พิจารณาจาก สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่เติบโตได้น้อยลงเรื่อยๆ ด้วยเพราะ เริ่มเข้าสังคมผู้สูงอายุ กับ หนี้ครัวเรือนที่สูง แถมรายได้ต่อหัวก็ไม่ได้สูงอะไร 

ไทย ควรปฎิรูประบบการคลังใหม่ จากที่ รูปแบบการคลังอนุรักษ์นิยม พยายามรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แลกกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้า เพราะ การจ้างงานน้อย การลงทุนน้อย เพราะดอกเบี้ย 0.75 % ก็ยังถือว่าสูงเกินไป ควรต่ำกว่านี้ คิดดู GDP ไทย ยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนโควิด ในขณะที่หลายประเทศฟื้นตัวเต็มที่ หรือแม้แต่ มีขนาด gdp ที่ใหญ่กว่าก่อนหน้าโควิดได้แล้ว จะอ้างว่า นักท่องเที่ยว ไม่มาก็ไม่ได้ เพราะมันก็เป็นแบบนี้ทั่วโลก 

ส่วนตัวมองว่าประเทศไทย ต้องหันมาพัฒนาตลาดภายในประเทศอย่างจริงจัง จะรอแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ได้  ต้องปฎิรูประบบการคลังใหม่ ทั้งแผง อย่างเร่งด่วน

แผนปฎิรูปการคลังใหม่ ที่นำเสนอมีดังนี้

ดอกเบี้ย - 0.10 % ( เท่าญี่ปุ่น )

งบประมาณขาดดุล 10 % ต่อ GDP ต่อปี รัฐบาลต้องใช้จ่ายมากกว่านี้ ที่ผ่านมา แม้หลังโควิด เศรษฐิจเสียหายหนัก ต้องเร่งฟื้นฟูโดยด่วน งบประมาณแผ่นดิน ก็ยังคงที่ ที่ 3 ล้านๆบาท ซึ่ง เป็นอีก สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทย โตได้แค่ 2-3 % เพราะการลงทุนโดยภาครัฐต่ำเกินไป งบประมาณ แผ่นดิน ควรเพิ่มเป็น 5- 6 ล้านล้านบาท ด้วยซ้ำ

ขาดดุลบัญชีสะพัด 10 % 

ขาดดุลการค้า   (การบริโภคภายในประเทศสูง พึ่งตลาดภายนอกน้อยลง ต้องนำเข้ามากกว่าส่งออก )

ค่าเงินบาทไหลไปถึง 200 บาท ต่อ ยูเอส ดอลลาร์

ทำอย่างไรก็ได้ ให้เศรษฐกิจร้อนแรงสุดๆ นำเข้า ส่งออก ท่องเที่ยว กระจาย เงินเฟ้อ 20-30 % ก็ไม่เป็นไร มีเงิน ก็ใช้หนี้ จับจ่ายใช้สอย ก็อยู่ได้ ต้องเปลี่ยน เศรษฐกิจไทย ให้เป็น เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยการบริโภคให้ได้