแล้ว กุเกิดใหม่แล้ว กุชดใช้แล้ว น้อนเลยพอจะก้าวต่อไปได้บ้าง แม้จะยังเหลือแผลในใจ กับวิญญาณที่แตกๆหักๆไปสักหน่อย แต่เชื่อเหอะ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ มันจะมีโอกาสที่วันที่ดีกว่าได้เสมอ จ่อให้ตอนดิ่งๆจะรู้สึกว่ามันไม่มีทางที่วันนั้นจะมาถึงก็ตาม

7. ประเด็นสุดท้าย การเปิดเรื่องและปิดเรื่องที่เหมือนกับการbreak the forth wall theory ทั้งเรื่องการนั่งมองนกว่านอกกรงรึในกรงเนี่ย อินวลตีความเหมือนเพลงสุนทราภรณ์อ่ะ แบบ"โลก คือละครทุกคนต้องแสดงทุกคนทนไป อย่าอาลัยยิ้มไปสู้ไป จะได้สบาย" คือโลกที่เราอยู่ เหตุการณ์ที่เราเผชิญ ยิ้มเป็นแค่ฉากละครปลอมๆหรือเป็นความจริงใครจะไปรู้เนอะ เรื่องดีๆที่คนลงกันในโซเชียลมีเดียยิ้มจะจริงหรือปลอมเราก็ไม่มีทางรู้เลย คนที่ลงชีวิตดีๆในโซเชี่ยล ที่จริงนางอาจะน้ำตาตกอยู่ข้างในก็ได้ พลังในการสร้างภาพลวงตาหา ความตอหลดยิ้มของคนยิ้มไม่มีขีดจำกัดเว่ย ฉากหนังเป็นคุ้งเป็นแังสร้างมาได้จนเราดูแล้วเหมือนโลกยุคปีพันแปดร้อยกว่าๆจริงๆก็ได้งี้ สุดท้ายทุกสิ่งมันแล้วแต่สติและความคิดของเราว่าจะเชื่อมันแบบไหน เรื่องทั้งหมดนี้มันมีเพื่อที่จะส่งแมสเสจหาคนดูว่าความดี ความเลว หรือจริง เรื่องหลอก ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับไม้บรรทัดที่เรียกว่าจิตใจเรานี่แหละวัดมัน ในมุมของแม๊ เจ้อลิซาเบทอาจจะทำความเลว เพราะทำให้ลูกชาย(เวง)ของนางไม่ได้ขึ้นสวรรค์ แต่ในมุมของอลิซาเบทคือนางทำความดีด้วยการช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงที่บริสุทธิ์คนหนึ่งไว้ นั่นแหละ สิ่งที่ฉากเปิดและฉากปิด เรื่องนกอยู่ในหรือนอกกรงอยากจะบอกเรา

อาจจะมีเรื่องอื่นซ่อนอยู่อีกก็ได้นะ แต่จำไม่ได้ละ อินวลดูมาหลายวันละ กว่าจะตกผลึกมานั่งพิมพ์ รายละเอียดหลายอย่างก็รางเลือนไปแล้วจ้า5555 

ใครมีติดใจประเด็นไหนอีก ถ้าไม่อ่านจนตาลายไปแล้วก็มีเม้นคุยกันหญิง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่