สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักตั้งแต่ต้น
งานราชการเป็นงานที่ไม่ได้ใช้ความสามารถทักษะเต็มที่
เพราะคุณทำงานตามความคาดหวังของคนอื่น ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
ไม่ได้ใช้ศักยภาพตัวเองแบบ 100 %
ปัญหาแบบนี้เคยเจอหลายคนแล้ว
สุดท้ายต้องลาออกเพราะมีโอกาสเป็นโรคเครียดสะสมสูงมาก
บางคนเหมือนชีวิตขาดอะไรสักอย่าง ความฝัน สิ่งที่อยากจะทำมันค้างคาใจ
วิธีค้นหาตัวเอง ลองเอาสมุด กระดาษ แล้วมาเขียนลงไป
ลีสต์เป้าหมายชีวิต อะไรคือสิ่งที่ตัวเอง need ที่แท้จริง ลีสต์มาให้หมดให้ได้มากที่สุด
แล้ว ลำดับความสำคัญอะไรคือเป้าหมาสูงสุด ให้เหลือซัก 10 ข้อ
ต่อไปคือ งานที่ทำอยู่ ตอบโจทย์ที่จะไปถึงเป้าหมายหรือ ไม่
อะไรในชีวิตที่เราต้องการอยากจะทำ
ผมเคยเจอเพื่อรุ่นน้อง พ่อบังคับให้เรียน ทำงาน สถาปนิก
พอเขาเรียนจบเขาก็ทำงานสถาปนิกตามที่พ่อต้องการ แต่ ความต้องการของเขาคืออยากเป็นช่างภาพแฟชั่น
เขาหนีออกจากบ้านมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ ผม เลยมีโอกาสมาคุยกัน
ตอนนั้นเขายังไม่มีชื่อเสียง เขาได้มาทำตามความฝัน ด้วยการทำงานในสตูดิโอ เป็นช่างภาพแฟชั่น
แล้วต่อมาก็มีนิตยสารชื่อดังของเมืองไทยรับสมัคช่างภาพแฟชั่น
เขาได้เข้าไป แคสติ้งงาน และได้เป็นช่างภาพในนิตยสารดังกล่าว
ประมาณปีสองปี เขาทำผลงานมีชื่อเสียง ระดับแนวหน้าของเมืองไทย
หลังประสบผลสำเร็จ รายได้ต่อเดือน 6 หลัก มีสตูดิโอ้เป็นของตัวเอง แล้ว พ่อก็ยอมรับเขา
ถ้าเขายังทำสถาปนิกบนโต๊ะทำงานแคบๆ ชีวิตเขาคงกินเงินเดือนแค่หลักหมื่น
ปัจจุบันร่ำรวย และ มีความสุขจากงานที่ทำ คือ ตากล้อง งานที่เขารักนั่งเอง
สิ่งที่ปิดกันคุณอยู่ตอนนี้คือ คุณไม่ได้แสดงศักภาพที่อยู่ในตัวคุณออกมา
มันค้าคาในใจ และคงจะเป็นแบบนี้ตลอด และ ส่งผลต่อสุขภาพจิต
งานราชการเป็นงานที่ไม่ได้ใช้ความสามารถทักษะเต็มที่
เพราะคุณทำงานตามความคาดหวังของคนอื่น ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
ไม่ได้ใช้ศักยภาพตัวเองแบบ 100 %
ปัญหาแบบนี้เคยเจอหลายคนแล้ว
สุดท้ายต้องลาออกเพราะมีโอกาสเป็นโรคเครียดสะสมสูงมาก
บางคนเหมือนชีวิตขาดอะไรสักอย่าง ความฝัน สิ่งที่อยากจะทำมันค้างคาใจ
วิธีค้นหาตัวเอง ลองเอาสมุด กระดาษ แล้วมาเขียนลงไป
ลีสต์เป้าหมายชีวิต อะไรคือสิ่งที่ตัวเอง need ที่แท้จริง ลีสต์มาให้หมดให้ได้มากที่สุด
แล้ว ลำดับความสำคัญอะไรคือเป้าหมาสูงสุด ให้เหลือซัก 10 ข้อ
ต่อไปคือ งานที่ทำอยู่ ตอบโจทย์ที่จะไปถึงเป้าหมายหรือ ไม่
อะไรในชีวิตที่เราต้องการอยากจะทำ
ผมเคยเจอเพื่อรุ่นน้อง พ่อบังคับให้เรียน ทำงาน สถาปนิก
พอเขาเรียนจบเขาก็ทำงานสถาปนิกตามที่พ่อต้องการ แต่ ความต้องการของเขาคืออยากเป็นช่างภาพแฟชั่น
เขาหนีออกจากบ้านมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ ผม เลยมีโอกาสมาคุยกัน
ตอนนั้นเขายังไม่มีชื่อเสียง เขาได้มาทำตามความฝัน ด้วยการทำงานในสตูดิโอ เป็นช่างภาพแฟชั่น
แล้วต่อมาก็มีนิตยสารชื่อดังของเมืองไทยรับสมัคช่างภาพแฟชั่น
เขาได้เข้าไป แคสติ้งงาน และได้เป็นช่างภาพในนิตยสารดังกล่าว
ประมาณปีสองปี เขาทำผลงานมีชื่อเสียง ระดับแนวหน้าของเมืองไทย
หลังประสบผลสำเร็จ รายได้ต่อเดือน 6 หลัก มีสตูดิโอ้เป็นของตัวเอง แล้ว พ่อก็ยอมรับเขา
ถ้าเขายังทำสถาปนิกบนโต๊ะทำงานแคบๆ ชีวิตเขาคงกินเงินเดือนแค่หลักหมื่น
ปัจจุบันร่ำรวย และ มีความสุขจากงานที่ทำ คือ ตากล้อง งานที่เขารักนั่งเอง
สิ่งที่ปิดกันคุณอยู่ตอนนี้คือ คุณไม่ได้แสดงศักภาพที่อยู่ในตัวคุณออกมา
มันค้าคาในใจ และคงจะเป็นแบบนี้ตลอด และ ส่งผลต่อสุขภาพจิต
ความคิดเห็นที่ 12
สิ่งที่สำคัญกว่าการที่จะบอกว่า รู้ว่าตอนนี้ไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
คือ
มีคำตอบหรือยังว่า แล้วทำอะไรเราจะมีความสุข
หลายคน มักจะโทษแต่ปัจจุบัน
แล้วตัดสินใจง่ายๆ ว่า "ถ้าเปลี่ยน" ไปทำสิ่งๆ อื่นได้ ฉันต้องมีความสุขแน่ๆ
ทั้งๆ เรายังไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งๆ นั้นเลย เพียงแต่เราเลือกที่จะโทษสิ่งๆ ที่อยู่ในปัจจุบันก่อน
หาสิ่งที่คิดว่ามีความสุขจริงๆ ให้เจอก่อน แล้วทำมันควบคู่กันไปกับสิ่งที่ทำประจำ
คนเราไม่จำเป็นต้องได้ทำแต่ที่เราที่ชอบหรอก
บางที การทำสิ่งที่ไม่ชอบคู่ไปกับสิ่งที่ชอบ มันก็เป็นอีกวิธีในการดำเนินชีวิตครับ
คือ
มีคำตอบหรือยังว่า แล้วทำอะไรเราจะมีความสุข
หลายคน มักจะโทษแต่ปัจจุบัน
แล้วตัดสินใจง่ายๆ ว่า "ถ้าเปลี่ยน" ไปทำสิ่งๆ อื่นได้ ฉันต้องมีความสุขแน่ๆ
ทั้งๆ เรายังไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งๆ นั้นเลย เพียงแต่เราเลือกที่จะโทษสิ่งๆ ที่อยู่ในปัจจุบันก่อน
หาสิ่งที่คิดว่ามีความสุขจริงๆ ให้เจอก่อน แล้วทำมันควบคู่กันไปกับสิ่งที่ทำประจำ
คนเราไม่จำเป็นต้องได้ทำแต่ที่เราที่ชอบหรอก
บางที การทำสิ่งที่ไม่ชอบคู่ไปกับสิ่งที่ชอบ มันก็เป็นอีกวิธีในการดำเนินชีวิตครับ
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกหนื่อย เบื่อ และท้อแท้กับชีวิต ทั้งๆที่ชีวิตก็ประสบความสำเร็จ