ถ้าจะต้องลงคะแนนโหวตหนึ่งร้านบุฟเฟ่ต์ยากินิคุสไตล์ญี่ปุ่นเสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพดีและคุ้มค่าดีมากที่สุดอันดับ 1-5 นั้นจะต้องติดรายชื่อ "GuruGyuu" เจ้าเก่าแก่ย่านสะพานควายอยู่ในความคิดของใครหลายๆคนอย่างแน่นอน ปัจจุบันนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไปปรับราคาใหม่เนื่องจากวัตถุดิบต่างๆขยับตัวแพงขึ้นตามแนวโน้มของเศรษฐกิจแต่ก็ยังคงซึ่งความพรีเมี่ยมพร้อมเพิ่มเมนูใหม่พิเศษประจำเดือนเอาใจสายเสพติดเนื้อวากิวตัวจริงอีกเพียบ วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกดปักหมุดขับตามระบบนำทางของแผนที่บนมือถือมีลานจอดรองรับได้ 20 คันอยู่ในโครงการ The Hub ประทับตราร้านฟรี 60 นาทีชั่วโมงถัดไปคิด 30 บาทต่อชั่วโมง หรือขึ้นลิฟต์ระบบอัตโนมัติชั่วโมงละ 50 บาทสามารถรองรับได้สูงสุด 40 คันเมื่อแสดงใบเสร็จบุฟเฟ่ต์รับสิทธิ์ 2 ชั่วโมงแรกจ่ายเพียงแค่ 50 บาทเท่านั้น (ปกติ 100 บาท) มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆให้ถึงแค่เวลา 21.00 น. (รับรถคันสุดท้ายไม่เกินเที่ยงคืน) ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีสะพานควายแล้วเรียกแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกประมาณ 500 เมตร จุดสังเกตคือใกล้ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่และป้ายพื้นสีแดงตัวอักษรสีขาวติดชื่อเด่นชัดแบบนี้แสดงว่าถึงแล้ว (สำหรับสาขานางลิ้นจี่ปิดอย่างถาวร) วันนี้ลูกค้าแน่นมากๆรีบเข้าไปด้านในเลยครับ

ถึงแม้จะปรับราคาเพิ่มยิ่งขึ้นแต่ปริมาณลูกค้าไม่ได้ลดลงนั้นสะท้อนถึงความอร่อยพรีเมี่ยมและคุ้มค่าซึ่งทางร้านพยายามมอบให้ตลอดได้เป็นอย่างดี พวกเราจึงหนีความวุ่นวายขึ้นมานั่งโต๊ะตรงบริเวณชั้นลอยแทนส่วนบรรยากาศพร้อมการตกแต่งทุกอย่างยังคงเน้นแบบดั้งเดิมเหมือน 11 ปีที่แล้วทุกประการ เริ่มต้นจากตึกแถวขนาดสองคูหาเปิดโล่งทาเพดานสีขาวทรงสูงพิเศษล้อมรอบด้วยประตูและหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ช่วยรับแสงจากธรรมชาติให้ส่องเข้าทั่วทิศดูปลอดโปร่งสบายตา/พื้นปูด้วยหินขัดมันสไตล์บ้านคนจีนโบราณ สำหรับเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะกับเก้าอี้ใช้ไม้เนื้อแข็งมีน้ำหนักมากเคลื่อนย้ายยากแต่คงทนสุดๆยกเว้นตรงบาร์ยาวตรงกลางชั้นแรกทำจากปูนเปลือย เปิดดวงไฟสีส้มสร้างอารมณ์อบอุ่น/แต้มสีดำสลับแดง-เหลืองปรับบุคลิกภาพร้านให้สดใสไม่อึดอัดจนเกินไป เตาย่างถูกติดตั้งเอาไว้ทุกแห่งพร้อมเดินระบบท่อดูดขนาดใหญ่เอาไว้ด้านล่างหมดปัญหาเรื่องหัวเหม็น พวกใบประกาศนียบัตรรับประกันความอร่อย/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์/ตู้แช่เนื้อ Gyuu Togo ทุกอย่างอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าเช่นเดิมอ่านรีวิวเก่ารอบก่อนได้ที่นี่ > https://bit.ly/3gkSktu < โดยรวมก็ไม่เปลี่ยนไปจากเก่านักเรามาเริ่มสั่งอาหารกันเลยครับ

สำหรับรายการอาหารของที่ร้าน "GuruGyuu Yakiniku" นั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 ระดับราคาได้แก่ 1. Happy Hour Buffet 399 บาท โดยตรึงเอาไว้เหมือนเดิมเพื่อเอาใจลูกค้ามีงบน้อยแต่อยากได้ความคุ้มค่าสูงสุดสั่งได้รวมทั้งหมด 26 อย่าง (เฉพาะวันอังคาร-ศุกร์ตั้งแต่เวลา 11.30-15.00 น.เท่านั้น) 2. Deluxe Buffet ปกติคือ 599 ขยับขึ้นสู่ 777 บาท เพิ่มเมนูให้อีกจาก 44 เป็น 49 อย่าง และ 3. Premium Buffet เดิมราคา 699 ปรับขึ้นไปที่ 888 บาท จัดเต็ม 66 รายการพร้อม Wagyu Festival Special Menu พิเศษได้แก่เนื้อซาบูตงวากิวกับโซโตะโมโมะวากิวทานได้ไม่อั้น รวมมินิพุดดิ้ง-ผลไม้สดให้เพียงคนละชุด (เมื่อเลือกระดับ Deluxe กับ Premium) ออเดอร์อาหารได้ตลอด 1.30 ชั่วโมงแต่นั่งลากต่อได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมงเต็ม น้ำเปล่าฟรีแต่ถ้าต้องการเครื่องดื่มรีฟิลต้องเพิ่มเงินอีกคนละ 55 บาท เด็กส่วนสูงไม่เดิน 100 ซม.กินฟรี 101-120 ซม.คิดเพียง 50% จากราคาเต็มของแต่ละระดับที่เลือก ไม่มี Vat./Service Charge ยกเว้นรูดบัตรคิดค่าธรรมเนียม 3% ส่วนเงื่อนไขและรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆด้านหลังสุดของเล่มเมนูแผ่นพับขนาดใหญ่มีเขียนแยกเอาไว้อย่างชัดเจน หรือถ้าคุณกินได้น้อยมากจะเลือกสั่งแบบ A La Carte ตรงมุมขวาล่างของแต่ละรายการนั้นจะมีราคาเขียนบอกเอาไว้ให้เราตัดสินใจตามสะดวกครับผม

สายเนื้อวัววากิวตัวจริงที่ต้องการความพรีเมี่ยมขั้นเทพห้ามพลาดกับบุฟเฟ่ต์ระดับสูงสุดของร้าน "GuruGyuu Yakiniku" ได้แก่ 4. Super Premium Buffet เมื่อก่อน 1,999 ปรับราคาเป็น 2,444 บาท เสิร์ฟอาหารจัดเต็มถึง 84 รายการ มีเมนู Hightlight ทั้ง Wagyu A5/หมูคุโรบูตะ/หอยนางรมสด/หอยเป๋าฮื้อทั้งตัว/มิโสะมันปูซูไว/กุ้งลายเสือยักษ์/หอยเชลล์ US/โฮตาเตะฮอกไกโด/กุ้งแดงหวานญี่ปุ่น ฟรีหม้อใส่ชาบูน้ำดำใหม่ล่าสุดปกติต้องจ่ายเพิ่มอีก 99 บาทรวมเครื่องดื่มรีฟิลและขนมหวานทุกอย่างสั่งไม่อั้นตลอด 1.30 ชั่วโมง (นั่งทานได้ถึง 2 ชั่วโมงเต็ม) ส่วนเงื่อนไขยิบย่อยอื่นๆไม่ต่างจาก 3 ระดับก่อนหน้านี้ โดยส่วนตัวเคยแวะมาฟินครั้งก่อนเมื่อปีที่แล้วประทับใจมากแต่เมื่อต้นเดือนมีค่าใช้จ่ายเยอะเลยปรึกษากับคุณแฟนว่าวันนี้ลดเหลือแค่ 888 บาทพอจะได้เขียนบทความรีวิวเพื่ออัปเดตใหม่อีกด้วย สำหรับใครที่สงสัยว่าเนื้อแต่ละอย่างมาจากส่วนไหนของวัวทางร้านมีตาราง "Beef Cut" ให้ชมรวม 22 เมนูแบ่งตามราคาบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นด้วยสีเหลือง/ส้ม/แดง/ดำพร้อมระดับความนุ่ม,ไขมันกำกับไว้อย่างชัดเจน

สั่งอาหารและวัตถุดิบที่อยากทานทุกอย่างไปเรียบร้อยระหว่างนี้น้องพนักงานก็ยกอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการรับประทานบุฟเฟ่ต์ต่างๆมาให้ทั้งจานแบ่งส่วนตัว/ที่คีบเหล็กยาว/ตะเกียบไม้ใช้แล้วทิ้ง/กรรไกร สำหรับใครที่กำลังทะเลาะกับเพื่อนร่วมโต๊ะหรือแฟนว่ามื้อนี้จะกินปิ้งย่างหรือชาบูดีตอนนี้ทางร้าน "GuruGyuu Yakiniku" เขาเข้าใจปัญหาจึงได้เพิ่ม "หม้อชาบูน้ำดำ+เตาแก๊ส" ราคาเพียงแค่ 99 บาท พร้อมคิดค้นน้ำจิ้มสูตรเด็ดใหม่ล่าสุดออกมารวมทั้งหมด 6 รายการได้แก่ 1. เกลือหิมาลายันสีชมพู-พริกไทยดำบดใหม่ๆเหมือน Steak House 2. น้ำจิ้มกิวทาเระหรือบาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่นสุดกลมกล่อมซึ่งครองใจลูกค้ามาได้ยาวนานกว่า 11 ปี 3. โคชูจังสูตรเกาหลีปรุงใหม่เผ็ดปนหวาน 4. มิโสะเข้มข้นพิเศษไว้ห่อกับผักสดก่อนเข้าปาก 5. น้ำจิ้มซีฟู้ดใช้พริกสดมะนาว-แท้แช่เย็นกลิ่นหอมสดชื่น 6. ซอสสุกี้ยากี้ตำรับไทยหวานปนเผ็ดละมุนทำเองซึ่งเข้ากับน้ำดำได้ดีมากๆ ส่วนเครื่องดื่มต่างๆหากต้องการเติมแบบรีฟิลไม่อั้นต้องจ่ายเพิ่มอีก 55 บาท (ยกเว้นน้ำเปล่า) ก็คือเอสโคล่า/ครีมโซดา/เลมอน/ส้ม/สตรอว์เบอร์รี่/องุ่น/ชูการ์ฟรี/ชาเขียวเย็นไม่หวาน/ชามะนาวให้เปลี่ยนแปลงรสชาติไปได้เรื่อยๆตลอด 2 ชั่วโมงกันเลยเต็มครับผม

เริ่มต้นกันด้วยจานเนื้อวัวต่างๆโดยทางร้านเลือกใช้เฉพาะสายพันธุ์ Thai-French หรือโคขุนคุณภาพสูงซึ่งถูกพัฒนาจุดเด่นและกำจัดข้อด้อยออกไปจนได้ความอร่อยทัดเทียมกับต่างชาติทั้งกลิ่นหอมละมุนให้สัมผัสนุ่ม,ปริมาณไขมันแทรกละเอียดอย่างสวยงาม จานแรกได้แก่ "เนื้อซูเปอร์มาราธอน" ส่วนน่องบริเวณขาหลังวัวติดเอ็นสีขาวชวนเคี้ยวกรุบกรอบรสชาติเข้มข้นถึงใจ "เนื้อหินอ่อน" หรือลูกมะพร้าวอยู่ตรงช่วงโคนขาหลังติดบริเวณสะโพกซึ่งมีก้อนใหญ่จุดเด่นคือนุ่มพอปานกลางและไขมันน้อย "เนื้อมาราธอน" คล้ายเมนูแรกสุดแต่เอ็นน้อย-ความเข้มข้นลดลงนิดหน่อย "เนื้อใบบัว" ตรงท้องส่วนล่างของวัวถึงจะดูมีไขมันบ้างแต่นุ่มน้อยในครัวพยายามตัดตามแนวขวางเพื่อให้กินง่ายยิ่งขึ้น "เนื้อสามศอก" ตามชื่อเลยเพราะอยู่ตรงขาหน้าใกล้ข้อต่อบริเวณศอกที่เดินเยอะรับน้ำหนักวัวจึงค่อนข้างลีนสีแดงสดพิเศษ "เนื้อตังเม" หรือร่องซี่โครงปริมาณไขมันเยอะหั่นชิ้นหนาย่างเกรียมๆเคี้ยวเต็มคำชุ่มฉ่ำสะใจที่สุด "เนื้อลูกเต๋า" คลุกกระเทียมสับโรยต้นหอมซอยค่อยๆใช้เวลาปิ้งจนสุกรอบทุกด้านเหมือนร้านเทปันยากิพร้อมระเบิดน้ำชุ่มฉ่ำเต็มปาก "ลิ้นลูกเต๋า" ใหม่ล่าสุดลิ้นวัวชิ้นโตตุ๋นจนนุ่มหมักซอสเคี้ยวง่ายๆถูกใจทุกท่านอย่างแน่นอนครับผม

รายการต่อไปส่วนตัวเคยมาทานรอบที่แล้วติดใจมากเลยออเดอร์เป็นจานใหญ่พิเศษนั่นก็คือ "เนื้อบูลโกกิ" หรือ Chuck Roll ส่วนสันคอใกล้ขาคู่หน้าอยู่ระหว่างซี่โครงซี่ลำดับที่ 6 กับ 7 ถัดจากชิ้นริบอายมีปริมาณไขมันแทรกอยู่อย่างสม่ำเสมอสวยงามพร้อมเอ็นคอลลาเจนธรรมชาติกลิ่นหอมละมุนละลายเร็วเมื่อถูกความร้อนให้สัมผัสนุ่มเคี้ยวชุ่มฉ่ำ "เนื้อจำแลง" เรียกอีกชื่อว่า Hump ส่วนหนอกวัวซึ่งนูนบนแผ่นหลังจึงไม่ค่อยได้ขยับเคลื่อนไหวกลายเป็นจุดสะสมไขมันสีชมพูอ่อนราวกับก้อนหินอ่อนสไลด์เสิร์ฟบางยิ่งอร่อยกลิ่นเบา-รสชาติไม่ค่อยเข้มข้นเหมาะสำหรับผู้เริ่มทานใหม่ๆ "เนื้อติดมันส์" หรือ Brisket ที่คนไทยเรียกว่าส่วนเสือร้องไห้อยู่ตรงท้องของวัวมีเนื้อสีแดงสดสลับชั้นไขมันคล้ายเบคอนของฝรั่งแนะนำปิ้งใช้เวลาหน่อยจนกรอบเกรียมนิดๆเพื่อรีดไขมันส่วนเกินออกยิ่งอร่อยเข้มข้นโดนใจกว่าเดิม "ลิ้นวัว" ถึงแม้จะเลือกใช้วัวสายพันธุ์ Thai-French ถูกพัฒนาโดยคนไทยแต่บอกเลยว่าคุณภาพดีไม่ต่างจากนำเข้า เพราะอัดแน่นไปด้วยไขมันแทรกละเอียดสไลด์บางให้สัมผัสเด้ง,กรุบกรอบสู้ฟันเคี้ยวเพลินดีมากเลยครับ