[CR] เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ #1 bolaven plateau coffee ร้านกาแฟ บ้านหลัก 40 ปากซอง เล็กๆแต่อบอุ่น

เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ#1 bolaven plateau coffee ร้านกาแฟ บ้านหลัก 40 ปากซอง เล็กๆแต่อบอุ่น



เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ #1 bolaven plateau coffee ร้านกาแฟ บ้านหลัก 40 ปากซอง เล็กๆแต่อบอุ่น
https://ppantip.com/topic/41744117

เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ #2  ทวิบรรจบ จุดบรรจบของตาดเสือ ตาดขมึด ที่หลายคนไปเที่ยวหน้าฝนจะถ่ายรูปยาก
https://ppantip.com/topic/41745874

เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ #3 เล่น ZIPLINE นอนบ้านต้นไม้ ที่ตาดเสือ ตาดขมึด ลาวใต้
https://ppantip.com/topic/41747121

 เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ #4 ตาดย้อย ตาดห้วยคต (ตาดคต) ที่คิดถึง เดินไปแค้มป์ตาดย้อย
https://ppantip.com/topic/41747418

เที่ยวน้ำตกลาวใต้ต้นหนาว สวยดีนะ #5 ตาดย้อย ตาดห้วยคต (ตาดคต) ที่คิดถึง เดินลุยน้ำไปแค้มป์ตาดคต
https://ppantip.com/topic/41748962
-----------

ทริปนี้ (12-14 พย 2565) ที่จะไปหลักๆคือ ตาดย้อย ตาดคต และลงไปนอนที่ทวิบรรจบ(จุดที่ตาดเสือและตาดขมึดไหลมาบรรจบกัน ตรงบ้านต้นไม้ที่หลายๆคนไปชมดูตอนหน้าฝน)

ไปกัน 2 คนกันน้องอ้น ซึ่งขับกะบะจากอุบลฯ ไปกัน โดยจุดแรกทีวางแผนไว้ คือจะไปนอนด้านล่างของตาดย้อย และเดินเที่ยวตาดคต โดยนัดคนนำทางไว้เรียบร้อยก่อนเดินทาง 

12 พย 2565 พวกเราก็เดินทางออกจาก ตัวเมืองอุบลแต่เช้า แวะพักกินข้าวเช้าและสั่งอาหารกลางวันที่ด่านช่องเม็ก โดยผมแวะที่ร้าน เพลินทัวร์ ซึ่งผมจะใช้บริการประจำ ที่นี่เป็นทั้งร้านอาหาร บริษัททัวร์ มีบริการห้องพักและฝากจอดรถก็ได้

เส้นทางตาม googlemap 
https://g.page/ploentour?share

เบอร์ติดต่อกรณีสั่งอาหารล่วงหน้า


บริเวณร้านอาหาร มี 2 ชั้น โล่ง สะอาด ชั้นบนยังมีห้องคาราโอเกะด้วย 






อันนี้ภาพเก่าที่เคยพาเพื่อนๆไปกินตอนเย็นหลังจากเที่ยว












ด้านหลังยังมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย หรือใครจะแค่ฝากรถก็มีพื้นที่บริการ




กินข้าวสั่งข้าวห่อกลางวันเสร็จ ก็ออกเดินทางต่อ แต่ก่อนข้ามด่านก็แวะซื้อซิมการ์ดลาว สำหรับติดต่อคนนำทางและเล่นเน็ตซะหน่อย แวะร้านป้าที่เคยพาเพื่อนๆมาแวะประจำ เพื่อซื้อซิมลาวและแลกเงินกีบ 

โดยร้านป้าจะอยู่ติดกับ ร้านคล้งยา สาขาช่องเม็ก
พิกัดตาม googlemap
https://goo.gl/maps/eDDMX38kDMDUfhrY6



ร้านป้าแกจะขายหลายอย่าง ติดฟุตบาท




ซิมอันละ 50 บาท และต้องเติมเงินก่อนอีก 40 บาท ก็จะได้เน็ตไว้ใช้ประมาณ 3 วัน ซึ่งขั้นตอนการเติมเงินและใช้งานป้าแกก็จะสอน สะดวกดี แล้วก็แลกเงินกีบที่ป้าเขาได้เลย ตอนแลกอัตราน่าจะ 480 กีบ เท่ากับ 1 บาท ซึ่งไม่แน่นอน ขึ้นลงได้เรื่อยๆ อย่าไปคิดมาก

ถ้าคิดว่าซื้อของกิน หรือบริการต่างๆในลาว แนะนำให้แลกไว้ก็จะดีครับไม่เสียหายจ่ายง่ายดี ยิ่งถ้าเอารถเข้าไปเอง จะเสียค่าทางด่วนประมาณ 5 ด่าน 








โดยผมเติมเงิน 10000 กีบ (ประมาณ 20 บาท) ได้เน็ต 1.5GB ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งถ้าต้องการเล่นเน็ตใช้ข้อมูลเยอะกว่านี้ ก็เติมเงินมากขึ้น ซึ่งจะมีข้อมูลบอกแต่ต้องกดเรียกดูจากโทรศัพท์ก่อน เช่น เติมเงิน 100,000 กีบ อาจได้ซัก 5GB (แค่ยกตัวอย่างนะครับ ผมคิดเอา)


แล้วก็ได้เวลาเดินทาง เนื่องจากเอารถไปกันเอง ถ้าฝั่งไทยก็ขับรถผ่านไปที่ช่องทางรถผ่านได้เลยโดยคนที่มาด้วยก็แค่ลงมาตรวจตรงด่านนี่เลย ไม่ต้องเดินเข้าอาคาร สะดวกดี มีค่านำรถขาออก(กลับไทย) 200 บาท ขาเข้าไม่เสีย


ขับมาฝั่งลาว ก็จะยากหน่อย เพราะต้องแยกกันไปทำเอกสารผ่านแดน โดยคนรถก็จะทำเอกสารอีกที่และเสียค่ารถน้องจำไม่ได้ประมาณ 40000 กีบ ส่วนผู้โดยสารก็ไปยื่นเอกสารที่อาคารใหม่ โดยขึ้นไปที่ชั้น 2 โดยภายในอาคารระบบไฟยังไม่เต็มที่ ดูไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ ถ้ายื่น passport เสียเงิน 100 บาทให้ทางการลาวด้วย ส่วนค่าอะไรไม่รู้ 555





ยื่นเอกสารต่างๆเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ ไปยัง bolaven plateau coffee ร้านกาแฟ บ้านหลัก 40 ปากซอง ที่นัดหมายกับคนนำทางไว้


ระหว่างทางก่อนถึงจุดหมายก็จะเสียค่าทาง ซึ่งเป็นเอกชนสร้างเข้าเลยต้องเก็บค่าบำรุง ทั้งหมด 5 ด่าน กว่าจะถึงเมืองปากซอง 
- 9,000 กีบ
- 9,000 กีบ
- 9,000 กีบ
-   5,000 กีบ
- 15,000 กีบ
*** ทุกด่านมีใบเสร็จให้ และขากลับก็เสียอีกครังนะครับ ทุกด่านง่ายๆคือคูณ 2 
ถ้าวิ่งแค่ถึงปากเซ จะเสีย 3 ด่าน ด่านละ 9000 กีบ


ก่อนถึงตัวเมืองปากเซ จะเห็นเขายอดแหลมๆ เหมือนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งยอดนี้สามารถเห็นได้จากบริเวณเขื่อนสิริธร ฝั่งไทยเลย เรียกว่าภูมะโรง


ภูมะโรง
...ถิ่นวิเวกในฝัน หนึ่งเดียวถิ่นนี้...  มาแต่อดีต...

         ภูมะโรง หรือที่แปลว่า ภูงูใหญ่ หรือ ภูนาค เป็นภูเขาสูงใหญ่  ถ้ามองจากอำเภอพิบูลมังสาหารจังหวัดอุบลราชธานีฝั่งไทยไปทางตะวันออกจะเห็นยอดเขาแหลมเหมือนเจดีย์สูงเสียดฟ้าอยู่ลิบๆ  ภูเขานี้เชื่อมโยงกับ ภูจำปาศักดิ์ และเทือกทิวเขาอื่นๆที่ทอดยาวลงไปทางเขมรต่ำ  มีถ้ำใหญ่น้อยลึกลับซับซ้อนอยู่มากมายอันเป็นที่หลบเร้นพำเพ็ญพรตของเหล่าฤาษีดาบสหรือ “ตาปโส” มาแต่โบราณ ตลอดจนเป็นที่ปลีกวิเวกหลีกเร้นภาวนาของพระธุดงค์กรรมฐานที่จัดได้ว่า “ยอดเยี่ยม” แห่งหนึ่งซึ่ง หากจะเรียกว่าหนึ่งเดียวถิ่นนี้...ที่ไม่มีที่ใดเหมือน..หรือถิ่นวิเวกในฝัน...สำหรับผู้มีอุปนิสัยทรงฌานหรืออภิญญาก็เห็นจะไม่ผิด  เพราะนอกจากจะมี ยอดภูสูง เหวลึก ป่ารกชัฏ ไข้ป่าชุกชุม และภูมิประเทศสลับซับซ้อนอันตรายรอบด้านแล้วยังเป็นแดนอาถรรพ์ของเหล่าภูตผีปีศาจร้าย  เป็นถิ่นที่อยู่ของฝูงเสือ ช้าง หมี กระทิง ควายป่า ข่ากินคน และผีกองกอยสะมอยดง
บ่อน้ำเที่ยง

        เป็นบ่อน้ำธรรมชาติที่เกิดอยู่บนภูมะโรงมีขนาดกว้างประมาณหนึ่งเมตร  ในอดีตมาน้ำจะไหลลงบ่อตลอดวันตลอดคืนแต่จะไม่ล้น  แม้จะมีคนตักไปจำนวนกี่โอ่งกี่ไหก็ไม่มีวันหมดหรือลดลงไป  น้ำจะเสมอกับขอบบ่ออยู่อย่างนั้นจึงเรียกว่า “บ่อน้ำเที่ยง”

พระอาจารย์ไตผู้อยู่พ้นมิติเหนือวิสัย

        ณ ถิ่นนี้คนแต่โบราณรู้กันว่าเป็นที่อยู่ของ “อาจารย์ไต” พระอาจารย์ใหญ่ผู้สำเร็จในอิทธิบาทภาวนาจนอยู่พ้นมิติเหนือโลกเหนือวิสัยแห่งปุถุชนสามัญ  สามารถอธิษฐานธรรมจิตให้อายุขัยยืนยาวอยู่ได้เป็นกัปกัลป์ 

        พระอาจารย์ไตท่านนี้ไม่มีผู้ใดทราบอายุขัยของท่านเลย..  และยังเชื่อกันว่าแม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ในภูมะโรงนี้  ตามปฏิปทาการประพฤติปฏิบัติที่เล่าขานมานั้นคล้ายกับพระปัจเจกพุทธเจ้า  คือมุ่งรู้แต่ลำพังสังขารธรรมแห่งตนเองเท่านั้นโดยไม่สนใจที่จะสอนผู้อื่น  วันหนึ่งๆบิณฑบาตได้พอฉันก็กลับไปยังที่อยู่  บางครั้ง ๗ วัน ๑๕ วัน ค่อยฉันอาหารครั้งหนึ่ง  บางพรรษาไม่ฉันเลยตลอด ๓ เดือน

        ถ้ำที่ท่านอยู่นั้น เป็นที่ๆอยู่ห่างพ้นโลกีย์เหนือวิสัยซึ่งบุคคลธรรมดาหรือพระภิกษุที่ยังด้อยคุณธรรมไม่มีทางจะเข้าไปถึงได้เลย  เพราะมีเหวลึกสุดหยั่งขวางกั้นเอาไว้  เหวนี้หากมองลึกลงไปจะไม่เห็นพื้นดินหรือยอดไม้  เห็นแต่ม่านหมอกมัวขาวคลุ้งอยู่อย่างนั้นชั่วนาตาปี  ..เมื่อโยนก้อนหินลงไปจะไม่ได้ยินเสียงหล่นกระทบกับอะไรเลย..  ทางข้ามเหวไปยังถ้ำพาดเอาไว้ด้วยไม้ไผ่ลื่นๆเพียงลำเดียว  หากเดินข้ามต้องแช่มช้าระมัดระวังอย่างยิ่งยวดถ้าเลี้ยงตัวไม่ดีก็มีอันหลุดร่วงตกลงไปสังเวยก้นเหวลึกที่ไม่เห็นหน

        พระอาจารย์ไตท่านสอนธรรมะสั้นๆว่า

        “ถ้าใครเข้าถึงพระไตรสรณคมน์ได้ด้วยศรัทธาความจริงใจเลื่อมใสสูงสุดแล้วไม่ต้องกลัวอะไร  แม้แต่คำว่าตายก็ไม่กลัว  คนเราไม่ต้องไปยึดถืออะไรมาก  ยึดถือหลักไตรสรณคมน์ให้จริงใจก็เข้าถึง มรรค ผล นิพพาน ได้ไม่ยาก”

        ที่ภูควายนี้  นอกจาก “พระอาจารย์ไต” แล้ว  ผู้คนฝั่งลาวยังได้เล่าลือเกี่ยวกับ “หลวงปู่พูสี” พระบังบดอายุ ๔๐๐ กว่าปี และพระปฏิบัติดีอีกมากที่อยู่ที่นี่

พระอาจารย์บุญมาก พระวิปัสสนาจารย์ผู้เรืองฤทธิ์

        พระอาจารย์บุญมาก เป็นศิษย์ หลวงปู่เสาร์  กันตสีโล อยู่วัดภูมะโรง  ท่านเป็นพระภิกษุที่มีอำนาจจิตแก่กล้าสูงส่งมาก  สามารถส่งอำนาจจิตเรียกให้เสือโคร่งดุร้ายกินคนมาสยบอยู่ในวัดภูมะโรงเหมือนสัตว์เลี้ยงเชื่องๆตัวหนึ่ง  เสือโคร่งใหญ่ตัวนี้มีลำตัวยาว ๘ ศอกกินคนมาแล้ว ๙ ศพจนคนลือว่าผีตายโหงสิงเพิ่มอาถรรพ์ชั่วร้ายกลายเป็นเสือสมิงไปแล้ว  พระอาจารย์บุญมากได้ล่วงรู้เห็นในญาณทัศนะว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้มันก็จะกินคนอีกมากรังแต่จะเพิ่มบาปกรรม  จนกระทั่งในคืนหนึ่งตรงกับวันเพ็ญ  ท่านได้ทำจิตรวบรวมสมาธิจนบังเกิดฌานแก่กล้าแล้วใช้พลังอำนาจเรียกมันให้มาหาแล้วบอกกับมันทางจิตว่า

        “..ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปให้เจ้าอยู่แต่ในวัดนี้  อย่าได้หนีไปเที่ยวหากินที่อื่นอีก  อย่าได้ทำบาปกรรมอีก  อย่าเอาสัตว์มีชีวิตมากินเป็นอาหาร  ให้กินแต่สัตว์ที่ตายแล้ว”

        มันฟังเข้าใจและเชื่อฟังท่านเป็นอย่างดี  ตั้งแต่คืนนั้นมันก็อยู่แต่ที่วัดภูมะโรงไม่ไปไหน ท่านบอกให้มันนอนตรงไหนมันก็นอนที่นั่น  ท่านแค่เสกข้าวก้นบาตรให้มันกินไม่ต้องผูกเชือกหรือล่ามโซ่ใดๆ  ในยามที่ชาวบ้านญาติโยมเขามาทำบุญหรือปฏิบัติธรรมท่านก็จะไล่ให้ไปหลบในที่ลับตาเสียคนเขาจะได้ไม่พากันแตกตื่นโกลาหล

ข้อมูลจาก
https://sites.google.com/site/asianmount/xaseiyn-phuthr-rm/phu-marong



ชื่อสินค้า:   ร้านกาแฟ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่