สตีเฟน ฮอว์คิง เจ้าของแนวคิดทางกลศาสตร์ควอนตัมที่มองว่าหลุมดำมีการแผ่รังสีได้
วัตถุอวกาศลึกลับที่มีทั้งมวล ความหนาแน่น และแรงโน้มถ่วงมหาศาลอย่างหลุมดำนั้น เดิมถูกมองว่าไม่มีสิ่งใดที่ตกลงไปโดยข้ามพ้นขอบฟ้าเหตุการณ์ (event horizon) ของมันไปแล้ว จะหวนกลับคืนออกมาได้
แต่ในปี 1974 สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษผู้ล่วงลับ ได้เสนอแนวคิดทางกลศาสตร์ควอนตัมที่มองว่า มีบางสิ่งอย่างเช่นข้อมูลควอนตัมที่ตกลงไปในหลุมดำ สามารถจะกลับออกมาได้อีกครั้งผ่านกระบวนการแผ่รังสีคล้ายความร้อนที่เรียกว่า “รังสีฮอว์คิง” (Hawking Radiation) ซึ่งอาจทำให้หลุมดำค่อย ๆ ระเหยและหดหายจนหมดสิ้นไปในวันหนึ่ง
ทว่าอนุภาคที่ถูกปลดปล่อยคืนออกมาจากหลุมดำนั้นเบาบางมาก จนไม่อาจจะสังเกตได้โดยตรงด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ปัญหานี้ทำให้ทีมนักฟิสิกส์นานาชาติจากหลายประเทศในยุโรปร่วมกันคิดค้นและสร้าง “ขอบฟ้าเหตุการณ์จำลอง” ขึ้นมา เพื่อศึกษาปรากฏการณ์การแผ่รังสีฮอว์คิงได้สะดวกขึ้นในห้องปฏิบัติการ
อ่านเพิ่ม
https://www.bbc.com/thai/articles/cn3z5m4g32zo
นักฟิสิกส์จำลองขอบหลุมดำขณะแผ่ “รังสีฮอว์คิง” ได้สำเร็จ
วัตถุอวกาศลึกลับที่มีทั้งมวล ความหนาแน่น และแรงโน้มถ่วงมหาศาลอย่างหลุมดำนั้น เดิมถูกมองว่าไม่มีสิ่งใดที่ตกลงไปโดยข้ามพ้นขอบฟ้าเหตุการณ์ (event horizon) ของมันไปแล้ว จะหวนกลับคืนออกมาได้
แต่ในปี 1974 สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษผู้ล่วงลับ ได้เสนอแนวคิดทางกลศาสตร์ควอนตัมที่มองว่า มีบางสิ่งอย่างเช่นข้อมูลควอนตัมที่ตกลงไปในหลุมดำ สามารถจะกลับออกมาได้อีกครั้งผ่านกระบวนการแผ่รังสีคล้ายความร้อนที่เรียกว่า “รังสีฮอว์คิง” (Hawking Radiation) ซึ่งอาจทำให้หลุมดำค่อย ๆ ระเหยและหดหายจนหมดสิ้นไปในวันหนึ่ง
ทว่าอนุภาคที่ถูกปลดปล่อยคืนออกมาจากหลุมดำนั้นเบาบางมาก จนไม่อาจจะสังเกตได้โดยตรงด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ปัญหานี้ทำให้ทีมนักฟิสิกส์นานาชาติจากหลายประเทศในยุโรปร่วมกันคิดค้นและสร้าง “ขอบฟ้าเหตุการณ์จำลอง” ขึ้นมา เพื่อศึกษาปรากฏการณ์การแผ่รังสีฮอว์คิงได้สะดวกขึ้นในห้องปฏิบัติการ
อ่านเพิ่ม https://www.bbc.com/thai/articles/cn3z5m4g32zo