รู้สึกเครียดทุกครั้งที่ใช้เงินซื้อของ กินเที่ยว เพราะกลัวจะเก็บเงินไม่พอตอนเกษียณ

ตอนนี้อายุก็ 40 กว่า ทำงานประจำบริษัทเอกชน ฐานเงินเดือนก็ 1 แสน หน่อยๆ ภาระหลักๆคือแค่ค่าผ่อนบ้าน เหลืออีกแค่ 3xx,xxx บาท โสด ไมีมีครอบครัว ปัจจุบัน เงินเดือนก็หัก PVD ไป 12% และซื้อ  RMF เดือนนึงก็ประมาณ 3หมื่นบาท เพื่อให้ได้ลดหย่อนได้สูงสุดตามสิทธิ์ รายเดือนมีเงินใช้ถือว่าไม่ขาดมือ เพราะเหลือก็จะไปเก็บในกองทุนธรรมดา ไว้ เงินเก็บก็รวมๆ แล้วไม่ได้ถือว่าเยอะพอที่จะวางใจได้ว่า เกษียณสุข ก่อน 60 ปีได้ แต่ก็ หลัก 4M ++ ก็ต้องทำงานและทยอยสะสมไปเรื่อยๆ 
     
    แต่ตอนต้นปีเพื่อนสนิทเดือนร้อนก็ให้หยิบยืมไป 1.5 แสนแบบในใจคือ ไม่คิดจะได้คืน แถมต้นปีหน้ามีแผนจะซื้อรถเพราะรถที่ใช้ก็ 10 ปีกว่าละ อยากจจะขายก่อนที่ต้องซ่อมหนัก (ต้องเตรียมเอาเงินเก็บมาดาวน์รถ) ตลอดปี ก็รู้สึกว่ามีเงินเล็กเงินน้อยให้ใช้ตลอด ไม่ว่าจะ ทีวีพัง ปั๊มน้ำเสีย ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ  ทำให้บางครั้งก็เก็บเงินไม่ได้ตามเป้า แถมยังดึงเงินที่เก็บออกมาอีก  ไหนตลอดปีกองทุนที่ซื้อก็ติดลบทุกกอง ทำให้ยิ่งกังวลหนักขึ้น บางทีถึงขนาดลงในบันทึกว่าติดหนี้กองทุนที่ซื้อเพราะไม่ตรงตามแผน  จะซื้ออะไรทีก็คิดแล้วคิดอีก หรือพอซื้ออะไรไปก็จะกลับมาหงุดหงิดตัวเองว่าทำไมสุรุ่ยสุร่าย ทั้งๆที่ สิ่งที่ซื้อก็ไม่ได้เกินตัว พวกรองเท้าวิ่งใหม่แทนที่พังไป เสื้อยืดตัวละพันกว่าบาทเพราะอยากใส่ไปข้างนอกได้ แทนตัวเก่าที่สีซีดแล้ว  เพื่อนชวนไป ตปท ก็ปฎิเสธไป ทั้งที่อยากไป แต่กลัวที่ต้องถอนเงินเก็บ ออกมา ( ทั้งๆทีกันไว้ ที่ยว แต่กลัวเงินหายเพราะกองทุนขาดทุนอยู่) 

      เริ่มตะหนกว่าเอ๊ะเราเครียดเกินไปหรือเปล่า หรืออาจจะผ่อนคายลงหน่อย ใครเคยมีอาการแบบนี้มั้ยครับ รู้สึกว่ามันไม่ดีเลย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ใช้จนติดหนี้อะไร จ่ายบัตรเครดิตพอสิ้นเดือนก็จ่ายเต็มตลอด  แต่ยอมรับว่าเมื่อก่อนเคยเป็นหนี้สินเยอะกว่าจะพ้นมาได้เลยค่อนข้างระวังการใช้เงินมากๆ  ตอนนี้กังวลว่าถ้าปีหน้ารับรถแล้วมีค่าผ่อนรถเพิ่มขึ้น จะเครียดกว่าเดิม แม้คนจะแนะนำว่าลดเงินซื้อ RMF ลงก็ได้ ไม่ต้องซื้อเต็มจะได้มีเงินบางส่วนออกมาใช้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่