ตอนนี้อายุ 30 ต้นๆ นิสัยเป็นคนตรงไปตรงมา ชัดเจน ไม่ชอบเสียเปรียบใคร มองเผินๆ จะดูว่าเป็นคนแรงมาก ไม่แคร์ใคร เวลาทำงานและเรื่องเงินๆทองๆจะตาต่อตา ฟันต่อฟันทันที เป็นคนมีสไตล์เป็นของตนเอง ไม่ชอบเลียนแบบใครเพื่อให้กลมกลืนไปกับสภาพสังคมคอแหลจอมปลอม สั้นๆคือไม่แอ๊บ ค่อนข้างห่ามและบ้าดีเดือด แอบโรคจิตนิดๆ เพี้ยนพอสมควร (นักเขียนส่วนใหญ่ก็ต้องติสท์ๆ ใช่ไหมล่ะ) เท่าที่สังเกตตัวเองและคนอื่นบอกดิฉันจะอยู่ประมาณนี้
เป็นคนรักการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ๆ ชอบหนังสือมากๆ ถ้าอยากได้หนังสือเล่มไหนจะต้องหามาให้ได้ ถ้าลองว่าได้ชอบจะยอมซื้อทีเป็นหมื่นๆ บาท ไม่สนอะไรทั้งนั้น สมบัติของดิฉันคือหนังสือ วันหยุดดิฉันจะมีความสุขมากถ้าได้นั่งลูบคลำและสำรวจหนังสือทุกเล่มที่เคยมีตั้งแต่เริ่มมีหนังสือเล่มแรกทีเดียว หนังสือเป็นของรักของหวงที่สุดก็ว่าได้ แม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยเด็กๆ ตอนที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก ดิฉันอยากจะอ่านหนังสือออกเร็วๆ แม่เล่านิทานให้ฟังพร้อมเปิดภาพในหนังสือนิทานประกอบ แม่อ่านออกเสียงแค่ทีเดียว หลังจากนั้นดิฉันก็พูดตามที่แม่เคยอ่านให้ฟัง เปิดหน้าหนังสือแล้วก็พูดตามที่แม่อ่านโดยที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก ความแปลกเกิดตรงที่ไม่รู้ทำไมถึงรักหนังสือ เพราะที่บ้านในครอบครัวไม่มีใครรักการอ่านเลยสักคน
ดิฉนมีหนังสือกองพะเนินเต็มบ้าน ชอบอ่านเรื่องแปลเป็นพิเศษ อ่านแนวลี้ลับ สยองขวัญ โรแมนติคผสมมีเงื่อนงำฆาตกรรม อิงประวัติศาสตร์เน้นภาษาสวยงาม นักเขียนที่ชื่นชอบแนวการเขียนเป็นพิเศษได้แก่สรจักร ศิริบริรักษ์ แซนดร้า บราวน์ เคต มอร์ตัน ฟิลิปปา เกรกอรี่ แครอลลี่ อีริคสัน หนังสือของทุกคนนี้ดิฉันตามซื้อตามเก็บหมด ดิฉันจบปริญญาทางภาษามาจากมหาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง
อยากจะรู้เหลือเกินว่ายังมีความหวังที่จะได้เขียนหนังสือและได้ตีพิมพ์แบบนักเขียนหลายๆคนในไทยไหม ดิฉันเป็นคนธรรมดาลูกตาสียายสา ไม่มีเส้นสาย ไม่ใช่คนเด่นคนดัง ไม่ใช่ลูกหรือหลานคนดัง ไม่มีญาติเป็นอธิบดี รัฐมนตรี หรือคนตำแหน่งใหญ่ในแวดวงราชการหรือระดับการเมืองแบบนักเขียนที่ประสบความสำเร็จในไทยบางคน ที่อ่านแล้วงานเขียนไม่ได้มีความวิเศษอย่างที่โปรโมท แต่กลับดังมากอย่างไม่น่าเป็นไปได้
ดิฉันเคยมีประสบการณ์เป็นข้าราชการมา 2 แห่ง เป็นสองแห่งที่มีชื่อฉาวโฉ่เรื่องทุจริต โกงกิน คอรัปชั่น รับเงินใต้โต๊ะ เป็นอันดับ 1 และอันดับที่ 2 ที่ถูกประชาชนด่ามากที่สุด ตอนนี้ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วค่ะ เพราะเกลียดความ อยุติธรรมในระบบราชการ โดยเฉพาะที่ที่เคยอยู่มาสองแห่งเน้นแต่ระบบอุปถัมภ์ วิ่งเต้นเด้งย้ายเสมอกันไม่มีใครเป็นรองใคร
งานเขียนที่เขียนแต่ไม่กล้าส่ง(เพราะกลัวผิดหวัง) ของดิฉันจะเป็นนิยายแนวจิตวิทยาอิงประสบการณ์ตรงที่ขมขื่นและเจ็บปางตายสมัยที่ยังรับราชการ ดิฉันกลัวว่าส่งไปจะไม่ผ่านเซ็นเซอร์ พยายามจะไม่ใช้ชื่อจริง แต่สถานที่นั้นบรรยายเสมือนของจริง คนในวงการนั้นอ่านแล้วรู้ทันที อยากทราบว่า ถ้าอยากจะส่งเรื่อง ควรจะส่งไปที่ไหน สำนักพิมพ์ใดที่เหมาะกับแนวนี้ หรือจะทำเป็นอีบุ๊คขายส่วนตัวดีคะ อยากเขียนเพื่อปลดปลอยบางอย่างที่คับแค้นอัดแน่นมาแสนนาน ก่อนตายอยากจะได้ตีพิมพ์หนังสือสักเล่ม พอจะมีหวังไหมคะ
พอมีหวังจะเป็นนักเขียนและได้ตีพิมพ์หนังสือแบบคนอื่นๆ บ้างไหมคะ
เป็นคนรักการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ๆ ชอบหนังสือมากๆ ถ้าอยากได้หนังสือเล่มไหนจะต้องหามาให้ได้ ถ้าลองว่าได้ชอบจะยอมซื้อทีเป็นหมื่นๆ บาท ไม่สนอะไรทั้งนั้น สมบัติของดิฉันคือหนังสือ วันหยุดดิฉันจะมีความสุขมากถ้าได้นั่งลูบคลำและสำรวจหนังสือทุกเล่มที่เคยมีตั้งแต่เริ่มมีหนังสือเล่มแรกทีเดียว หนังสือเป็นของรักของหวงที่สุดก็ว่าได้ แม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยเด็กๆ ตอนที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก ดิฉันอยากจะอ่านหนังสือออกเร็วๆ แม่เล่านิทานให้ฟังพร้อมเปิดภาพในหนังสือนิทานประกอบ แม่อ่านออกเสียงแค่ทีเดียว หลังจากนั้นดิฉันก็พูดตามที่แม่เคยอ่านให้ฟัง เปิดหน้าหนังสือแล้วก็พูดตามที่แม่อ่านโดยที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก ความแปลกเกิดตรงที่ไม่รู้ทำไมถึงรักหนังสือ เพราะที่บ้านในครอบครัวไม่มีใครรักการอ่านเลยสักคน
ดิฉนมีหนังสือกองพะเนินเต็มบ้าน ชอบอ่านเรื่องแปลเป็นพิเศษ อ่านแนวลี้ลับ สยองขวัญ โรแมนติคผสมมีเงื่อนงำฆาตกรรม อิงประวัติศาสตร์เน้นภาษาสวยงาม นักเขียนที่ชื่นชอบแนวการเขียนเป็นพิเศษได้แก่สรจักร ศิริบริรักษ์ แซนดร้า บราวน์ เคต มอร์ตัน ฟิลิปปา เกรกอรี่ แครอลลี่ อีริคสัน หนังสือของทุกคนนี้ดิฉันตามซื้อตามเก็บหมด ดิฉันจบปริญญาทางภาษามาจากมหาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง
อยากจะรู้เหลือเกินว่ายังมีความหวังที่จะได้เขียนหนังสือและได้ตีพิมพ์แบบนักเขียนหลายๆคนในไทยไหม ดิฉันเป็นคนธรรมดาลูกตาสียายสา ไม่มีเส้นสาย ไม่ใช่คนเด่นคนดัง ไม่ใช่ลูกหรือหลานคนดัง ไม่มีญาติเป็นอธิบดี รัฐมนตรี หรือคนตำแหน่งใหญ่ในแวดวงราชการหรือระดับการเมืองแบบนักเขียนที่ประสบความสำเร็จในไทยบางคน ที่อ่านแล้วงานเขียนไม่ได้มีความวิเศษอย่างที่โปรโมท แต่กลับดังมากอย่างไม่น่าเป็นไปได้
ดิฉันเคยมีประสบการณ์เป็นข้าราชการมา 2 แห่ง เป็นสองแห่งที่มีชื่อฉาวโฉ่เรื่องทุจริต โกงกิน คอรัปชั่น รับเงินใต้โต๊ะ เป็นอันดับ 1 และอันดับที่ 2 ที่ถูกประชาชนด่ามากที่สุด ตอนนี้ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วค่ะ เพราะเกลียดความ อยุติธรรมในระบบราชการ โดยเฉพาะที่ที่เคยอยู่มาสองแห่งเน้นแต่ระบบอุปถัมภ์ วิ่งเต้นเด้งย้ายเสมอกันไม่มีใครเป็นรองใคร
งานเขียนที่เขียนแต่ไม่กล้าส่ง(เพราะกลัวผิดหวัง) ของดิฉันจะเป็นนิยายแนวจิตวิทยาอิงประสบการณ์ตรงที่ขมขื่นและเจ็บปางตายสมัยที่ยังรับราชการ ดิฉันกลัวว่าส่งไปจะไม่ผ่านเซ็นเซอร์ พยายามจะไม่ใช้ชื่อจริง แต่สถานที่นั้นบรรยายเสมือนของจริง คนในวงการนั้นอ่านแล้วรู้ทันที อยากทราบว่า ถ้าอยากจะส่งเรื่อง ควรจะส่งไปที่ไหน สำนักพิมพ์ใดที่เหมาะกับแนวนี้ หรือจะทำเป็นอีบุ๊คขายส่วนตัวดีคะ อยากเขียนเพื่อปลดปลอยบางอย่างที่คับแค้นอัดแน่นมาแสนนาน ก่อนตายอยากจะได้ตีพิมพ์หนังสือสักเล่ม พอจะมีหวังไหมคะ