สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 45
ผมนี่จะด่าแล้วนะ ถ้าไม่อ่านมาเจอประโยคนี้เสียก่อน
หรือนี้เป็นเรื่องปกติคะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ถามเพื่อประกอบการตัดสินใจในความสัมพันครั้งนี้คะ
เพราะไม่เคยมีแฟนแล้วต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน
โอเค เอาเป็นว่าไม่รู้แล้วมาถาม แปลว่ายังพยายามค้นหาความจริง
งั้นพี่จะสอนมารยาทพื้นฐานให้ก็แล้วกันครับ เพราะไม่รู้ว่าที่บ้านสอนน้องมายังไง
อย่างแรกเลยครับ การที่เราไปอาศัยพึ่งพาใคร หากเรามีมารยาทเราควรจะออกปากขอช่วยเหลือเขาในบางเรื่องเพื่อเป็นการตอนแทน
เช่น หากขอติดรถใครก็ควรเสนอตัวขอออกค่าทางด่วน หรือขอช่วยค่าน้ำมัน ถ้าเรามีมารยาท เราจะเสนอตัวเองไม่ต้องรอให้เขามาขอ
อย่างที่ 2 การคบหากันคือการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่การอุปการะฝ่ายเดียว
เพราะการอุปการะฝ่ายเดียวในการคบหา เขาใช้กับ ลูก<-พ่อแม่, เมียน้อย<-สามีคนอื่น, อีหนูหรือเด็กเสี่ย<-เสี่ยเลี้ยง
อย่างที่ 3 การเป็นแฟนต้องเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกัน ไม่ใช่หวังให้เขามาดูแล
สมัยก่อน ผู้หญิงออกมาทำงานนอกบ้านไม่ได้ จึงต้องให้สามีดูแลทั้งหมดแต่ต้องแลกมาด้วยการดูแลบ้าน ดูแลลูก เปรียบแล้วเหมือนเป็นคนรับใช้ในบ้าน แต่สมัยนี้มันไม่ใช่ ต่างคนต่างทำงานได้ หรือหากตกลงกันว่าจะไม่ทำงานนอกบ้านก็ต้องทำงานในบ้าน
ทีนี้เรามาตอบทีละประเด็น
แฟนซื้อคอนโดต้องผ่อนเดือนละ10000 น้ำไฟเขาบอกให้เราช่วยเขาออก
ความคิดเราคือ แค่ค่าน้ำไฟเขาออกให้เราไม่ได้หรอ เขาไม่มีจริงๆหรือเขาไม่อยากทำอะไรเพื่อเรา ทั้งทีเดือนๆเราก็เห็นเขาก็มีเงินไปเที่ยวกินเบีย กินเหล้าแพงๆ
การที่เขาให้อยู่ฟรี ยังไม่เรียกว่าทำอะไรเพื่อคุณอีกหรอครับ?
การผ่อนคอนโดคือการเช่าซื้อ หมายความว่า จ่ายค่าเช่าไปเรื่อยๆเมื่อครบกำหนดจึงจะได้ครอบครอง
ทุกวันนี้เขาจ่ายค่าเช่า 10,000 โดยไม่ขอให้คุณช่วยจ่าย ก็เรียกได้ว่าเป็นการเสี้ยงดูแล้วนะ
การที่เขาจะออกปากขอให้เราแบ่งเบาค่าน้ำค่าไฟ แปลว่าเขาสุดแล้วจริงๆ และเริ่มไม่มั่นในว่าคุณจะอยู่เป็นคู่ชีวิตเขาหรือว่ากาฝากจึงต้องเอ่ยปาก เพราะคุณไม่เคยเสนอตัวในเรื่องนี้เลย เท่าที่อ่านคุณแค่รับผิดชอบแต่ส่วนของตัวเองจากประโยคด้านล่าง
ไม่ได้อยากให้ใครมาเลี้ยงนะคะ มีบ้านของตัวเองของครอบครัว
สุดท้ายก็ตีความได้ว่า ต่างคนต่างจ่ายค่าใช้จ่ายตัวเอง โดยไม่ได้เผื่อแผ่ในเรื่องใดกลับไปเลย เช่นเลี้ยงข้าว/หนัง/ขนม กลับคืนให้เขาเลย
ในเมื่อต่างคนต่างจ่าย 100% ก็ควรจะทำในทุกเรื่อง
สงสัยคะเรามาอยู่กับเขาตรงนี้เขาไม่คิดจะแสดงการรับผิดชอบหรือดูแลอะไรในส่วนของเราเลยหรอ
เขาก็รับเรื่องค่าห้องไปแล้วไง จริงอยู่ว่ามันเป็นชื่อเขา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมาอยู่ฟรีๆได้เลย หากคิดว่ามันคือการแลกเปลี่ยนแบบแฟร์ๆ
เราควรอยู่กับเขาต่อไปแล้วช่วยหาร หรือแยกตัวกลับใปใช้ชีวิตโสด
แล้วแต่คุณครับ ขึ้นอยู่ที่คุณชอบพอนิสัยใจคอเขาหรือเปล่ามันเป็นเรื่องของคุณกบเขา ใครก็ตอบไม่ได้
ชอบแบบเสี่ยเลี้ยง สายเปย์ หรือชอบแบบแฟนกันเท่าเทียมก็แล้วแต่คุณครับ มันไม่ผิด
หรือนี้เป็นเรื่องปกติคะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ถามเพื่อประกอบการตัดสินใจในความสัมพันครั้งนี้คะ
เพราะไม่เคยมีแฟนแล้วต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน
โอเค เอาเป็นว่าไม่รู้แล้วมาถาม แปลว่ายังพยายามค้นหาความจริง
งั้นพี่จะสอนมารยาทพื้นฐานให้ก็แล้วกันครับ เพราะไม่รู้ว่าที่บ้านสอนน้องมายังไง
อย่างแรกเลยครับ การที่เราไปอาศัยพึ่งพาใคร หากเรามีมารยาทเราควรจะออกปากขอช่วยเหลือเขาในบางเรื่องเพื่อเป็นการตอนแทน
เช่น หากขอติดรถใครก็ควรเสนอตัวขอออกค่าทางด่วน หรือขอช่วยค่าน้ำมัน ถ้าเรามีมารยาท เราจะเสนอตัวเองไม่ต้องรอให้เขามาขอ
อย่างที่ 2 การคบหากันคือการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่การอุปการะฝ่ายเดียว
เพราะการอุปการะฝ่ายเดียวในการคบหา เขาใช้กับ ลูก<-พ่อแม่, เมียน้อย<-สามีคนอื่น, อีหนูหรือเด็กเสี่ย<-เสี่ยเลี้ยง
อย่างที่ 3 การเป็นแฟนต้องเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกัน ไม่ใช่หวังให้เขามาดูแล
สมัยก่อน ผู้หญิงออกมาทำงานนอกบ้านไม่ได้ จึงต้องให้สามีดูแลทั้งหมดแต่ต้องแลกมาด้วยการดูแลบ้าน ดูแลลูก เปรียบแล้วเหมือนเป็นคนรับใช้ในบ้าน แต่สมัยนี้มันไม่ใช่ ต่างคนต่างทำงานได้ หรือหากตกลงกันว่าจะไม่ทำงานนอกบ้านก็ต้องทำงานในบ้าน
ทีนี้เรามาตอบทีละประเด็น
แฟนซื้อคอนโดต้องผ่อนเดือนละ10000 น้ำไฟเขาบอกให้เราช่วยเขาออก
ความคิดเราคือ แค่ค่าน้ำไฟเขาออกให้เราไม่ได้หรอ เขาไม่มีจริงๆหรือเขาไม่อยากทำอะไรเพื่อเรา ทั้งทีเดือนๆเราก็เห็นเขาก็มีเงินไปเที่ยวกินเบีย กินเหล้าแพงๆ
การที่เขาให้อยู่ฟรี ยังไม่เรียกว่าทำอะไรเพื่อคุณอีกหรอครับ?
การผ่อนคอนโดคือการเช่าซื้อ หมายความว่า จ่ายค่าเช่าไปเรื่อยๆเมื่อครบกำหนดจึงจะได้ครอบครอง
ทุกวันนี้เขาจ่ายค่าเช่า 10,000 โดยไม่ขอให้คุณช่วยจ่าย ก็เรียกได้ว่าเป็นการเสี้ยงดูแล้วนะ
การที่เขาจะออกปากขอให้เราแบ่งเบาค่าน้ำค่าไฟ แปลว่าเขาสุดแล้วจริงๆ และเริ่มไม่มั่นในว่าคุณจะอยู่เป็นคู่ชีวิตเขาหรือว่ากาฝากจึงต้องเอ่ยปาก เพราะคุณไม่เคยเสนอตัวในเรื่องนี้เลย เท่าที่อ่านคุณแค่รับผิดชอบแต่ส่วนของตัวเองจากประโยคด้านล่าง
ไม่ได้อยากให้ใครมาเลี้ยงนะคะ มีบ้านของตัวเองของครอบครัว
สุดท้ายก็ตีความได้ว่า ต่างคนต่างจ่ายค่าใช้จ่ายตัวเอง โดยไม่ได้เผื่อแผ่ในเรื่องใดกลับไปเลย เช่นเลี้ยงข้าว/หนัง/ขนม กลับคืนให้เขาเลย
ในเมื่อต่างคนต่างจ่าย 100% ก็ควรจะทำในทุกเรื่อง
สงสัยคะเรามาอยู่กับเขาตรงนี้เขาไม่คิดจะแสดงการรับผิดชอบหรือดูแลอะไรในส่วนของเราเลยหรอ
เขาก็รับเรื่องค่าห้องไปแล้วไง จริงอยู่ว่ามันเป็นชื่อเขา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมาอยู่ฟรีๆได้เลย หากคิดว่ามันคือการแลกเปลี่ยนแบบแฟร์ๆ
เราควรอยู่กับเขาต่อไปแล้วช่วยหาร หรือแยกตัวกลับใปใช้ชีวิตโสด
แล้วแต่คุณครับ ขึ้นอยู่ที่คุณชอบพอนิสัยใจคอเขาหรือเปล่ามันเป็นเรื่องของคุณกบเขา ใครก็ตอบไม่ได้
ชอบแบบเสี่ยเลี้ยง สายเปย์ หรือชอบแบบแฟนกันเท่าเทียมก็แล้วแต่คุณครับ มันไม่ผิด
แสดงความคิดเห็น
แฟนซื้อคอนโด เรามาอยู่กับเขา เขาควรดูแลเราเรื่องค่าน้ำไฟหรือเราต้องช่วยออกค่ะ
แฟนซื้อคอนโดต้องผ่อนเดือนละ10000
น้ำไฟเขาบอกให้เราช่วยเขาออก
ความคิดเราคือ แค่ค่าน้ำไฟเขาออกให้เราไม่ได้หรอ เขาไม่มีจริงๆหรือเขาไม่อยากทำอะไรเพื่อเรา
ทั้งทีเดือนๆเราก็เห็นเขาก็มีเงินไปเที่ยวกินเบีย กินเหล้าแพงๆ
ค่าอาหารเราก็ไม่ได้ไปรบกวนเงินเขา เงินที่เขาหาได้สวนใหญ่ไปลงกับค่าเบีย
สงสัยคะเรามาอยู่กับเขาตรงนี้เขาไม่คิดจะแสดงการรับผิดชอบหรือดูแลอะไรในส่วนของเราเลยหรอ
ไม่ได้อยากให้ใครมาเลี้ยงนะคะ มีบ้านของตัวเองของครอบครัว
แต่เราแค่สงสัยว่า ถ้ากับเงินแค่นี้ยังมาคิดกับเรา แล้วเราจะฝากอะไรกับเขาได้บ้างคะ
เราควรอยู่กับเขาต่อไปแล้วช่วยหาร หรือแยกตัวกลับใปใช้ชีวิตโสด
หรือนี้เป็นเรื่องปกติคะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ถามเพื่อประกอบการตัดสินใจในความสัมพันครั้งนี้คะ
เพราะไม่เคยมีแฟนแล้วต้องมาอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน