รู้สึกแย่ ทำงานที่เดียวกับเพื่อน แต่เพื่อนได้เงินเดือนมากกว่า ทั้งที่เราเรียนเก่งกว่า

อย่าเพิ่งด่วนว่ากันนะคะ ลองอ่านลำดับเรื่องราวก่อนค่ะ
- เราเรียนคณะ สาขาเดียวกันกับเพื่อน ตอนเรียน เพื่อนจะคิดช้ากว่าเรา เกรดเรา 3 กว่า เพื่อน 2 กว่า
- เรียนจบเราหาสมัครงานกัน เพื่อนจะทำ wfh แต่เราจะไปหาทำที่ กทม
- เราหางานได้ที่ กทม เขาจะให้เรา 20000 แต่เราไม่เอา จนเขาเสนอ 22000 ส่วนเพื่อนได้ wfh เงินเดือน 20000
- เราชวนเพื่อนมาทำด้วยกัน เราส่งเรซูเม่เพื่อนให้บริษัท (เพื่อนบอกโอเคแล้ว) ซึ่งเราบอกบริษัทแล้วว่าจะชวนเพื่อนคนนี้มา 
- เขาเสนอให้เพื่อน 20000 พอเพื่อนไม่เอาเขาเลยเสนอ 22000 แต่เพื่อนเราก็ยังไม่เอา
- เขาทักมาบอกให้เราง้อเพื่อนมาทำที่นี่หน่อย ระหว่างนั้นเขาก็ทักไปหาเพื่อนเราว่าให้ 24000 เลย
- เพื่อนยังไม่เอานะคะ แต่เราง้อ นำเสนอให้เพื่อนฟังสุดๆ
- เราคิดว่าเดี๋ยวง้อเพื่อนละเขาคงให้ 24000 เท่าเพื่อน เพราะเราเห็นว่าเกรดเราสูงกว่าเพื่อนด้วย
- แต่เขาบอกให้เรา 22000 ก่อนเดี๋ยวมาทำแล้วจะมีการปรับอีกที
- มาทำเดือนแรก เราก็คุยกะ ceo เรื่องนี้เพราะเขาถามว่าเป็นไงบ้างมีอะไรไม่โอเคมั้ย
- ceo บอกจะไปคุยกะเจ้าของบริษัทให้นะ
- ตอนนี้ผ่านมา 4 เดือน เรายัง 22000 อยู่ เดือนหน้าผ่านโปรแล้วปรับเงินเดือนไม่รู้จะได้เท่าไร
- การทำงานเราทำได้เท่าๆ กับเพื่อน ทำได้เร็วกว่า ทำโปรเจ็คเดียวกันนะคะ
- เวลาคิดถึงเรื่องเงินเดือนเรารู้สึกแย่มากๆ 2000 สำหรับเราคือเยอะค่ะ
- เราคิดอยากออกจากบริษัทเพราะเรื่องนี้ แฟนบอกว่าเราเก่งไปหาทำที่อื่นได้สบาย

เราอยากรู้ว่าเราคิดลบไปมั้ยคะ เป็นคุณจะคิดยังไงกันบ้างคะ
**แก้ไขเพิ่มเติม - ตอนนี้เราปกติกับเพื่อนค่ะ สอนบ้างไม่สอนบ้าง แล้วแต่ว่าว่างไหม เราเล่นกะเพื่อนปกตินะคะ ไม่ได้โกรธเพื่อนค่ะ แค่รู้สึกแย่กับบริษัทค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เหตุผลหนึ่งที่บริษัทไม่อนุญาติให้เปิดเผยเงินเดือนกันเพราะจะเกิดเหตุการณ์นี้แหละครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมแนะนำได้คือ อย่าเอาเงินเดือนของเราไปเทียบกับใคร (best case คือ ไม่รู้ จะดีกว่า) ถ้าเราพอในเรทที่เราได้รับ คุ้มกว่ากับงานที่ทำ ก็โอเคละครับ ถ้าคิดว่าไม่ ก็ย้ายงานเอาคร้บ แล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ

บางครั้งเงินเดือนก็ไม่ได้วัดกว่าใครเก่งกว่าใคร บางครั้งมันอยู่ที่จังหว่ะ โอกาส และความต้องการในขณะนั้นของบริษัทด้วย

อีกอย่าง อย่าใช้ชีวิตเปรียบเทียบกับคนอื่นเลยครับ ไม่งั้นชีวิคคุณจะมีแต่ความทุกข์ พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี พัฒนาตัวเอง ทำให้ดีที่สุด และอีกอย่าง อย่าพูดชมตัวเองว่าเก่งเด็ดขาด แต่ให้พูดว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง และทำได้ดีอย่างไร แทน
ความคิดเห็นที่ 8
มันเป็นเรื่องทักษะการต่อรอง
ความคิดเห็นที่ 3
โลกการทำงาน กับการเรียน แนวความคิดใช้แบบเดียวกันไม่ได้ครับ เพราะการทำงานแต่ละคนจะมีสไตล์มีทัศนคติ ฝีมือการทำงาน การเรียนรู้ ต่างกันแน่นอนครับ

ขอยกตัวอย่างใกล้ตัวเลยนะครับ อาจจะเป็นส่วนน้อยก็ได้ครับ
ลูกน้อง 2 คน คนนึงเกียรตินิยม อันดับ 1 ม.ดังเลยครับ ส่วนอีกคนม.กลางๆ ทั่วไป แต่ทัศนคติ การทำงาน ต่างกันมากครับ ความเข้าใจงาน การประยุกต์ในการทำงานก็ไม่ทันกันเลยครับ และคนที่ไม่ได้จบม.ดัง ทำได้ดีกว่าพอสมควร เลยครับ

อันนี้แค่เคสส่วนน้อย ไม่อยากเหมารวม ครับ จาก ปสก.จริง เฉยๆ ครับ  เพราะม.ดัง ทำงานดีก็เยอะเหมือนกันครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจบจากมหาวิทยาลัยที่ดี มีความรับผิดชอบในตัวเอง เป็นต้นทุนที่ดี ในการต่อยอดประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า ครับ
ความคิดเห็นที่ 13
- เป็นไปไม่ได้หรอก เพื่อนกันจะไม่คุยกันเรื่องเงินเดือน ตอนเราเรียนจบใหม่ เราก็ชวนเพื่อนมาทำงานแบบนี้แหละ คุยเรื่องเงินเดือน ควรเรียกเท่าไหร่อะไรยังไง เลยไม่แปลกใจ ถ้า จขกท จะรู้สึกเฟลเรื่องนี้ แต่อาจจะมีบางมุม เช่น จขกทกับเพื่อนถนัดไม่เหมือนกัน เลยมีส่วนต่อรองตรงนี้

ของเรา ตอนเรียน เพื่อนก็สอนเราตลอด เพื่อนเราเกียรตินิยมอันดับ 1 เลย เกรดดีมาก แต่พอทำงาน เรากลับถนัดสาย data มากกว่า
ตอนนี้เราทำ data engineer ส่วนเพื่อนทำ qa ซึ่งเงินเดือนก็ต่างกันแล้วอ่ะ ยิ่งพอได้เติบโตสายงานอาชีพ เราย้ายมาทำบริษัทต่างชาติ ซึ่งได้ wfh 100% แถมเงินเดือนกระโดดมาอีก เราเลยคิดว่า มันขึ้นอยู่กับความถนัด และช่วงจังหวะชีวิตค่ะ

แต่ถ้าเฟลมากๆ แนะนำให้ย้ายงานเลยก็ได้นะ อย่าทนอยู่ค่ะ เผื่อมีโอกาสดีๆ เข้ามา
ความคิดเห็นที่ 12
เป็น Dev ทำซัก 6 เดือน - 1 ปีแล้วออก ที่ใหม่เรียกเงินซัก 30k  พอน้องแจ้งลาออกที่เก่าจะยื้อแต่ยื้อได้แค่ลมปาก หรืออาจให้ตามที่ต้องการหรือมากกว่า
  if(ถ้าให้มากกว่าที่ใหม่){
console.log('ให้แจ้งที่ใหม่ว่าที่เก่ายื้อเท่านี้จะสู้มั้ย ')
  }

พี่ว่าสู้เชื่อพี่   อย่าสนใจที่เก่า  เดินออกมา

โลกของกรรมกร(รวยๆ)ห้องแอร์ยินดีต้อนรับครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่